ENVIRONMENT

ล่ารายชื่อประชาชนยื่นบอร์ด สวล. ค้านโครงการ “โขง-เลย-ชี-มูล”

เครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำโขงอีสาน เตรียมล่ารายชื่อปชช. ยื่นบอร์ด สวล. ค้านโครงการ “โขง-เลย-ชี-มูล” โวยอีกขอคัดสำเนา EIA ต้องจ่ายนับหมื่นทำประชาชนเข้าไม่ถึงข้อมูลข่าวสาร

วันนี้ (19 ก.ย. 64) เครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำโขงอีสาน ได้รับหนังสือแจ้งอย่างเป็นทางการ 2 ฉบับ จากสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ แจ้งผลเรื่องการพิจารณารายงานโครงการบริหารจัดการน้ำโขงโครงการโขงเลยชีมูล โดยแรงโน้มถ่วงระยะที่ 1 ช่วง ปากแม่น้ำเลย-เขื่อนอุบลรัตน์ ว่า ตามที่เครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำโขงอีสาน ได้ส่งหนังสือขอข้อมูลรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ อีไอเอของโครงการ ที่มีพื้นที่ครอบคลุมอำเภอเชียงคาน อำเภอปากชม อำเภอนาด้วง จังหวัดเลย , อำเภอสุวรรณคูหา อำเภอนากลาง อำเภอโนนสัง อำเภอหนองบัวลำภู จังหวัดหนองบัวลำภู , อำเภอน้ำโสมอำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี และอำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น คณะผู้ชำนาญการได้พิจารณารายงานอีไอเอ เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2564 และมีมติให้สทนช.และกรมชลประทาน ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขรายงานดังกล่าว ซึ่ง สทนช.จะต้องจัดทำข้อมูลเพิ่มเติมตามมติของคชก.จนกว่าจะผ่านการพิจารณา 

สำนักงานนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (สผ.) ยังส่งหนังสือแจ้งต่อเครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำโขงอีสาน อีก 1 ฉบับ โดยระบุว่า สผ.ได้รับรายงานอีไอเอโครงการบริหารจัดการน้ำโขงเลยชีมูล โดยแรงโน้มถ่วง ระยะที่ 1 ช่วงปากน้ำเลย เขื่อนอุบลรัตน์(ฉบับเดือนมีนาคม) ของกรมชลประทานและสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และบริษัทที่ปรึกษา ครีเอทีฟ เทคโนโลยี จำกัด โดยรายงานดังกล่าวได้นำเข้าสู่การประชุมของคชก.เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา คณะกรรมการผู้ชำนาญการฯมีมติให้กรมชลประทานและสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ปรับปรุง แก้ไข และเพิ่มเติมข้อมูลในรายงานตามแนวทาง รายละเอียด ประเด็น หรือหัวข้อที่คชก.กำหนด ซึ่งปัจจุบัน กรมชลประทานและสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติยังไม่ได้จัดส่งรายงานที่ได้แก้ไขตามข้อคิดเห็นของคชก.มายัง สผ.แต่อย่างใด 

การขอเอกสารการอีไอเอโครงการดังกล่าว สผ.ไม่ขัดข้อง แต่การขอคัดสำเนาเอกสารจะต้องเสียค่าธรรมเนียมการขอขนาดกระดาษเอ 4 หน้าละ 1 บาท จำนวน 5,050 หน้า เป็นเงิน 5,050 บาท , ขนาดกระดาษเอ 3 หน้าละ 3 บาท จำนวน 55 หน้า เป็นเงิน 165 บาท รวมเป็นเงิน 5,265 บาท และหากให้รับรองสำเนาเอกสาร อัตราคำรับรองละ 3 บาท(5,105) จะมีค่าใช้จ่ายรวมเป็นเงิน 15,315 บาท ดังนั้นมีค่าใช้จ่ายร่วมเป็นเงิน 20,530 บาท ตามที่กำหนดในประกาศของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงวันที่ 9 พฤศจิกายน 2561 

นายสุวิทย์ กุหลาบวงศ์ ตัวแทนเครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำโขง อีสาน กล่าวว่า ในหลักการ ประชาชนขอดูข้อมูล ควรเป็นสิทธิอันชอบธรรม เพราะประชาชนเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากโครงการ ประกาศของสผ. จึงถือเป็นกลไกขัดขวางการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของประชาชน จำเป็นต้องมีการแก้ระเบียบให้ประชาชนได้ข้อมูลมาศึกษาเพื่อตรวจสอบโครงการ เพราะแต่ละโครงการใช้เงินหลักล้านล้านบาท สำหรับกรณีโครงการผันน้ำโขงเลยชีมูล ภาคประชาชนได้เตรียมรวบรวมรายชื่อยื่นคัดค้าน ต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เพื่อแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับโครงการนี้ 

โครงการผันน้ำโขงเลยชีมูล ระยะที่ 1 มีเป้าหมายผันน้ำจากแม่น้ำโขงเข้ามายังพื้นที่ภาคอีสานของไทยจุดเริ่มต้นโครงการอยู่ที่ปากแม่น้ำเลย อ.เชียงคาน จ.เลย ด้วยการปรับปรุงปากแม่น้ำเลย ขุดคลองชักน้ำ1 แถว เจาะอุโมงค์แบบทางเปิดน้ำจำนวน 3 ช่วง คลองลำเลียงน้ำ 5 ช่วง รวมระยะทางการผันน้ำทั้งหมด174 กิโลเมตร คาดว่าจะมีปริมาณน้ำผันจากแม่น้ำโขง 1,894 ล้าน ลบ.เมตร แบ่งเป็นในฤดูฝน 1307 ล้านลบ.เมตรและ 587 ล้าน ลบ.เมตร ในฤดูแล้ง ลงอ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ คาดว่าจะใช้เวลาในการพัฒนาโครงการ 9 ปี งบประมาณ 157,045 ล้านบาท 

แผนการพัฒนาโครงการผันน้ำโขงเลยชีมูลทั้งระบบ มีทั้งหมด 5 ระยะ ด้วยการพัฒนาอุโมงผันน้ำ 17 แถวงบประมาณกว่า 1.9 ล้านล้านบาท มีการเสนอว่า จะสร้างเขื่อนปากชมบนแม่น้ำโขงสายหลักในระยะที่3 และเขื่อนบ้านกุ่มในระยะที่ 5 ในแผนการพัฒนาโครงการดังกล่าวด้วย 

อนึ่ง เมื่อวันที่ 18 กันยายน นายพิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช รองเลขาธิการ สผ. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้แถลงถึง กรณีการขอคัดสำเนารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม โดยระบุว่ากรณีขอคัดสำเนาเป็นเอกสาร จะมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการขอคัดสำเนาเอกสารทางราชการ เป็นไปตามประกาศสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และตามประกาศคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ ซึ่ง สผ. ดำเนินการเป็นมาตรฐานเดียวกันในทุกประเภทโครงการที่มีการร้องขอคัดสำเนาเอกสาร โดยกรณีขอคัดสำเนาในรูปแบบไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด 

ทั้งนี้ผู้ขอคัดสำเนาสามารถแจ้งความประสงค์มาที่ สผ.เพื่อจะได้ดำเนินการให้เป็นไปตาม พรบ.ข้อมูลข่าวสารของทางราชการ พ.ศ.2540  และพรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ต่อไป และกรณีผู้ประสงค์ขอคัดสำเนาเป็นผู้มีรายได้น้อย สามารถแจ้งคำร้องขอในการยกเว้นค่าธรรมเนียม หรือลดอัตราค่าธรรมเนียม ตามประกาศคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ

Related Posts

Send this to a friend