“หัตตรา” ผ้าฝ้ายทอมืออีสาน และผ้าฝ้ายแกมไหมย้อมสีจากเปลือกไม้ แฟชั่นนวัตวิถีจากธรรมชาติ อัตลักษณ์ความเป็นไทยที่ต่างชาติประทับใจ
หัตตรา หรือ Hattra เป็นแบรนด์ผ้าทอมือย้อมสีจากเปลือกไม้ และผ้าฝ้ายแกมไหมของดีของจังหวัดอุดรธานี ที่นอกจากจะเป็นผ้า handmade ของไทยที่คงอัตลักษณ์ความเป็นไทยไว้ได้อย่างทรงคุณค่าและสนับสนุนกลุ่มผ้าฝ้ายทอมือย้อมสีธรรมชาติแล้ว ยังเป็นสินค้าที่มีดีไซน์ร่วมสมัย ได้รับตรามาตรฐาน Green Product และ OTOP 5 ดาว ได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ใน Thai Lifestyle Collection ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ และศรีวารี
อุไร สัจจะไพบูลย์ ประธานกลุ่มผ้าฝ้ายทอมือย้อมสีธรรมชาติบ้านนางาม เจ้าของแบรนด์ “Hattra” และดีไซน์เนอร์ประจำแบรนด์ ผู้พ่วงตำแหน่งครูช่างศิลปหัตถกรรม พุทธศักราช 2554 ประเภทงานเครื่องทอ (ผ้าฝ้ายแกมไหม) ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ SACICT เล่าว่า Hattra เกิดขึ้นในปี 2542 จากการผนวกภูมิปัญญาดั้งเดิมในท้องถิ่นเข้ากับการออกแบบที่มีความปราณีต ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคเกิดเป็นผืนผ้าที่เป็นเอกลักษณ์ สีสันสวยงาม ดูอบอุ่น สวมใส่สบาย และดีต่อสุขภาพ โดยชื่อ Hattra ต้องการสื่อให้เห็นถึงการสร้างสรรค์โลกอย่างจริงใจ และใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยสมองและสองมือของมนุษย์ ที่มีทั้งพลังแห่งการสร้างสรรค์ และความปราณีตบรรจงที่เครื่องจักรไม่อาจเทียบได้
“จากบ้านนางาม หมู่บ้านเล็กๆ ในหุบเขาที่รายล้อมไปด้วยป่าไม้ ธรรมชาติ และแหล่งน้ำอันอุดมสมบูรณ์ ในอำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ชุมชนที่มีหลักการดำเนินชีวิตเรียบง่าย ยึดถือแน่วแน่ในศีลธรรมอันดีงาม ประกอบอาชีพภายใต้ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เรียนรู้สืบทอดมากว่า 200 ปี อย่างการทอผ้า เช่น ผ้าฝ้ายทอมือลายขัดพื้นฐาน ผ้าฝ้ายแกมไหมเบญจวิถี การมัดหมี่ การทอฉลุ เป็นต้น โดยมีการย้อมสีธรรมชาติที่มาจากความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ และแร่ธาตุเป็นเอกลักษณ์สำคัญ ได้สีสันที่สดใส สวยงาม โดยจะพิถีพิถัน และทำการย้อมในช่วงเดือนมกราคมถึงเมษายนซึ่งเป็นช่วงดีที่สุดเพื่อให้ได้สีที่สดใสและมีคุณภาพสูงสุด โดยเรานำมาต่อยอดด้วยการดีไซน์ และการออกแบบที่ร่วมสมัย สามารถใส่ได้ในหลายช่วงอายุ และเป็นสากล แต่แฝงด้วยความเป็นไทย” อุไร กล่าว
จวบจนทุกวันนี้ผลิตภัณฑ์ของ Hattra ยังผลิตด้วยสมอง หัวใจ และสองมือของกลุ่มผ้าฝ้ายทอมือย้อมสีธรรมชาติบ้านนางาม ซึ่งรวมตัวกันก่อตั้งเพื่อส่งเสริมรายได้แก่สมาชิก โดยมีการบริหารงานในรูปแบบของคณะกรรมการ ซึ่งผลงานของกลุ่มฯ ได้สร้างชื่อเสียงและความภูมิใจแก่ชุมชนในท้องถิ่นและสามารถสร้างรายได้เสริมแก่ชุมชนอย่างต่อเนื่อง สิ่งสำคัญซึ่งทำให้กลุ่มได้รับความสำเร็จ เกิดจากการใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยเฉพาะการทอผ้าลายสายฝน การมัดหมี่ การทอฉลุ ฯลฯ ทำให้ผลิตภัณฑ์ของกลุ่มได้รับความนิยมอย่างสูง เมื่อจำหน่ายสู่ท้องตลาด โดยผลิตภัณฑ์ของหัตราเป็นสินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ซึ่งมีตั้งแต่ เสื้อ เสื้อคลุม กางเกง เดรส เครื่องประดับ ผ้าคลุม ไปจนถึงกระเป๋า
การพัฒนาผ้าฝ้ายทอมือของกลุ่มในปัจจุบัน ได้ผสมผสานกรรมวิธีทอผ้าที่หลากหลาย จนกลายเป็นผ้าฝ้ายแกมไหมย้อมสีธรรมชาติ “เบญจวิถี” ซึ่งเป็นผ้าทอมือที่สวยงาม โดยใช้กรรมวิธี 5 เทคนิค คือ การย้อมสีธรรมชาติของเส้นใยฝ้ายและไหมอย่างมาตรฐาน การกล่อมลายหางกระรอก การทอง้างฉลุ การทอลายขิด และเทคนิคการทอผ้าลายขัดพื้นฐาน ซึ่งเป็นการผสมกรรมวิธีทั้งหมดในผืนผ้าเดียวกัน จนได้ลวดลายงดงาม ปราณีต และให้สีสันสวยงาม ในแนวอบอุ่นจากสีธรรมชาติอย่างน่าสัมผัส ทั้งยังคิดปรุงสีใหม่ให้ใช้ย้อมได้เป็นโทนสีพาสเทลที่ดูวัยรุ่น และเป็นที่ชื่นชอบในปัจจุบันอีกด้วย
กลุ่มลูกค้ามีทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ โดยการจัดจำหน่ายทางช่องทางที่ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติเข้าถึงได้มากอย่างเช่น คิง เพาเวอร์ ทำให้ Hattra เป็นที่รู้จักมากขึ้น และเนื่องจาก Hattra เป็นสินค้าป้ายฟ้าใน คิง เพาเวอร์ ที่สามารถซื้อแล้วนำออกได้เลย ทำให้ลูกค้าชาวต่างชาติบางส่วนสามารถซื้อและใส่ในระหว่างที่เดินทางมาเที่ยวในประเทศไทยได้เลย และลูกค้าชาวไทยเองก็สามารถซื้อกลับบ้านได้เลยโดยไม่ต้องรอไฟลท์บิน หรือการจัดจำหน่ายและโชว์เคสที่ไอคอนสยามก็สร้างการรับรู้ในตัวแบรนด์ในกลุ่มนักท่องเที่ยวได้เช่นเดียวกัน
“ในอนาคตเราอยากที่จะผลิตเส้นใยย้อมสีธรรมชาติส่งให้ตลาด เพราะการย้อมสีธรรมชาติเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก และละเอียดอ่อนต้องใช้ความรู้ความชำนาญในการย้อม และอยากพัฒนาศูนย์เรียนรู้การย้อมสีธรรมชาติของกลุ่มผ้าฝ้ายทอมือย้อมสีธรรมชาติบ้านนางาม (หมู่ 7) ซึ่งเป็นศูนย์เรียนรู้การย้อมสีธรรมชาติ ด้วยความตั้งใจอันแน่วแน่ในการมอบคืนสิ่งดีดีให้กับชุมชน และหมู่บ้าน ให้เป็นการท่องเที่ยวเชิงนิเวศเพื่อให้เกิดคุณค่าอย่างยั่งยืน” อุไร กล่าว
ผู้สนใจสามารถติดตามแบรนด์ Hattra ได้ที่
Facebook
เว็บไซต์ Hattra.com
หรือเลือกชมสินค้าได้ที่ โซนสินค้าไทย #ThaiLifestyleCollection ชั้น 3 คิง เพาเวอร์ รางน้ำ และ คิง เพาเวอร์ ศรีวารี (สินค้าป้ายฟ้า สามารถซื้อได้โดยไม่ต้องมีไฟลท์บิน)
