ผลักดันวาฬบรูด้าคืนทะเล หลังเกยตื้นปากคลองอ่าวกรูด

คลื่นลมแรงฝั่งอ่าวไทยในช่วงนี้ ส่งผลให้วานนี้ (23 ธ.ค. 65) ศรชล.จ.ตราด บูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลจังหวัดตราด ทีมสัตวแพทย์ กรมประมง อบท. และอาสาสมัคร ร่วมสังเกตการณ์และช่วยเหลือวาฬขนาดใหญ่ ว่ายหลงเข้ามาเกยตื้นติดอยู่บริเวณปากคลองอ่าวกรูด ต.ห้วงน้ำขาว อ.เมือง จ.ตราด

จากการตรวจสอบ พบเป็นวาฬบรูด้า (Balaenoptera edeni) ขนาดความยาวประมาณ 10-12 เมตร อยู่ในช่วงอายุโตเต็มวัย ตรวจสุขภาพเบื้องต้น มีร่างกายซูบผอม ผิวหนังพบความผิดปกติตลอดแนวลำตัว พบแผลสดบริเวณโคนคีบหลังและปลายหางด้านซ้าย เป็นแผลที่ไม่มีผลต่อการใช้ชีวิต อัตราการหายใจนับได้ 1-3 ครั้งต่อ 5 นาที หายใจได้แรงและเร็วปกติ พฤติกรรมส่วนใหญ่ ว่ายวนอยู่กับที่และว่ายตรงไปด้านหน้า ไม่พบพฤติกรรมการกินที่ผิวน้ำ

หลังตรวจสอบเบื้องต้น ได้ร่วมกันผลักดันออกจากแนวป่าชายเลน แปลงหอยแมลงภู่และแนวเครื่องมือประมง เข้าสู่ร่องน้ำลึกบริเวณเกาะช้าง ซึ่งเป็นพื้นที่เหมาะสมและปลอดภัย แต่หลังจากเฝ้าดูระยะเวลาหนึ่ง พบวาฬยังคงมีพฤติกรรมว่ายวนไปมา แต่เนื่องจากวาฬยังว่ายน้ำและดำน้ำได้นาน จึงประสานไปยังเครือข่ายทางทะเลในพื้นที่ ให้ช่วยติดตามและเฝ้าระวังความปลอดภัยของปลาวาฬบรูด้าตัวดังกล่าวอย่างใกล้ชิด

ผลการสำรวจของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
บริเวณที่พบประชากรวาฬและโลมาน้อยที่สุด คืออ่าวไทยตะวันออก ตั้งแต่ชายฝั่ง จ.ชลบุรี ถึง จ.ตราด พบจำนวน 100 ตัว เป็นกลุ่มโลมาอิรวดี จัดเป็นวาฬประจำถิ่น ช่วงเวลาที่สำรวจพบวาฬมากที่สุด คือ เดือน พ.ค.-พ.ย. ซึ่งเป็นช่วงฤดูฝนที่น้ำจืดไหลลงทะเลปริมาณมาก โดยวาฬผู้เป็นนักล่าจะว่ายเข้าฝั่งมาหาอาหารปลาเล็กปลาน้อย เช่น ปลากะตัก ปลาทู จึงมีรายงานพบเห็นวาฬบรูด้าออกหากินบริเวณอ่าวดังกล่าวเป็นระยะ