CRIME

‘บิ๊กโจ๊ก’ แถลงจับกุมเจ้าหน้าที่รัฐเอื้อค้ามนุษย์ ลวงหญิงไทยค้าประเวณีดูไบ

‘บิ๊กโจ๊ก’ แถลงจับกุมเจ้าหน้าที่รัฐเอื้อค้ามนุษย์ ลวงหญิงไทยค้าประเวณีดูไบ ชี้ขบวนการค้ามนุษย์มักมีเจ้าหน้าที่รู้เห็น ต้องปราบปรามเด็ดขาดทั้งระบบ หลัง TIP Report ปรับไทยขึ้น Tier 2

วันนี้ (20 ต.ค. 65) เวลา 10:50 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง อาทิ พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบช.ภ.1 และรองหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน พล.ต.ต.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ ผบก.ศฝร.บช.น. พล.ต.ต.ไพโรจน์ กุจิรพันธ์ ที่ปรึกษา และ นายสมัคร ทัพธานี มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (LPN) ร่วมกันแถลงข่าวที่สมาคมพนักงานสอบสวน สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต ในกรณีการขยายผลจับกุมเจ้าหน้าที่รัฐที่เอื้อประโยชน์ให้ขบวนการหลอกลวงหญิงสาวชาวไทยไปค้าประเวณีที่ดูไบ

โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 64 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ขณะดำรงตำแหน่ง รองผู้อำนวยการ ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) ได้เดินทางไปประสานการปฏิบัติงานร่วมกับ กองบัญชาการตำรวจเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เข้าช่วยเหลือคนไทย ที่ถูกหลอกไปบังคับค้าประเวณี โดยสามารถช่วยเหลือได้ 6 คน ซึ่งอยู่ในสภาพที่ทุรนทุราย เนื่องจากถูกซ้อมและยังถูกบังคับให้รับแขกวันละ 8-12 ราย

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ทำการขยายผลจนสามารถจับกุมดำเนินคดีกับเครือข่ายขบวนการค้ามนุษย์ ตั้งแต่เอเย่นต์ที่ทำหน้าที่หลอกเหยื่อไปทำงาน และส่งตัวเหยื่อบินไปยังดูไบ ดังที่ปรากฏตามข่าวและสื่อโซเชียลมีเดีย ซึ่ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. และ ผอ.ศพดส.ตร. ได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการ ศพดส.ตร. ดำเนินการสืบสวนขยายผลจับกุมผู้เกี่ยวข้องรายอื่นๆ เพิ่มเติม รวมทั้งเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการเอื้อประโยชน์ในการกระทำผิดของเครือข่ายค้ามนุษย์เหล่านี้ และดำเนินคดีตามกฎหมายถึงที่สุดทุกราย

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวว่าจากการสืบสวนของชุดปฏิบัติการ ศพดส.ตร. ซึ่งได้ดำเนินการจับกุมและดำเนินคดีกับ นางสาวเอ (นามสมมติ) เอเย่นต์ที่ทำหน้าอำนวยความสะดวกในการส่งเหยื่อเพื่อหลีกเลี่ยงจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ภายในสนามบิน และ ส.ต.ท.มงคล ต้นงอ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งช่วยรับตัวเหยื่อผ่านด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนหางาน โดยจากการขยายผลจากผู้ต้องหาทั้งสองพบว่า ยังมีเอเย่นต์ที่ทำหน้าที่ในลักษณะเดียวกันอยู่อีก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถออกหมายจับผู้ต้องหาได้เพิ่มเติมอีก 4 ราย ประกอบด้วย

  1. น.ส.ภัทรินทร์ ด้วงหิรัญ ทำหน้าที่เป็นเอเย่นหลอกเหยื่อไปทำงาน (จับกุมได้)
  2. น.ส.สรินยา คำสุข ทำหน้าที่เป็นเอเย่นหลอกเหยื่อไปทำงาน (จับกุมได้)
  3. น.ส.แสงดาว แสงฉวี ทำหน้าที่เป็นเอเย่นรอรับตัวเหยื่อที่ดูไบ (หลบหนีอยู่ ตปท.)
  4. นายโฮ จุน ฮาว สัญชาติมาเลเซีย ทำหน้าที่เป็นเอเย่นรอรับตัวเหยื่อที่ดูไบ (หลบหนีอยู่ ตปท.)

ผู้ต้องหาทั้ง 4 รายข้างต้นนี้ จะถูกดำเนินคดีในความผิดฐานค้ามนุษย์

นอกจากนี้ จากการขยายผลจากเส้นทางการเงินของ นางสาวเอ (นามสมมติ) พบว่า มีการประสานงานอำนวยความสะดวกในการผ่านด่านตรวจคนหางาน โดยมีการจ่ายเงินให้หัวละ 4,000 บาท ซึ่งตัวเอเย่นต์จะได้ส่วนแบ่งจำนวน 1,000 บาท และอีก 3,000 บาท แบ่งให้กับตัวแทนของด่านตรวจคนหางาน จากการสืบสวนทราบว่าบุคคลดังกล่าวคือ นายสัมพันธุ์ อดีตเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนหางาน ซึ่งเอื้อประโยชน์ให้เครือข่ายค้ามนุษย์โดยทำหน้าที่เป็นตัวการหลักในการประสานงานส่งต่อรายชื่อของเหยื่อที่จะเดินทางไปต่างประเทศและรับเงินค่าดำเนินการจากเอเย่นต์ แล้วนำมาแบ่งจ่ายต่อให้กับเจ้าหน้าที่รายอื่นๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบบุลคลนั้นๆ ซึ่งมีพฤติการณ์น่าเชื่อว่าถูกหลอกลวงหรือลักลอบไปทำงานที่ต่างประเทศ โดยหากเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนหางานตรวจพบพฤติกรรมดังกล่าวจะต้องสั่งระงับการเดินทางของบุคคลนั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอหมายเข้าค้นบ้านของนายสัมพันธุ์ฯ เพื่อตรวจสอบเอกสารหลักฐาน รวมทั้งสมุดบัญชีเพื่อนำไปขยายผลต่อไป แต่ในระหว่างการสืบสวนเพื่อขออนุมัติหมายจับ นายสัมพันธุ์ฯ ได้กระทำอัตวินิบาตกรรม (ฆ่าตัวตาย) เพื่อหลบหนีความผิดไปเสียก่อน เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 65 ที่ผ่านมา

จากนั้น เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงติดตามเส้นทางการเงินจากนายสัมพันธุ์ พบว่ามียอดเงินการเรียกรับผลประโยชน์ผ่านนายสัมพันธุ์ รวมหลักล้านบาทและมีความเกี่ยวพันกับเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนหางานซึ่งมีพฤติการณ์หลีกเลี่ยงการตรวจสอบการเดินทางของเหยื่อที่ถูกหลอกไปทำงานตามรายชื่อที่ นายสัมพันธุ์ ส่งมาให้ โดยได้รับผลประโยชน์ตอบแทน อีกทั้งในทางกลับกันจะตรวจสอบและซักถามข้อมูลอย่างละเอียดกับเหยื่อหรือผู้ลักลอบเดินทางรายอื่นที่ไม่จ่ายค่าตอบ นำไปสู่การระงับการเดินทางของบุคคลนั้นๆ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับ และติดตามจับกุมได้จำนวน 5 ราย ประกอบด้วย

  1. นายวัชระ อิศรางกูร ณ อยุธยา
  2. น.ส.ปิยวรรณ โกศลบุญ
  3. น.ส.สุจิตรตา อุมะลี
  4. นายธัญทัต หวังพานิช
  5. นายกฤษฏ์หิรัญ นิธิธัญรัตน์

ผู้ต้องหาทั้ง 5 รายข้างต้น จะถูกดำเนินคดีในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตและเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับหรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่น

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวย้ำว่า ในขบวนการค้ามนุษย์ จะกระทำได้ยาก หากไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง และตอนนี้ก็ได้มีนโยบายในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ตั้งแต่ต้นทาง คือขยายผลดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องในการหลอกคนส่งไปทำงานดังกล่าว ทั้งเอเย่นต์และเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนรู้เห็น โดยเฉพาะเมื่อประเทศไทยได้รับการยกระดับสู่ Tier 2 ในรายงานการค้ามนุษย์ประจำปีของสหรัฐอเมริกา (TIP Report)

ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังเปิดเผยอีกว่ายังคงมีคนไทยที่เป็นเหยื่อการค้ามนุษย์อยู่ที่ดูไบอีกจำนวนมาก เนื่องจากเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่เปิดประเทศในช่วงสถานการณ์โควิด ประกอบกับเศรษฐกิจทั่วโลกอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่จึงทำให้คนไทยหลายคนตัดสินใจออกไปหางานทำในต่างประเทศมากขึ้นและตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์ได้ง่ายขึ้นด้วยเช่นกัน

Related Posts

Send this to a friend