โฆษก DSI ชี้ เก็บหลักฐานทุกประเภทที่เกี่ยวข้องการสร้างตึก สตง. ประสาน จนท.อย่ารื้อถอนปล่องลิฟท์
โฆษก DSI ยัน ไม่เปลี่ยนเป้าหมาย หลังเน้นเก็บปูนเป็นพยานหลักฐาน ชี้ เก็บหลักฐานทุกประเภทที่เกี่ยวข้องในการก่อสร้างตึก สตง. ประสานเจ้าหน้าที่หน้างาน หากเจอปล่องลิฟท์อย่ารื้อถอน ให้พนักงานสอบสวนเก็บหลักฐานก่อน เหตุ หากรื้อถอน จะไม่สามารถระบุย้อนหลังได้
วันนี้ (2 พ.ค. 68) พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กล่าวถึงการเปิดเอกสารหลักฐานร่วมกับกรมโยธาธิการและผังเมือง หลังตรวจยึดมาจากอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) 121 ลังว่า วานนี้ (1 พ.ค.) ได้เปิดเอกสารครบทุกลังแล้ว เบื้องต้นเอกสารเกือบทั้งหมดอาจจะพิจารณานำเข้าสำนวน โดยเอกสารจะแบ่งเป็น 3 ส่วนคือ
ส่วนที่ 1 เอกสารกิจการร่วมค้าที่ทำหน้าที่ในการก่อสร้าง การสั่งซื้ออุปกรณ์วัสดุ และการดำเนินการในการก่อสร้าง
ส่วนที่ 2 การแก้ไขแบบ
ส่วนที่ 3 เอกสารของ สตง. ที่เป็นเจ้าของสถานที่
สำหรับเอกสารทั้งหมดคือ เอกสารที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการก่อสร้าง ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่การออกแบบ การซื้อวัสดุ และการดำเนินการในการก่อสร้างว่ามีขั้นตอนเป็นมาอย่างไร ส่วนเอกสารใดที่ไม่เกี่ยวข้องจะส่งคืนให้กับเจ้าของเอกสาร กระบวนการหลังจากนี้ จะมาดูรายละเอียดในเอกสารที่ตรวจยึดว่าขาดส่วนใด และจะเรียกเจ้าของเอกสารเข้ามาชี้แจง รวมทั้งพิจารณาเชิญพยานบุคคลส่วนหนึ่งที่อยู่ในวันที่เกิดเหตุเข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติม
พ.ต.ต.วรณัน ยืนยันว่า ดีเอสไอไม่ได้เปลี่ยนเป้าหมายในการดำเนินการหาสาเหตุจากเรื่องปล่องลิฟท์ เพราะทำงานร่วมกับกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ในการเข้าไปเก็บพยานหลักฐานทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นคอนกรีต และเหล็ก ซึ่งถือเป็นองค์ประกอบสำคัญในการก่อสร้างเพื่อหาข้อสรุปว่า ตึกถล่มเป็นเพราะวัสดุอุปกรณ์ไม่ได้มาตรฐาน หรือผิดพลาดในการก่อสร้างหรือไม่
นอกจากนี้ ดีเอสไอยังประสานไปยังชุดทำงานที่อยู่ในไซต์งานว่า หากเจอปล่องลิฟท์อย่าเพิ่งดำเนินการรื้อถอน ให้แจ้งให้ทราบก่อน เพื่อประสานกรมโยธาฯ และพนักงานสอบสวนท้องที่เข้าไปเก็บพยานหลักฐานก่อน เพราะประเด็นปล่องลิฟท์ ประเด็นที่มีรายละเอียดที่ต้องอธิบายเยอะ หากมีการรื้อถอนจะไม่สามารถอธิบายย้อนหลังได้ และจะเก็บพยานหลักฐานให้ได้มากที่สุด
สำหรับการสอบปากคำวิศวกร ถือว่ามีความคืบหน้าไปอย่างมาก วันนี้ได้นัดหมายวิศวกร 10 คนเข้ามาสอบปากคำเป็นวันสุดท้าย ส่วนวิศวกรที่ถูกต้องแปลงลายเซ็น ตามกรอบระยะเวลาในการตรวจสอบลายเซ็นจะใช้เวลาไม่เกิน 30 วัน อย่างไรก็ตาม กองคดีคุ้มครองผู้บริโภคจะเข้าไปขอความเห็นจากกรมโรงงาน เกี่ยวกับประเด็นเรื่องฝุ่นแดงว่ามีความเชื่อมโยงกับเหล็กที่ใช้ในการก่อสร้างหรือไม่
