‘แมวจร-สุนัขจิ้งจอก’ นักฆ่ามือฉมังของออสเตรเลีย สร้างสถิติสังหารสัตว์อื่นปีละกว่า 2.6 พันล้านชีวิต
แคนเบอร์รา – มหาวิทยาลัยชาร์ลส์ดาร์วิน (CDU) ของออสเตรเลีย เผยแพร่ผลการศึกษาวันนี้ (16 มี.ค. 65) ที่ระบุว่าแมวจรและสุนัขจิ้งจอกในออสเตรเลีย ฆ่าสัตว์รวมกันเป็นจำนวน 2.6 พันล้านตัวทุกปี โดยแบ่งเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมราว 1.43 พันล้านตัว สัตว์เลื้อยคลาน 697 ล้านตัว และนกอีก 510 ล้านตัว
คณะนักวิจัยระบุว่าการค้นพบข้างต้นสะท้อนความจำเป็นในการยกระดับการควบคุมสัตว์สายพันธุ์พื้นเมืองบางชนิดของออสเตรเลีย เพื่อปกป้องสัตว์ป่าพื้นเมืองในประเทศ
อลิสัน สโตโบ-วิลสัน นักวิจัยอาวุโส กล่าวว่าเดิมทีตนเองนั้นมีข้อมูลผลกระทบของแมวต่อสัตว์สายพันธุ์อื่นอยู่แล้ว ซึ่งการวิจัยครั้งนี้ทำได้ทำให้เห็นภาพผลกระทบของสัตว์สองสายพันธุ์นี้ในระดับประเทศชัดเจนมากยิ่งขึ้น รวมถึงผลกระทบที่เกิดในสภาพแวดล้อมที่ต่างออกไปหรือในพื้นที่ห่างไกลออกไปมากขึ้น
“ผู้คนอาจคิดว่าแมวและสุนัขจิ้งจอกเพียงไม่กี่ตัวจะไม่มีพิษภัยอะไร แต่พอมานับรวมกันแล้วพวกมันส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง”
จากผลการศึกษาพบว่าแมวจรในออสเตรเลีย จำนวน 2.8 ล้านตัว ฆ่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 815 ล้านตัว สัตว์เลื้อยคลาน 466 ล้านตัว และนก 265 ล้านตัว ครองยอดมากกว่า 1.5 พันล้านตัวของสัตว์ทั้งหมดที่ถูกฆ่า และหากนับรวมเหยื่อของกลุ่มแมวเลี้ยงเข้าไปด้วย จำนวนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ถูกสังหารจะเพิ่มจาก 815 ล้านตัวเป็นมากกว่า 1 พันล้านตัว
ส่วนสุนัขจิ้งจอกจำนวน 1.7 ล้านตัว ซึ่งอาศัยอยู่ทั่วพื้นที่ร้อยละ 80 ของออสเตรเลีย ฆ่าสัตว์น้อยกว่าแมว แต่มันสามารถล้มเหยื่อที่มีขนาดใหญ่กว่าได้ เช่น พอสซัมและวอลลาบี โดยนักวิจัยประเมินว่าร้อยละ 29 ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 367 ล้านตัวที่ถูกสุนัขจิ้งจอกฆ่าทุกปี เป็นสัตว์สายพันธุ์พื้นเมือง
ซาราห์ เล็กจ์ นักวิจัยร่วมจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย (ANU) กล่าวกับสถานีโทรทัศน์เอบีซี (ABC) ของออสเตรเลีย ว่าหากยังไม่ปรับปรุงกระบวนการควบคุมในปัจจุบัน สิ่งมีชีวิตเสี่ยงสูญพันธุ์จำนวนหนึ่งอาจต้องสูญพันธุ์ เช่น หนูหินภาคกลาง (central rock rat) ที่มักตกเป็นเป้าของแมว อาจจะสูญพันธุ์ในอีก 20 ปีข้างหน้า
ที่มา: สำนักข่าวซินหัว












