อุปทูต ณ กรุงเฮก เผย ยอดนักท่องเที่ยวดัตช์ฟื้นเกือบเท่าช่วงก่อนโควิด

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2566 นางสาวชนม์วิพัฒน์ จ่างตระกูล อุปทูตรักษาการ ณ กรุงเฮก ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ระหว่างประเทศไทยกับประเทศเนเธอร์แลนด์

รัฐบาลไทย โดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮก ยกเว้นการตรวจลงตรา หรือวีซ่า สำหรับนักท่องเที่ยวชาวดัตช์ ระยะเวลา 30 วัน แต่หากเป็นวีซ่าประเภทอื่น ขณะนี้สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮก อำนวยความสะดวกในการขอวีซ่า ผ่านระบบออนไลน์แล้ว ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวชาวดัตช์ในประเทศไทยก็กลับมาเพิ่มขึ้นด้วย

นางสาวชนม์วิพัฒน์ เปิดเผยสถิติว่า ในปี 2566 ประเทศไทยมีปริมาณนักท่องเที่ยวชาวดัตช์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องถึง 190,000 คน ซึ่งถือว่าเยอะมาก รองลงมาจากปริมาณนักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน และฝรั่งเศส ตามลำดับในสหภาพยุโรปเท่านั้น แต่ปริมาณนักท่องเที่ยวชาวดัตช์ยังสูงกว่าปริมาณนักท่องเที่ยวชาวอิตาลี สวีเดน สเปน สวิส และเดนมาร์ก ทั้งนี้ ถือว่าเกือบเทียบเท่าปริมาณนักท่องเที่ยวชาวดัตช์ในช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโควิดที่มีถึง 200,000 คน

สำหรับพฤติกรรมการท่องเที่ยวของชาวดัตช์นั้น นางสาวชนม์วิพัฒน์ ประเมินว่า ชาวดัตช์เป็นนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง มักให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมด้วย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮก จึงจะทำการบ้านมากขึ้น ในการเจาะตลาดการท่องเที่ยวต่าง ๆ มากขึ้น ทั้งการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ (Eco-tourism) และการท่องเที่ยวของกลุ่มความหลากหลายทางเพศ (LGBT Tourism)

นางสาวชนม์วิพัฒน์ เปิดเผยว่า ททท. ยังนำเสนอในที่ประชุมทีมประเทศไทย ในการสนับสนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ทั้งการลงโฆษณา ออกงานมหกรรม และจับคู่ธุรกิจอย่างสายการบิน เนื่องจากท่าอากาศยานอัมสเตอร์ดัมสคิปโฮล ก็เป็นศูนย์กลางการบินเฉกเช่นท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดังนั้น เที่ยวบินตรงจึงเต็มทุกเที่ยวบินอยู่เสมอด้วย