POLITICS

‘ผู้นำฝ่ายค้าน’ ชี้ ‘พล.อ.ประยุทธ์’ มีพฤติกรรม ‘ค้าความตาย’ ทำให้ประเทศไทยเผชิญ วิกฤต จี้พรรคร่วมเรียกร้องให้ลาออก

เริ่มแล้ว !! อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล “ผู้นำฝ่ายค้าน” ชี้ “พล.อ.ประยุทธ์” มีพฤติกรรม “ค้าความตาย” ทำให้ประเทศไทยเผชิญ “วิกฤตผู้นำรัฐบาล ที่โอหัง คลั่งอำนาจ ไร้ประสิทธิภาพ และน่าละอาย” จากการบริหารโควิด-19 ที่ล้มเหลว จี้พรรคร่วมรัฐบาลร่วมกับประชาชน เรียกร้องให้ “พล.อ.ประยุทธ์” ลาออก

วันนี้ (31 ส.ค. 64) การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เริ่มขึ้นแล้ว โดยนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.จ.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ได้กล่าวเปิดญัตติที่พรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้ขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตั้งแต่วันที่ 31 ส.ค.- 3 ก.ย.2564

นายสมพงษ์ กล่าวว่า ประเทศไทย ณ เวลานี้มาถึงจุดที่วิกฤตที่สุดอีกครั้ง ไม่ใช่เพียงวิกฤตโรคระบาด ที่คนไทยเผชิญอยู่อย่างหนักหนาสาหัสเท่านั้น แต่เป็นวิกฤตที่เลวร้าย รุนแรง และตอกย้ำความทุกข์ที่กดทับประชาชนไทยยิ่งกว่าโรคระบาดคือ “วิกฤตผู้นำรัฐบาล ที่โอหัง คลั่งอำนาจ ไร้ประสิทธิภาพ และน่าละอาย” จากการบริหารประเทศที่ไร้ระบบ ไม่มีทศทาง จากการแก้ปัญหาโควิด-19 โดยชี้ให้เห็นว่า เป็นการแก้ไขปัญหาแบบ “เก่งคนเดียว” รวบอำนาจทั้งหมดไว้ที่ตัวเอง แต่ขาดความรู้  ความเข้าใจ ขาดความเห็นใจ และความใส่ใจที่จะรับฟังเสียงของประชาชน จนเกิดภาวะที่ประชาชนสิ้นหวัง จนมีการกล่าวหาผู้นำว่า “ใจดำ ไร้หัวใจความเป็นมนุษย์” อีกทั้งยัง“โอหัง คลั่งอำนาจ ”

นายสมพงษ์​ระบุว่า การบริหารประเทศของ พล.อ.ประยุทธ์ พบว่า ในทุกๆ 7 นาที มีคนไทยต้องตาย เพราะการบริหารจัดการสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่บกพร่อง ผิดพลาด ล้มเหลว และประมาท เลินเล่ออย่างร้ายแรง เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจวันละกว่า 8,000 ล้านบาท จากการบริหารแบบไม่บริหาร จากมาตรการประกาศล็อกดาวน์ที่ผิดพลาด และรัฐบาล ยังกู้เงินใช้จ่ายจำนวนมหาศาล มากสุดในประวัติศาสตร์การกู้ แต่กลับนำเอามาใช้แบบไร้ประสิทธิภาพ ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง เยียวยาหว่านแห ไม่ได้สร้างงานสร้างรายได้ให้พี่น้องประชาชน ล็อกดาวน์แบบเหมาเข่ง บอดมืดไม่มีทิศทางในการเยียวยาภาคธุรกิจอย่างเหมาะสม การให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เชื่องช้า พลาดเป้าอย่างเหลือเชื่อ จนทำให้บริษัทต่างๆ ต้องปิดตัวลง ต้องล้มละลาย ต้องปลดแรงงาน จนทำให้อัตราการว่างงานในระบบประกันสังคมสูงสุดเป็นประวัติการณ์
 
ขณะที่ภาคการเกษตร ที่ควรจะเป็นแหล่งค้ำจุนแหล่งสุดท้ายจากวิกฤตครั้งนี้ ก็กลับล่มสลายไปพร้อมๆ กับภาคส่วนอื่น เพราะความไร้สติปัญญาในการดูแลพืชผลการเกษตร สินค้าการเกษตรตกต่ำเป็นวิกฤตการณ์ ไร้ศักยภาพในการป้องกันการระบาดของโรคในสัตว์ ทั้งวัว ทั้งสุกร ล้มตาย เสียหายมหาศาล พี่น้องเกษตรกรทุกข์ยากแบบไม่เคยปรากฏมาก่อน  เรียกได้ว่า “ล้มเหลวในการจัดหาวัคซีนทั้งของคน และของสัตว์”
 
“รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา เป็นรัฐบาล ที่บริหารจัดการประเทศอย่างไร้องค์ความรู้ ไร้จริยธรรม และไร้ศีลธรรม เป็นรัฐบาล “ที่กล้า ที่จะค้าความตาย” ส่งมอบความเจ็บปวด ทุกข์ทรมานให้กับประชาชน อย่างถ้วนหน้า โดยท่านไม่รู้สึกละอายต่อสิ่งที่กระทำไป”
 
ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวด้วยว่า 19 เดือนเศษที่ไวรัสโควิด-19 ระบาดเข้าสู่ประเทศไทย คนไทยติดเชื้อสะสมกว่า 1 ล้านคน และเกินหมื่นชีวิตที่ต้องจากครอบครัวไปโดยไม่มีโอกาสร่ำลา จึงตั้งคำถามว่า รู้สึกอย่างไรกับตัวเลขนี้
 
“ท่านครับ “จำนวนคนตายไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่คือ ชีวิตและเป็นคนในครอบครัวของใครสักคน” นี่คือข้อความของผู้คนในสังคมที่สะท้อนบอกผ่าน social media ท่านได้ยิน ท่านรู้สึกเหมือนพวกเขามั้ยครับ”
 
นอกจากนี้ยังมีการรวบอำนาจการบริหาร มีการออกประกาศมากกว่า 40 ฉบับภายใต้การบริหาร ของ ศบค.ทำให้การควบคุมการระบาด ล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งขาดวิสัยทัศน์ ประมาท เลินเล่อ เชื่องช้า ไร้ทิศทาง ไร้การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ และยังมีความกล้าที่จะหลอกลวงประชาชนด้วยเฟคนิวส์ ที่สร้างขึ้นมา เพื่อสร้างภาพให้เห็นว่าทำได้แล้ว

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดหาวัคซีนที่ล้มเหลว การที่นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธที่จะสั่งซื้อวัคซีนให้หลายหลากชนิด ปฏิเสธการเข้าร่วมโครงการ COVAX โดยอ้างเหตุผลต่างๆ ในขณะที่มีสั่งวัคซีน Sinovac ให้เป็นวัคซีนหลักของประเทศ ทั้งๆ ที่ในช่วงนั้นยังไม่ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก และยังมีการคิดค้นสูตรฉีดวัคซีนไขว้

ในช่วงท้ายนายสมพงษ์ ได้กล่าวว่า การบริหารงานที่ผ่านมา สะท้อนคำพูดที่ประชาชนกล่าวกันว่า ผู้นำโง่เราจะตายกันใหม่ ทำให้ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ลุกขึ้นประท้วงว่าไม่สามารถใช้คำว่า โง่ ในการอภิปรายได้ ทำให้นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ได้ขอให้สมาชิก งดเว้นการประท้วงที่ไม่จำเป็น

ผู้นำฝ่ายค้านยังกล่าวถึง การอภิปรายรัฐมนตรี อีก 5 คน ประกอบด้วย

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข มีการบริหารงานจนทำให้ระบบสาธารณสุขล้มเหลว

นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.กระทรวงแรงงาน มีการบริหารงานที่บกพร่อง โดยเฉพาะการเยียวยาให้กับแรงงานและผู้ประกันตน

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.กรทรวงคมนาคม ที่มีพฤติกรรมเสเพล เข้าไปในแหล่งอบายมุข จนกลายเป็นต้นตอการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ บริหารงานด้านการเกษตรล้มเหลว จนส่งผลให้เกิดโรคระบาดในสัตว์ด้วย

นายชัยวุฒิ ธนาคมนานุสรณ์ รมว.กระทรวงดีอีเอส มีการจัดการกับข่าวปลอม และผู้คิดต่างทางการเมือง

ผู้นำฝ่ายค้าน ยังได้กล่าวสรุปทิ้งท้ายว่า วันนี้ประชาชนชาวไทยส่วนใหญ่ ได้ร่วมกันแสดงเจตจำนงในรูปแบบต่างๆ ขอให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออก จึงขอเชิญชวนพรรคร่วมรัฐบาล “หยุดการมองเห็นแต่ผลประโยชน์ทางการเมือง และผลประโยชน์ส่วนตน  ขอให้ท่านเปิดหัวใจ มองเห็นชีวิตของประชาชน” มาร่วมยืนยันเจตจำนงกับประชาชน ให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออก
 
สำหรับช่วงต้นการอภิปราย นายสมพงษ์ ได้กล่าวชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผิดถึง 2 ครั้ง โดยระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ ยงใจยุทธ ก่อนจะ จะขอภัยกลับมาพูดชื่อถูกต้อง

Related Posts

Send this to a friend