พ.ร.ก.ชะลอ พ.ร.บ.อุ้มหาย ค้างท่อ หลังวิปรัฐบาลยื่นศาล รธน.ตีความ
พ.ร.ก.ชะลอ พ.ร.บ.อุ้มหาย ค้างท่อ หลังวิปรัฐบาลยื่นศาล รธน.ตีความ ขณะที่ ผู้นำฝ่ายค้าน ชี้ เป็นประวัติศาสตร์การเมืองที่น่าอับอาย ด้าน ‘ชวน’ ขอให้ ส.ส.โชคดี แม้จะไม่ได้กลับมาทุกคน
วันนี้ (28 ก.พ. 66) นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร แจ้งต่อที่ประชุมว่า นายนิโรธ สุนทรเลขา ประธานวิปรัฐบาลยื่นรายชื่อสมาชิกจำนวน 1 ใน 5 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดว่า พระราชกำหนดขยายระยะเวลาการประกาศใช้ พระราชบัญญัติอุ้มหายฯ ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 172 และให้ส่ง ความเห็นไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาวินิจฉัยภายใน 60 วัน
เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบรายชื่อแล้ว พบว่ารายชื่อถูกต้อง จำนวน 100 คน ซึ่งมากกว่า 1 ใน 5 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมด ดังนั้นเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย จึงให้ พระราชกำหนดฉบับดังกล่าวรอการพิจารณาไปก่อนจนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นขออภิปรายในเนื้อหาที่ตนเองเตรียมไว้ว่า ตนไม่ได้ว่าอะไรในเรื่องของระบบฝ่ายนิติบัญญัติ แต่ถ้าตนไม่พูดประเทศชาติจะล่มจม และเสียหายได้ โดยเฉพาะ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ตนฝากไปถึงผู้บัญขาการตำรวจแห่งชาติว่า ให้ติดตามพลตำรวจโท อักษรย่อ จ. มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดซื้อวิทยุสื่อสารประมาณ 4,000 กว่าล้านบาททั่วประเทศ
ด้านนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร รู้สึกเสียใจที่การพิจารณากฎหมายไม่เสร็จ และไม่สามารถลงมติได้ ซึ่งมีแนวโน้มจะไม่อนุมัติกฎหมายฉบับนี้ เพราะฟังจากสมาชิกในสภาส่วนใหญ่คัดค้านและไม่เห็นด้วย จึงตั้งข้อสังเกตการยื่นศาลรัฐธรรมนูญของพรรคร่วมรัฐบาลว่า รัฐบาลคาดการณ์ว่า พ.ร.ก.ฉบับนี้ จะถูกสภาคว่ำ จึงใช้กระบวนการยื่นศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อยื้อเวลา ซึ่งจะเป็นประวัติศาสตร์ชาติไทยที่ ชง โดย ครม. กิน โดย ครม. และ อุ้มหาย โดย ครม. ถือเป็นเรื่องที่น่าอับอาย เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น เพราะผู้ที่จะยื่นศาลรัฐธรรมนูญควรจะเป็นเสียงที่ไม่อนุมัติ
การยื่นครั้งนี้จึงแปลเจตนาอื่นไม่ได้นอกจากการใช้กลไกของศาลรัฐธรรมนูญเพื่อยื้อเวลา เพราะศาลฯ ต้องใช้เวลาในการวินิจฉัย อย่างน้อยเวลา 60 วัน ทำให้ พ.ร.ก.มีผลบังคับใช้ จนกว่าจะมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญหรืออาจยื้อไปถึงรัฐบาลหน้า พร้อมกันนี้ยังตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะมีปัญหาในขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างไม่ทัน หากมีปัญหาเกิดปัญหาเกิดขึ้นเกี่ยวกับสิทธิประชาชน บุคคลที่เข้าชื่อยื่นศาลรัฐธรรมนูญวันนี้ต้องรับผิดชอบ และขอให้ประชาชนตัดสินในคูหาเลือกตั้ง
ส่วนนายชินวรณ์ บุญญเกียรติ รองประธานวิปรัฐบาล ขอฝ่ายค้านเคารพสิทธิของพรรคร่วมรัฐบาลด้วย ขอให้มองว่า เป็นการร่นเวลา การบังคับใช้กฎหมาย เพราะศาลรัฐธรรมนูญ จะใช้เวลาพิจารณาเพียงแค่ 2 เดือนเท่านั้น
ก่อนปิดการประชุม นายชวนกล่าวขอบคุณรองประธานทั้ง 2 คน ที่ช่วยงานด้วยความเหนื่อยยาก ขอบคุณเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ที่ช่วยเหลืองานมาโดยตลอด เช่นเดียวกับสื่อมวลชนที่ติดตามงานของสภาฯ ทุกคนทำงานหนักมาตลอด4 ปี แม้ ในสมัยประชุมหน้าจะไม่ได้กลับเข้าสภาฯ กันทุกคน แต่ขอให้คนที่ได้กลับมาก็ขอให้ทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป อีกทั้ง การเมืองไม่มีอะไรแน่นอน คนที่เป็นฝ่ายค้านวันนี้อาจจะได้เป็นฝ่ายรัฐบาลในวันหน้าก็ได้ ขออวยพรให้ทุกคนประสบความสำเร็จ
จากนั้น ในเวลา 13:38 น. เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรอ่านพระบรมราชโองการ ปิดสมัยประชุมรัฐสภา แล้วปิดประชุม ในเวลา 13:41 น.
