POLITICS

คมนาคมเอาจริง ตรวจรถบรรทุกควันดำที่ท่าเรือคลองเตย เจอสั่งห้ามวิ่งทันที

คมนาคมเอาจริง ตรวจรถบรรทุกควันดำที่ท่าเรือคลองเตย เจอสั่งห้ามวิ่งทันที ปรับไม่เกิน 5,000 บาท

วันนี้ (27 พ.ย. 66) นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมขนส่งทางบก ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการบูรณาการปฏิบัติงานระหว่างกรมการขนส่งทางบก และกรุงเทพมหานคร ในการตรวจวัดควันดำรถบรรทุกเพื่อป้องกันและแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ณ ท่าเรือกรุงเทพ เขตคลองเตย

นายสุรพงษ์กล่าวว่า สันดาปของเครื่องยนต์เป็นส่วนหนึ่งที่สร้างมลพิษ PM 2.5 หากเราไม่สามารถทำให้อัตรานิ่งได้ เราต้องตรวจเช็คเครื่องยนต์ และการจัดการจราจร เพื่อลดมลพิษ โดยกระทรวงคมนาคมได้สั่งการให้กรมการขนส่งทางบกเร่งรัดดำเนินการตามแผนป้องกันและลดมลพิษจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จากภาคการขนส่ งจึงร่วมมือกับกรุงเทพมหานครลงพื้นที่ตรวจควันดำรถบรรทุกที่ท่าเรือกรุงเทพ ซึ่งเป็นจุดที่มีรถบรรทุกขนส่งสินค้าเข้าออกเป็นจำนวนมาก ซึ่งได้แนะนำให้ผู้ขับรถบรรทุกดูแลเครื่องยนต์ไม่ให้มีค่าควันดำเกินกฎหมายกำหนด

นายจิรุตม์ อธิบายถึงขั้นตอนการตรวจควันดำว่า จะตรวจโดยเครื่องวัดควันดำแบบทึบแสง ซึ่งค่าควันดำต้องไม่เกิน ร้อยละ 30 ถึงจะผ่านเกณฑ์ โดยรถบรรทุกจะต้องจอดอยู่กับที่ในตำแหน่งเกียร์ว่าง ปิดระบบครื่องปรับอากาศของรถ และระบบเบรกไอเสีย และเดินครื่องยนต์ให้อยู่ในอุณหภูมิใช้งานปกติ หากตรวจพบค่าควันดำเกินกว่าร้อยละ 30 จะดำเนินการออกหนังสือแจ้งข้อกล่าวหา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายมีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท นอกจากนี้เจ้าหน้าที่จะพ่นสีแดงห้ามใช้รถ ซึ่งเจ้าของรถต้องนำรถเข้ารับการตรวจสภาพ ณ สำนักงานขนส่ง เมื่อผ่านการตรวจสภาพ จึงจะสามารถลบข้อความห้ามใช้และนำรถไปใช้งานได้

สำหรับมาตรการควบคุมควันดำรถโดยประจำทาง กระทรวงคมนาคมสั่งการไปแล้ว กองตรวจการได้ออกหนังสือแจ้งเตือนผู้ประกอบการรถ ขสมก.ให้เร่งปรับปรุงสภาพรถให้อยู่ในสภาพที่พ่นควันดำต่ำกว่ากฎหมายกำหนด โดยภายในสัปดาห์นี้จะลงพื้นที่ตรวจสอบอู่รถในกรุงเทพฯ ที่มีอยู่ประมาณ 21 อู่ เพื่อไม่ให้การจราจรติดขัด

ส่วนรถ บขส.ที่วิ่งระยะทางยาวระหว่างกรุงเทพฯ-ต่างจังหวัด จะดำเนินการตรวจที่สถานีขนส่ง 3 แห่งสำคัญ ได้แก่ เอกมัย, จตุจักร, บรมราชชนนี (สายใต้) โดยจะลงไปตรวจสอบที่อู่พร้อมใช้มาตรการกฎหมายเดียวกันกับรถบรรทุก

จากผลการตรวจควันดำของกรมการขนส่งทางบก ประจำปีงบประมาณ 2566 ตั้งแต่ 1ตุลาคม 2565- 30 กันยายน 2566 เรียกตรจรถทั้งสิ้น 275,782 คัน พบรถมีค่าควันดำเกิน 30% และพ่นเครื่องหมายห้ามใช้ 2,245 คัน แบ่งเป็นรถบรรทุก 1,925 คัน รถโดยสารประจำทาง 183 คัน และรถโดยสารไม่ประจำทาง 137 คัน

ส่วนปีงบประมาณ 2567 ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2566- 21พฤศจิกายน 2566 เรียกตรวจรถทั้งสิ้น 24,146 คัน พบรถมีคำควันดำเกิน 30% และพ่นเครื่องหมายห้ามใช้ 103 คัน แบ่งเป็นรถบรรทุก 92 คัน รถโดยสารประจำทาง 4 คัน และรถโดยสารไม่ประจำทาง 7 คัน

นายชัชชาติ กล่าวต่อว่า ฝากผู้ขับขี่เปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรองตามเวลากำหนด และตรวจสภาพรถที่มีอายุเกิน โดยวันที่ 29 พฤศจิกายนนี้ได้นัดหารือเรื่องเปลี่ยนไส้กรองและน้ำมันเครื่องรถดีเซล กับปลัดกระทรวงพลังงานและสภาอุตสาหกรรมฯ เพื่อให้ประชาชนมีทางเลือก เป็นแรงจูงใจในการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง สิ่งสำคัญคือช่วงนี้ถึงฤดูการเผาแล้ว เมื่อวานกลับจากจังหวัดอุบลราชธานีเห็นว่าบริเวณจังหวัดนครนายก มีการเผาอย่างน้อย 20-30 ไร่ จึงต้องร่วมมือกันหลายฝ่าย

กทม.ได้วางมาตรการทางกฎหมายเพิ่มเติมคือ กทม.เป็นผู้ออกใบอนุญาตก่อสร้างส่วนใหญ่ในกรุงเทพมหานคร ซึ่งรถบรรทุกส่วนใหญ่ที่เข้ามาจะยังไซต์ก่อสร้าง หากทำเกินกว่ากฎหมาย เช่น แบกน้ำหนักเกิน จะให้หยุดใบอนุญาตก่อสร้างอย่างน้อย 3 วัน โดย กทม.มีอำนาจโดยตรง ที่ผ่านมาเราควบคุมน้ำหนักได้ดี สัปดาห์นี้มีเจอบรรทุกน้ำหนักเกิน 28 ตันเพียงแค่ 2 คันเท่านั้น

Related Posts

Send this to a friend