‘เฉลิมชัย’ หวังประชาธิปัตย์กลับมาเป็นเสาหลักบ้านเมือง

ยึดหลักซื่อสัตย์สุจริตพาพรรคเดินหน้า ไม่ทำเรื่องเสื่อมเสีย จวกบางคนไม่ทำงานแต่ชอบด้อยค่าพรรค

วันนี้ (27 เม.ย.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงหนึ่งของการประชุมใหญ่สามัญพรรคประชาธิปัตย์ ประจำปี 2567 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวกับสมาชิกพรรค โดยเริ่มต้นด้วยการขอบคุณนายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน และ สส.ที่ทำให้การประชุมเดินหน้าอย่างราบรื่น พร้อมยืนยันว่าสมาชิก คณะกรรมการบริหารพรรคจะนำทุกข้อคิดเห็นของสมาชิกพรรคไปพูดคุย เพื่อปรับปรุงพรรคประชาธิปัตย์ให้ทันสมัยต่อเหตุการณ์ สถานการณ์ปัจจุบันของโลก

นายเฉลิมชัย ยืนยันว่าตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค.ที่คณะกรรมการการเลือกตั้งรับรองคณะกรรมการบริหารพรรคชุดนี้ ช่วงเวลาเกือบสี่เดือนที่ผ่านมา คณะกรรมการบริหารได้ประชุมทำงานแข่งกับเวลา วันนี้ประชาธิปัตย์ยืนหยัดด้วยหลักการและอุดมการณ์เหมือนเดิม กล้าพูดอย่างไม่อายฟ้าอายดินว่าไม่เคยทำผิดทั้งต่อหน้าและรับหลัง ยึดมั่นในความเป็นประชาธิปัตย์ 100% และย้ำว่าการฟื้นฟูพรรคประชาธิปัตย์เป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคน

สำหรับสิ่งที่ได้ดำเนินการประการแรกก็คือ การตั้งศูนย์ นวัตกรรมเพื่อการสื่อสารพรรคประชาธิปัตย์ นี่คือจุดเริ่มต้นในการใช้โซเชียลมีเดีย เพื่อการขับเคลื่อนทางการเมือง เพราะสิ่งที่เราตามเขาไม่ทันหรือที่เราเสียท่า หนึ่งอย่างที่เราพูดตรงกันคือการใช้โซเชียลมิเดีย โดยตั้ง ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ร่วมกับผู้ชำนาญการที่จะรับผิดชอบตรงนี้ ซึ่งสิ่งที่เราทำอย่างแรกคือการเปิดสมัครสมาชิกผ่านระบบออนไลน์ออนไลน์ ซึ่งถือเป็นพรรคการเมืองแรกของประเทศไทยที่สามารถทำได้ สะท้อนเห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ปรับตัวแล้ว นี่คือก้าวแรกที่เราขยับเพื่อจะให้เขารู้ว่า เราจะกลับมาอีกครั้งหนึ่ง ไม่เหมือนกับหลายคนที่ไม่ได้ทำงาน แต่กลับมาด้อยค่าพรรคประชาธิปัตย์ ตนเองก็ไม่รู้ว่าบ้านหลังนี้ไม่เคยมีอะไรให้เขาติดค้างกันบ้างเลยหรือ

“สิ่งที่ผมอยากจะเห็นในทุกวันนี้คือความมีเอกภาพของพรรคประชาธิปัตย์ และขอยืนยันกับสมาชิกพรรคว่าจะไม่ทำผิดทั้งต่อหน้าและรับหลัง มั่นใจว่าผมเป็นลูกผู้ชายคนหนึ่ง “

นายเฉลิมชัย กล่าวต่อว่าส่วนที่สองที่ได้เริ่มทำนั้น คือการตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค เพื่อกำหนดทิศทางเป้าหมายที่ชัดเจน โดยเชิญอดีต สส. และอดีตผู้บริหารของพรรคเข้ามาร่วม เพื่อกำหนดแนวทางขับเคลื่อนพรรคประชาธิปัตย์ รวมถึงจะมีการตั้งคณะทำงาน เพื่อที่จะดูแลสมาชิกพรรคทั่วประเทศ และยังมีคณะกรรมการยุทธศาสตร์การเมืองที่จะไปเรียนเชิญผู้อาวุโสหลายท่านให้มาร่วมกันวิเคราะห์ สถานการณ์การเมือง เป็นต้น

การขับเคลื่อนพรรค ในฐานะหัวหน้าพรรคตนเองจะพาพรรคประชาธิปัตย์ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง โดยจะไม่รีบก้าว ยึดหลักการและกฎหมายเป็นหลัก ขอให้ทุกคนเชื่อมั่นว่าทั้งชีวิต ตนเองมอบให้พรรคประชาธิปัตย์ และต้องการให้พรรคประชาธิปัตย์กลับมาเป็นเสาหลักของบ้านเมือง อย่างหนึ่งที่พรรคประชาธิปัตย์พูดได้อย่างเต็มปากคือ การซื่อสัตย์สุจริต ตนเองยึดหลักนี้มาทั้งชีวิต และย้ำว่าถ้าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ยึดหลักนี้ ก็คงไม่สามารถอยู่มาถึงทุกวันนี้ได้ เป็นหัวใจที่พรรคประชาธิปัตย์จะเดินไปข้างหน้าได้

ตนเองไม่เชื่อว่าพรรคไหนไม่กลัวพรรคประชาธิปัตย์ ถ้าเรามีความเป็นเอกภาพ ตนเองยืนยันจะนำพรรคเดินไปข้างหน้าและจะไม่ทำเรื่องเสียหายเสื่อมเสีย ทุกการตัดสินใจจะยึดสถาบันและองค์กรนี้เป็นหลัก ไม่มีเรื่องส่วนตัว ขอให้ทุกคนเป็นกำลังหลักที่ตนเองจะขยายฐานสมาชิกพรรค