‘ปานปรีย์’ จับมือผู้แทนกัมพูชาหน้าด่านปอยเปต ก่อน ‘เศรษฐา’ เยือนพนมเปญ

กำชับจัดการสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ หวังกู้ชื่อเสียงตลาดโรงเกลือ ยืนยันภาครัฐพร้อมหนุนท่องเที่ยว-ขนส่งชายแดน

วันนี้ (25 ก.ย. 66) นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ลงพื้นที่ตรวจราชการ จังหวัดสระแก้ว เกี่ยวกับสถานการณ์การค้าชายแดน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงประเด็นที่ภาคเอกชนขอรับการสนับสนุนเพื่อพัฒนาพื้นที่จากรัฐบาล

เวลา 08:40 น. นายปานปรีย์ เข้าประชุมรับฟังบรรยายสรุปจากผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว พร้อมหารือผู้แทนจังหวัดสระแก้ว และผู้แทนหอการค้าจังหวัดสระแก้ว ณ ห้องประชุม จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อำเภออรัญประเทศ เพื่อนำไปส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ชายแดน รวมถึงเพิ่มพูนการค้าไทย-กัมพูชาจากกว่า 3 แสนล้านบาท เมื่อปี 2565 ให้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งการประชุมนี้เป็นการประชุมแบบปิด ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง

เวลา 11:30 น. นายปานปรีย์ และคณะ เดินเท้าผ่านจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก ไปยังสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา (อรัญประเทศ-ปอยเปต) โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดบันทายมีชัย ราชอาณาจักรกัมพูชา รอต้อนรับและทักทายด้วยความยินดี ทางด้านนายปานปรีย์ ได้มอบของที่ระลึกและกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้พบกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ในที่ประชุม UNGA ณ นครนิวยอร์ก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ก็มีกำหนดจะเดินทางเยือนกัมพูชาอีกด้วย วันนี้จึงขอขอบคุณท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัด และรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้มาพบกัน พร้อมกระชับความร่วมมือทางการค้าระหว่างไทยและกัมพูชา

เวลา 12:00 น. นายปานปรีย์ เข้าฟังรายงาน ณ สถานีรถไฟด่านพรมแดนบ้านคลองลึก ก่อนเดินเท้าไปรับฟังปัญหาจากผู้ประกอบการในตลาดโรงเกลือ ซึ่งได้สะท้อนปัญหาเกี่ยวกับสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ตลาดออนไลน์ ปัญหาการเรียกค่าคุ้มครอง และปัญหาการจัดการที่ดินในการทำมาหากิน

นายปานปรีย์ กล่าวต่อผู้ประกอบการในตลาดโรงเกลือว่า รู้สึกยินดีที่ได้มาพบปะพี่น้องทุกท่านที่เป็นผู้ประกอบการ ถือเป็นครั้งแรกที่มาที่นี่ ก็รู้สึกตื่นเต้น ดีใจที่ได้มาเยือน เพราะได้ยินชื่อเสียงของตลาดโรงเกลือมานานแล้ว ในโอกาสที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะเยือนกัมพูชา ในการประชุม ASEAN-Cambodia Business Summit 2023 ณ กรุงพนมเปญ ในวันที่ 28 ก.ย. 66 จึงขออนุญาตใช้โอกาสนี้มารับฟังปัญหา โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจชายแดน หลังจากพวกเราต้องประสบกับปัญหาโควิด โดยเชื่อว่าเศรษฐกิจในช่วงนั้น ก็คงตกลงไปอย่างมาก

“เราจะเข้าไปเจรจากับทางกัมพูชา เชื่อว่าทางฝั่งกัมพูชาจะเดินทางเข้ามาประเทศไทยมากขึ้น ขณะเดียวกันในฐานะที่ผมกำกับดูแลการท่องเที่ยว ก็จะผลักดันชาวไทยให้มาท่องเที่ยวที่จังหวัดสระแก้วเพิ่มขึ้น และตลาดโรงเกลือจะเป็นจุดหนึ่งที่มีส่วนสำคัญที่ทำให้ต่างจังหวัด คนจากจังหวัดอื่นได้เข้ามาจับจ่ายใช้สอยในโรงเกลือได้มากขึ้น” นายปานปรีย์ กล่าว

นายปานปรีย์ ยังกล่าวว่า หากทำให้ตลาดโรงเกลือไม่ได้เป็นแบบที่คนอื่นกล่าวหา ก็จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ต้องแก้ปัญหาที่ต้นเหตุให้ได้ ชื่อเสียงของโรงเกลือต้องกลับมา เวลานี้เศรษฐกิจเริ่มดีขึ้นก็เป็นโอกาสที่จะดึงชื่อเสียงกลับมา ไม่ให้คนมีข้อสงสัย ผมเชื่อว่าทุกท่านบริสุทธิ์ ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์ อาจจะมีบ้าง ผมไม่ทราบอาจจะมีบางเจ้าที่แอบทำบ้าง ซึ่งพูดตรงๆ ปลาเน่าตัวเดียวอาจจะเน่ากันไปหมด มันก็ไม่เป็นธรรม ต้องมาคุยกันและต้องให้เลิก ส่วนในภาครัฐก็จะให้การสนับสนุนเต็มที่อยู่แล้ว เรื่องการท่องเที่ยว การขนส่ง

ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เน้นย้ำว่าจะมอบหมายปลัดจังหวัด ดำเนินการต่อผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ให้หมดไป โดยจะมีการขึ้นบัญชีผู้มีอิทธิพลตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงบ่าย นายปานปรีย์ มีกำหนดเดินทางเยือนสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา (บ้านหนองเอี่ยน-สตึงบก) ตำบลท่าข้าม อำเภออรัญประเทศด้วย ติดตามรายงานสดได้ที่ THE REPORTERS