POLITICS

‘วิษณุ’ คาดเห็นโฉม ครม.ใหม่สิงหาคมนี้ มองไม่มีประโยชน์ที่จะถ่วงเวลาไปถึง 10 เดือน

‘วิษณุ’ คาดเห็นโฉม ครม.ใหม่สิงหาคมนี้ มองไม่มีประโยชน์ที่จะถ่วงเวลาไปถึง 10 เดือน บอก สว.หมดอายุเลือกนายกฯ แค่ 5 ปี แต่หาก สว.ชุดนี้หมดวาระลง ยังอยู่รักษาการต่อไปจนกว่าจะมี สว.ชุดใหม่

วันนี้ (25 ก.ค. 66) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ระบุถึงกรณีข้อเสนอการยืดการ โหวตนายกรัฐมนตรีออกไป 10 เดือนเพื่อรอให้สมาชิกวุฒิสภา หรือ สว. หมดวาระลง ว่า ตนไม่เคยได้ยิน ได้ยินแต่จากพรรคทั้งหลายพากันปฏิเสธ ไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น และรัฐบาลเองก็ไม่อยากที่จะอยู่อย่างนั้น ซึ่ง แต่ละคนสมควรที่หมดเวลาแล้วก็ควรแยกย้ายกันไปทำมาหากิน

เมื่อถามว่าเป็นทางที่พรรคก้าวไกลต้องการยืดเวลาออกไป นายวิษณุ กล่าวว่าพรรคเพื่อไทยเคยพูดแล้วว่าหนทางนี้เป็นหนทางสุดท้ายที่ต้องคิด เพราะมีหนทางอื่น มีวิธีอื่น และมองว่าไม่มีประโยชน์ที่จะถ่วงเวลาไป อย่างนั้น เพราะการจะแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ ก็ลำบาก จะเสนองบประมาณเข้าสู่สภาก็ไม่ได้ และระหว่างนี้ยังคงต้องไปตอบกระทู้หากมีการถามมา

นายวิษณุ ยังถามกลับว่า จะไปลำบากทำแบบนั้นทำไม ในเมื่อมันไม่ได้ลำบากยากเย็นในการตั้ง เพียงแต่ หนักนิดเบาหน่อย ถอยหน่อย อะไรกันหน่อย มันก็สามารถทำได้ ซึ่งรัฐบาลรักษาการก็ไม่ได้ต้องการที่จะอยู่อย่างนั้น และฝ่ายเขาเองให้ก็ไม่ได้อยากให้อยู่แบบนั้นแบบนั้น รวมไปถึงประชาชน ก็ยิ่งไม่อยากให้เป็นแบบนั้น อยากเห็นรัฐบาลไม่ว่าพรรคใดก็ตาม ช่วยมาเป็นรัฐบาลทีเถอะ

ส่วนหาก สว.หมดวาระลงขั้นตอนต่อไปในนั้น นายวิษณุกล่าวว่า ในรัฐธรรมนูญเขียนไว้ ระหว่างที่การคัดสรร สว.ชุดใหม่ สว.เดิมต้องรักษาการต่อไปก่อนแต่ไม่สามารถโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้ เพราะล็อกไว้ที่ 5 ปี ในวันที่ 11 พ.ค. 2567 ก็หมดวาระ แต่ สว.ก็มีหน้าที่อื่น ที่ไม่ใช่การเลือกนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 272

ทั้งนี้นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบว่าจะใช้เวลาในการสรรหา สว.ชุดใหม่นานเท่าใด เพราะมีกฎหมายลูกว่าด้วยการคัดสรร สว.จากอาชีพ ไม่ได้คัดสรรตามจังหวัดโดยมีคณะกรรมการเลือกตั้ง หรือ กกต.เป็นผู้จัดการ โดยเมื่อใกล้หมดวาระ ทาง กกต.จะเป็นผู้วางไทม์ไลน์ การสรรหา

ส่วนมีโอกาสที่จะแก้ไขจากการสรรหามาเป็นการเลือกตั้งแทนหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า แบบใหม่จะต้องเลือกตั้ง แต่ไม่ได้เลือกโดยตรง เป็นการเลือกจากอาชีพ จากกลุ่มต่างๆ “ส่วนหากจะเปลี่ยนวิธีใหม่จะต้องแก้รัฐธรรมนูญถือเป็นเรื่องใหญ่มาก ใหญ่สุดๆ จนอาจจะต้องทำประชามติกันเลย”

โดยนายวิษณุ ยังอธิบายด้วยว่า บทบัญญัติในการสรรหา สว.แบบใหม่เขียนไว้ในหลายมาตรา เพราะฉะนั้นการแก้จะต้องรื้อ และคิดว่าคงไม่มีใครทำแบบนั้น นอกจากเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ

ขณะเดียวกันนายวิษณุ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีการถกเถียงผู้ตรวจการแผ่ยดินสามารถ ยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ กรณีการใช้ข้อบังคับการประชุมรัฐสภาข้อที่ 41 ไม่สามารถโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ซ้ำได้เนื่องจากเป็นญัตติที่ถูกตีตกไปแล้วนั้น ว่า ตนไม่ขอตอบในเรื่องนี้ เมื่อผู้ตรวจการแผ่นดินชี้แล้วก็เคารพ และเมื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ ก็ต้องรอฟังจากศาล

เมื่อถามว่าทำให้ต้องยืดเวลา การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 27 กรกฎาคมนี้ออกไป นายวิษณุกล่าวว่าก็เป็นธรรมดา โดยได้ยินว่าทางสภาฯมีการเลื่อนโหวตในวันดังกล่าวอยู่แล้ว ซึ่งก็ถูกต้อง ส่วนจะเลื่อนไปนานแค่ไหนทางผู้ตรวจการแผ่นดินขอให้รอจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย ซึ่งในระหว่างนี้ เอาไว้ก่อนมีการคุ้มครองชั่วคราวไม่พอและต่อไปนี้ ต้องรอตามรัฐธรรมนูญวินิจฉัย และคิดว่าศาลรัฐธรรมนูญคงไม่ใช้เวลานาน เนื่องจากเป็นปัญหาข้อกฎหมาย ไม่ใช่ปัญหาข้อเท็จจริง แต่เราต้องให้เวลาพอสมควร ที่ให้อีกฝ่ายได้ชี้แจง

ส่วนปฏิทินการได้มาซึ่งนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ที่ดูเหมือนว่าจะมีการขยับไทม์ไลน์อออกไปคิดว่าอย่างช้าควรแล้วเสร็จเมื่อใดนั้นนาย วิษณุ กล่าวว่า ขณะนี้เรายังรู้สึกเดือดร้อนทนไม่ไหวใครช่างคิดให้ขยับไปตั้ง 10 เดือน เพราะฉะนั้นคิดว่าถ้าจะขยับไปตอนนี้ก็คงไม่มากโดยตนมองในแง่ดี น่าจะได้ในเดือนสิงหาคมน่าจะได้นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลใหม่ แต่ยังทำงานไม่ได้ในระหว่างนั้น เพราะต้องตั้ง ครม. เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณ ก่อนรับตำแหน่งรวมไปถึง การแถลงนโยบายต่อสภาฯ ด้วย

เมื่อถามย้ำว่าหากไม่สามารถหาทางออกได้จริง ข้อเสนอนายกฯ คนนอกมีความเป็นไปได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ทั้งนั้น แต่ยากมาก การที่จะมีนายกฯ คนนอก ต้องอาศัยเสียงตามมาตรา 272 วรรค 2 ต้องอาศัยเสียงจากสภาฯ เกินกว่า 376 เสียง ซึ่งวุ่นวายยุ่งยากในขั้นตอน ไม่มีใครคิดไปถึงขั้นนั้น

ส่วนหากหลุดเดือนสิงหาคมไปรัฐบาลรักษาการต้องเตรียมอะไรหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่าไม่มีอะไรต้องเตรียม เพราะการแต่งตั้งโยกย้ายสามารถทำได้ แต่ต้องขอความเห็นชอบจาก กกต.แต่เป็นห่วงว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดจะเกษียณอายุราชการหลายจังหวัด ปลัดกระทรวง อธิบดี ที่สามารถเสนอแต่งตั้ง ได้ตามปกติ แต่ต้องอาศัยการเห็นชอบจาก กกต. ส่วนงบประมาณก็ใช้งบกลางปีที่แล้วเหมือนคราวก่อน ส่วนงบทำการในส่วนเงินเดือนค่าตอบแทนจะไปลงทุนโครงการอะไรไม่ได้ ยกเว้นเป็นโครงการผูกพันมาก่อน เสนองบประมาณเข้าสภาฯไม่ได้

เมื่อถามว่าตั้งแต่นายวิษณุ รับราชการมาเคยพบกับสถานการณ์การจัดตั้งรัฐบาลที่ลำบากอย่างนี้หรือไม่ นายวิษณุกล่าว ตนเองอยู่ในช่วงการเปลี่ยนผ่านรัฐบาลมากว่า 11 ครั้ง ซึ่งแต่ละครั้ง ก็มีเหตุการณ์แปลกไม่เหมือนกัน มีใจหายใจคว่ำ แต่มันก็ผ่านพ้นไปได้ และคิดว่าครั้งนี้ก็เช่นกัน เพียงแค่ไม่เหมือนวันนี้เพราะคนละอย่างกัน อาจมองว่ามันแย่แล้วแต่สุดท้ายก็ผ่านไปได้

Related Posts

Send this to a friend