POLITICS

แกนนำพิราบขาว ร้อง ป.ป.ช.ตรวจสอบ กกต.ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ไม่ส่งศาล รธน.ยุบเพื่อไทย

แกนนำพิราบขาว2006 ร้อง ป.ป.ช. ตรวจสอบ กกต.ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ปล่อยเวลาเนิ่นนาน ไม่ส่งศาล รธน.ยุบพรรคเพื่อไทย กรณี ‘ณัฐวุฒิ’ ครอบงำพรรค

นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนำพิราบขาว 2006 เดินทางไปยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยมี นายพิศิษฐ์ พัฒนกิจจำรูญ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ เป็นผู้รับหนังสือ เพื่อให้ ป.ป.ช. พิจารณาเอาผิด คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในมาตรา 157 กรณีไม่ส่งคำร้องยุบพรรคเพื่อไทยตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 92 และ 93 ซึ่งมีเหตุมาจากนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้มิใช่สมาชิกครอบงำพรรคอาจมีพฤติกรรมฝ่าฝืน พ.ร.ป. มาตรา 28 และ 29 โดย กกต. ปล่อยเวลามาเนิ่นนานเกินกรอบระยะเวลาตามระบียบ กกต.ว่าด้วยการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานของนายทะเบียนพรรค การเมือง พ.ศ.2566 ประกาศ ณ.วันที่ 31 ม.ค.2566

โดยนายนพรุจ กล่าวว่าตนเองได้ยื่นให้ กกต.วันที่ 3 ก.พ.2566 และวันที่ 9 ก.พ. 2566 กกต. ได้เรียกตนเองให้เข้าให้ปากคำ และสอบถามถึงความคืบหน้ามาโดยตลอด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งว่ามีมูลเหตุ และมีการตั้งอนุกรรมการไต่สวนขึ้นมา จนวันนี้เข้าสู่เกือบ 6 เดือนแล้ว ซึ่งในกระบวนการสืบหาความจริงใช้เวลาเต็มที่ ไม่เกิน 120 วัน นี่คือการยืดเวลาเต็มที่ จึงยื่นร้องต่อปปช.เพราะ กกต.ปล่อยเวลาให้เนิ่นนาน ซึ่งเป็นการสื่อถึง กกต.ว่าเราเอาจริง หลังจากนี้จะไปยื่นต่อผู้ตรวจการแผ่นดินอีกครั้งหนึ่ง และฟ้องศาลอาญาทุจริตฯ ตามลำดับ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ประชาชนและพรรคการเมืองทุกพรรคต้องได้รับความเสมอภาค เท่าเทียมกัน พรรคต่างๆ กกต.ดำเนินการอย่างรวดเร็วแต่พอเป็นพรรคเพื่อไทยกลับปล่อยเนิ่นนาน

ทั้งนี้ ต้องระวังเหตุการณ์เก่าๆ ของ กกต. อยากเตือนให้รีบส่งศาลรัฐธรรมนูญ หากเนิ่นนานไป จะเข้าข่ายความผิด ม.157 ซึ่งเมื่อดำเนินการถึงที่สุดแล้ว จะไม่เป็นผลดีกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง อยากเป็นมิตรมากกว่าเป็นศัตรู

ขณะเดียวกัน ยืนยันว่า เรื่องนี้ นายณัฐวุฒิ ไม่สามารถไปช่วยกิจการงานของพรรคเพื่อไทยได้ เพราะไม่ได้เป็นสมาชิก ตนเองเคยเป็นผู้ต้องหาร่วมกับนายณัฐวุฒิจึงรู้ดีว่าต้องคำพิพากษาคดีอาญาถึงที่สุดแล้ว มีการต้องห้ามเรื่องการเป็นสมาชิกพรรค เป็นได้แค่กองเชียร์ห่างๆ เท่านั้น

Related Posts

Send this to a friend