POLITICS

นายกฯ พอใจผลการเยือน ฝรั่งเศส อิตาลี ญี่ปุ่น ต่อยอดดึงนักลงทุนเข้าไทย

นายกฯ พอใจผลการเยือน ฝรั่งเศส อิตาลี ญี่ปุ่น ต่อยอดดึงนักลงทุนเข้าไทย เชิญนายกมาเลเซียลงใต้ ดูปัญหาความไม่สงบชายแดนใต้

วันนี้ (24 พ.ค. 67) ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทางกลับจากการเดินทางเยือน 3 ประเทศ เริ่มที่สาธารณรัฐฝรั่งเศส เป็นการประชุมภาคธุรกิจไทยกับภาคธุรกิจฝรั่งเศสเกือบ 100 คน สืบเนื่องมาจากการเยือนสาธารณรัฐฝรั่งเศส เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ที่ได้พบกับนายเอมานูว์แอล มาครง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐฝรั่งเศส ที่ได้พูดคุยถึงการเชื่อมโยงทางธุรกิจ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี รวมถึงได้รับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน และได้พบปะกันแบบตัวต่อตัว ติดตามเกี่ยวกับเชงเก้นวีซ่า การเพิ่มเที่ยวบิน และจะมีการประชุม Business Forum ที่ประเทศไทย ในเดือนกันยายนนี้ ซึ่งจะมีนักธุรกิจจากฝรั่งเศสเดินทางมาที่ประเทศไทย

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ยังมีความร่วมมือด้านเทคโนโลยี เกี่ยวกับการทหารและความมั่นคง รวมถึงในช่วงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกปลายเดือนกรกฎาคมนี้ จะใช้โอกาสนี้เรียกร้องให้อิสราเอล และฮามาสหยุดยิงชั่วคราว ซึ่งไทยจะผลักดันให้เรื่องนี้เกิดขึ้น ขณะที่ประธานาธิบดีสาธารณรัฐฝรั่งเศส ได้เชิญไทยเข้าร่วมประชุม AI ในปีหน้าที่ฝรั่งเศส พร้อมสนับสนุนการพูดคุยที่ปลอดภัยสำหรับเมียนมา

ส่วนการเดินทางไปสาธารณรัฐอิตาลี เริ่มที่เมืองมิลาน ที่ได้เจอหลายบริษัทชั้นนำเกี่ยวธุรกิจด้านแฟชั่น ซึ่งทางรัฐบาลไทยได้นำผ้าย้อมคราม และจักสาน มาต่อยอดขยายผลกับแบรนด์กับบริษัทดังกล่าว ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่วันจันทร์ ที่ 27 พฤษภาคมนี้ คนที่ดูแลเกี่ยวกับการออกแบบจะมาศึกษาดูงานที่เมืองไทย และยังได้ไปดูโรงงานผลิตชีสขนาดใหญ่ รวมถึงโรงงานแปรรูปเนื้อสัตว์ ที่มีเทคโนโลยีที่ดี เหมาะสม มีการตรวจสอบที่แม่นยำทำให้สินค้าอยู่ในระดับโลกมาตลอด และสินค้ามีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างมาก

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้พบกับบริษัทด้านการเงิน มาทำโปรเจ็คการเงินใช้ในโครงการแลนด์บริดจ์ และการอัพเกรดสนามบินของไทยทั้งหมด รวมถึงด้านการพลังงาน ด้านคมนาคม ซึ่งได้พบกับบริษัทพลังงานพลังงานขนาดใหญ่ของอิตาลี ได้พูดคุยที่จะใช้เม็ดยางพารา มาเป็นส่วนผสมน้ำมันเชื้อเพลิงธรรมชาติให้กับ ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร ป้องกันการเผาซากวัชพืช พร้อมกันนี้ได้พบบริษัทประกันขนาดใหญ่ บริษัทดูคาติ ที่สนใจทำอีมอเตอร์ไบค์ ตลอดจนพูดคุยประธานฟอร์มูล่าวัน พูดคุยถึงความเป็นไปได้ที่จะมาจัดการแข่งขันที่ประเทศไทย ส่วนสถานที่จะไปพูดคุยอีกครั้ง ภายใน 60 วันจะมีความคืบหน้า ซึ่งคาดว่าจะเริ่มได้เร็วที่สุดปี 2027 จากนั้น ได้เดินทางต่อไปยังกรุงโรม เพื่อพบหารือทวิภาคีกับนายกรัฐมนตรีอิตาลี โดยขอให้สนับสนุนเชงเก้นวีซ่า และผลักดัน FTA

ส่วนการเดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ได้พูดคุยกับนักธุรกิจ 5 บริษัท เช่น บริษัทพลังงานเชื้อเพลิง, บริษัทมิตซุยอายิโนโมโต๊ะ ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำผงชูรส ก็จะทำอาหารเสริมด้านโปรตีนต่อ, บริษัทโซนี่ ซึ่งสนับสนุนอีสปอร์ต จึงขอให้มาสนับสนุนการจัดอีสปอร์ตที่ประเทศไทย, บริษัทมิตซูบิชิแบงค์ และซอฟต์แบงค์ ที่สนับสนุนให้ไทยมีสตาร์อัพ, บริษัทนิเด็ค ที่ผลิตสินค้าเทคโนโลยีชั้นสูง ซึ่งมีโรงงานอยู่ในประเทศไทยจำนวนมาก พร้อมสนับสนุนให้นักเรียนไทยไปเรียนต่อ ซึ่งในวันที่ 20 – 21 มิถุนายนนี้ บีโอไอ ผู้แทนการค้าไทยจะบินไปโอซาก้า และโตเกียวพูดคุยถึงเรื่องนี้อีกครั้ง

นายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า วันนี้ได้เข้าร่วมประชุม Nikkei Forum Future of Asia ครั้งที่ 29 ซึ่งภาพรวมทั้งหมดเป็นที่น่าพอใจ เป็นไปตามเป้าหมาย และยังได้เจอนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ได้พูดคุยถึงการตั้งนิคมอุตสาหกรรม ที่ใต้สุดของประเทศไทย และเหนือสุดของมาเลเซีย และจากปัญหาชายแดนภาคใต้เรื่องที่เกิดขึ้นมาอีก ตนเองจะไปเยือนภาคใต้อีกครั้งใน 1-3 สัปดาห์นี้ ซึ่งได้เชิญนายกมาเลเซียไปด้วย

Related Posts

Send this to a friend