POLITICS

ปิยบุตร เชื่อ ก้าวไกลกระแสดีกว่าปี 62 เพราะประชาชนอยากเปลี่ยนนายกฯ

วันนี้ (24 เม.ย.66) นายปิยบุตร แสงกนกกุล ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ระหว่างลงพื้นที่หาเสียงให้กับนายภัณฑิล น่วมเจิม ผู้สมัคร ส.ส.คลองเตย- วัฒนา ว่า การเลือกตั้งเมื่อปี 2562 พรรคอนาคตใหม่แพ้ไปนิดเดียว รอบนี้เป็นพรรคก้าวไกลเชื่อว่ากระแสของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค และแกนนำหลายคนที่ตระเวนออกเวทีดีเบตทุกเวที ผู้ช่วยหาเสียงนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นางสาวพรรณิการ์ วานิช และตนเอง ที่ช่วยกันหาเสียงแบบดาวกระจายทั่วประเทศ จะทำให้มีกระแสสูงมากกว่าการเลือกตั้งครั้งก่อน

สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ได้มีแค่นิวโหวดเตอร์ แต่มีประชาชนหลากหลายช่วงวัยสนับสนุนพรรคก้าวไกลมากขึ้น ดังนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้น่าจะมีลุ้นทุกเขต สำหรับการแข่งขันในเขตคลองเตย-วัฒนา กับเจ้าของพื้นที่เดิมอย่างนางกรณิศ งานสุคนธ์รัตนา ผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย ประเมินจากการเลือกตั้งครั้งก่อน ประชาชนเลือกเพราะต้องการให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาเป็นนายกรัฐมนตรี เลือกตั้งรอบนี้กระแสเปลี่ยน ประชาชนอยากเปลี่ยนนายกฯ เปลี่ยนขั้วรัฐบาล เปลี่ยนโครงสร้างประเทศไทยให้ยุติธรรมเสมอภาคเท่าเทียมกัน จึงเชื่อว่าพรรคก้าวไกลจะมีโอกาสในเขตคลองเตย-วัฒนา

ส่วนผลสำรวจของซูเปอร์โพล ที่พรรคก้าวไกลได้คะแนนเพิ่มขึ้นในฐานะนักวิเคราะห์ มองว่าคะแนนของพรรคก้าวไกลจะเพิ่มขึ้นได้อีกเรื่อย ๆ สวนทางกับกระแสของแต่ละพรรคที่เริ่มหยุด กลยุทธ์พรรคก้าวไกลจะส่งผู้ช่วยหาเสียงปราศรัยในพื้นที่ต่าง ๆ โดยวันนี้นายธนาธรลงพื้นที่ภาคใต้กระแสตอบรับดีมาก ทั้งที่หลายคนเชื่อว่าพื้นที่ภาคใต้มักจะเป็นคนอนุรักษ์นิยม พรรคก้าวไกลน่าจะไม่มีคะแนน ส่วนนางสาวพรรณิการ์ ลงพื้นที่ไปภาคอีสานโดยเฉพาะจังหวัดขอนแก่น พรรคก้าวไกลน่าจะได้ลุ้น ทั้งเขต 1-4 ขณะที่ตนเอง สัปดาห์นี้จะประจำพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล เป็นการแบ่งหน้าที่กันทำ โดยพรรคก้าวไกลนิยมปราศรัยเวทีย่อย เพราะเราต้องไปหาประชาชนในพื้นที่ให้ใกล้ที่สุด ไม่รบกวนพี่น้องประชาชนให้เดินทางมาที่เวทีปราศรัย

ผู้สื่อข่าวถามถึงการสู้กับกระสุนและบ้านใหญ่ในพื้นที่ต่าง ๆ ขณะนี้กระแสพรรคก้าวไกลกระจายไปทั่ว เป็นหน้าที่ของผู้สมัครที่จะต้องเดินทางไปเก็บกระแสให้เปลี่ยนมาเป็นคะแนน เชื่อว่ากระแสจะสู้กระสุนได้ ความคิดและดุมการณ์ของพรรคก้าวไกลที่ชัดเจนอย่างตรงไปตรงมาจะทำให้สู้กับบ้านใหญ่ได้

ทั้งนี้ที่มีผู้ไปร้องเรียนว่านายธนาธร และตนเอง ทำงานเกินหน้าที่เข้าข่ายครอบงำพรรค มองว่านักร้องก็ต้องทำหน้าที่คอยร้องสกัด ตนเองอยากให้การเลือกตั้งแข่งขันอย่างตรงไปตรงมา ชนะก็คือชนะแพ้ก็ต้องยอมรับความพ่ายแพ้ ควรหมดประเพณีนิยม “เตะสกัดขัดขา”ผ่านการร้องเรียนยุบพรรคตัดสิทธิ หากทำเช่นนี้เหมือนขี้แพ้ชวนตี ต่อให้ร้องเรียนมาก็ไม่เป็นไร ยืนยันว่าตนเอง นายธนาธร และนางสาวพรรณิการ์ ทราบดีว่าเป็นได้แค่ผู้ช่วยหาเสียงและกองเชียร์ ไม่ใช่โค้ชไปสั่งสอน พรรคก้าวไกลจ้างมาให้ช่วยหาเสียงเท่านั้น ส่วนพรรคจะตัดสินใจวางหมากวางเกมอย่างไรก็เป็นเรื่องของพรรค หากเลือกตั้งเสร็จจะเลือกร่วมรัฐบาลหรือไม่ก็เป็นเรื่องของพรรคที่ต้องคิดอ่าน

Related Posts

Send this to a friend