กมธ.พัฒนาการเมือง เตรียมส่งอาสาสมัคร จับตาเลือกตั้ง “ผู้ว่าฯ กทม.”
วันนี้ (24 ก.พ.65) น.ส.สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา โฆษกคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน แถลงผลการพิจารณาของคณะกรรมาธิการ โดยระบุว่า หลังคณะกรรมาธิการ ศึกษาการอุดหนุนเงินภาษีและการบริหารจัดการเพื่อสนับสนุนพรรคการเมือง โดยมีผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และผู้แทนกรมสรรพากร เข้าร่วมประชุม ได้มีความเห็นว่า การให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมสนับสนุนเงินภาษีให้กับพรรคการเมืองถือเป็นช่องทางที่มีประโยชน์ และมีความสำคัญมากในการช่วยเสริมสร้างพรรคการเมืองมีความเข้มแข็ง ปราศจากการครอบงำของนายทุน และให้ประชาชนมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของพรรคการเมืองอย่างแท้จริง
ทั้งนี้จากสถิติพบว่า ประชาชนยังมีส่วนร่วมในการอุดหนุนเงินภาษีให้กับพรรคการเมืองน้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนผู้ยื่นเสียภาษี และพบว่า ประชาชนจำนวนมากยังไม่เข้าใจในหลักเกณฑ์การอุดหนุนเงินภาษี เข้าใจผิดว่า การบริจาคเงินภาษีจะทำให้ตนเองต้องชำระเงินภาษีเพิ่มมากขึ้น และจะทำให้ได้รับเงินภาษีคืนน้อยลง รวมทั้งกังวลเกี่ยวกับความลับและความปลอดภัยของข้อมูลของประชาชนที่อุดหนุนเงินภาษีให้กับพรรคการเมือง
คณะกรรมาธิการ จึงขอให้สำนักงาน กกต. กรมสรรพากร ประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจให้กับประชาชนเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การอุดหนุนเงินภาษี และการเก็บรักษาข้อมูลการอุดหนุนเงินภาษีของประชาชนเพื่อให้ประชาชนมีความเข้าใจและเกิดความมั่นใจมากขึ้น
นอกจากนี้ยังได้ศึกษาแนวทางการแบ่งเขตเลือกตั้งและแนวทางการกำหนดรูปแบบป้ายหาเสียงเพื่อให้สอดคล้องกับจำนวน ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง โดยให้สำนักงาน กกต.ประชาสัมพันธ์เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ในการดำเนินการแบ่งเขต เพื่อให้พรรคการเมือง และประชาชนมีความเข้าใจในข้อมูลและกฎหมาย ให้การแบ่งเขตการเลือกตั้งเกิดความโปร่งใส เป็นธรรม และสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ของกฎหมาย รวมทั้งกำหนดหลักเกณฑ์ หรือวางแนวทางการจัดทำ และติดตั้งป้ายหาเสียงเพื่อไม่ให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบกันของผู้สมัครรับเลือกตั้ง
ทั้งนี้ยังติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานโครงการอาสาพัฒนาการเมือง การเลือกตั้ง และส่งเสริมการมีส่วนร่วมภาคประชาชน ซึ่งเป็นโครงการที่คณะกรรมาธิการจัดให้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจ ความร่วมมือทางวิชาการในการขับเคลื่อนโครงการ ร่วมกับกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม สถาบันพระปกเกล้า สถาบันส่งเสริมประชาธิปไตยเพื่อการต่างประเทศ และเครือข่าย We Watch
เมื่อเดือน ธ.ค. 64 คณะกรรมาธิการ ได้เชิญหน่วยงานที่ร่วมลงนาม และผู้แทนสำนักงาน กกต. เข้าร่วมประชุม เพื่อร่วมกันกำหนดแผนงานส่งเสริมภาคประชาชนให้เข้ามามีส่วนร่วมเป็นอาสาสมัครสังเกตการณ์การเลือกตั้ง เบื้องต้นคณะกรรมาธิการ จะดำเนินการอบรมอาสาสมัคร และให้เข้าไปร่วมสังเกตการณ์การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นโครงการนำร่องโครงการแรก
