POLITICS

นายกฯ สั่งเกาะติดสถานการณ์วิกฤติซ้อนวิกฤติ ยืนยันดูแลราคาน้ำมันเต็มที่

นายกฯ สั่งทุกหน่วยงาน เกาะติดสถานการณ์วิกฤติซ้อนวิกฤติ “โควิด-สงคราม-พลังงาน” พร้อมยืนยัน รัฐใช้เงินกองทุนดูแลราคาน้ำมันเต็มที่

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สถานการณ์พลังงานในทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย ต่างได้รับผลกระทบของวิกฤตจากความขัดแย้ง ระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งเป็นการเผชิญวิกฤติซ้อนวิกฤติ หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด–19 ที่ยืดยื้อ ทำให้ทรัพยากรที่เคยสมดุลต้องขาดแคลน กระทบต่อเนื่องไปยังราคาสินค้า ราคาพลังงาน และค่าครองชีพ

รัฐบาลได้เร่งแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน เพื่อให้อยู่รอดอย่างพอเพียง ด้วยมาตรการลดค่าครองชีพ เช่น การช่วยเหลือเพื่อซื้อก๊าซหุงต้ม การช่วยเหลือค่าน้ำมันให้กับผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง การช่วยลดภาระค่าไฟฟ้า การตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล ตลอดจนการลดอัตราเงินสมทบของนายจ้างและลูกจ้างที่อยู่ในระบบประกันสังคม เป็นต้น

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงพลังงานได้อุดหนุนราคาน้ำมันผ่านกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งล่าสุด ใช้วงเงินไปแล้วกว่า 112,000 ล้านบาท ทำให้สถานะของทางกองทุนติดลบอยู่ที่ 72,000 ล้านบาท แต่ยืนยันว่า รัฐบาลจะดูแลเรื่องดังกล่าวและบริหารจัดการเพื่อช่วยลดภาระประชาชน ควบคู่ไปกับการผลักดันให้เกิดการใช้รถไฟฟ้าหรือ EV ให้มากขึ้นในอนาคต เพื่อให้เกิดความยั่งยืนด้านพลังงาน รวมถึงกระตุ้นการใช้พลังงานหมุนเวียนลดการใช้พลังงานจากฟอร์ดซิลด์ เพื่อลดต้นทุนทั้งในการผลิตไฟฟ้าและการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชน สนับสนุนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อลดปัญหามลพิษ และรักษาสิ่งแวดล้อม

สำหรับราคาน้ำมันของหลายประเทศในอาเซียน ได้ปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน โดยราคาน้ำมันเบนซินอ้างอิง ณ วันที่ 16 พฤษภาคม 2565 ประเทศไทยขายอยู่ที่ 41.95 บาท/ลิตร , กัมพูชา 48.33 บาท/ลิตร , สิงคโปร์ 79.40 บาท/ลิตร ส่วนราคาน้ำมันดีเซลอ้างอิง ณ วันที่ 16 พฤษภาคม ประเทศไทยขายอยู่ที่ 31.94 บาท/ลิตร , กัมพูชา 47.05 บาท/ลิตร , สิงคโปร์ 75.92 บาท/ลิตร

Related Posts

Send this to a friend