‘สมศักดิ์’ แจงระเบียบราชทัณฑ์คุมขังนอกเรือนจำ ออกมาตั้งแต่ปี 60 ยันไม่ได้ใช้ต่อรองเข้า ‘เพื่อไทย’

‘สมศักดิ์’ แจงระเบียบราชทัณฑ์คุมขังนอกเรือนจำ ออกมาตั้งแต่ปี 60 ก่อนรับตำแหน่งรัฐมนตรี ยันไม่ได้ใช้ข้อมูลนี้ต่อรองเข้า ‘เพื่อไทย’ บอกเป็นเรื่องดี ‘ทักษิณ’ ติดคุกทำให้สังคมเข้าใจ และเป็นประโยชน์ในการอธิบายเรื่องทัณฑวิทยา มีนักโทษได้ประโยชน์กว่าหมื่นคน

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่กำกับดูแลกระทรวงยุติธรรม ชี้แจงภายหลังมีชื่อเข้าไปเกี่ยวข้องกับการออกระเบียบกรมราชทัณฑ์ เรื่องการคุมขังนอกเรือนจำว่า เป็น พ.ร.บ. ที่กรมราชทัณฑ์ออกมาตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งเป็นช่วงรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่ก็ถือเป็นกฎหมายที่ดี

จนมาถึงการเลือกตั้งปี 2562 ที่ตนเองเข้ามาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มีการออกกฎกระทรวง ตามมาตรา 33 ของ พ.ร.บ.กรมราชทันฑ์ ปี 2560 เรื่องการจำแนกผู้ต้องขัง โดยดูในเรื่องพฤติกรรมผู้ต้องขัง การรักษาพยาบาล ตลอดจนการเตรียมความพร้อมก่อนปล่อยตัว ต่อมามีอดีตข้าราชการและคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน หารือขอให้มีที่คุมขังนอกเรือนจำกับผู้ต้องขัง หรือผู้ที่ถูกกล่าวหา ที่ไม่ควรจะเข้าไปอยู่ในเรือนจำ ซึ่งตนเองก็เห็นด้วย จึงได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงยุติธรรมและคณะทำงานดำเนินการในเรื่องนี้ แต่ก็ยังไม่แล้วเสร็จ ตนเองก็ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีมาก่อน

แต่เรื่องนี้มีคนถามตนเองเข้ามาเยอะ อย่างในวันนี้วิปวุฒิสภา ก็เชิญตนเองเข้ามาชี้แจง ซึ่งวันนี้วุฒิสภาให้ตนเองมาชี้แจงเนื่องจากมองว่าเป็นกฎหมายที่ดี ในการคัดแยกผู้ต้องขังให้เป็นไปตามหลักสากล ดังนั้นขอบ อกว่าไม่ได้เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ต้องขังรายใดรายหนึ่ง แต่เป็นกระบวนการยุติธรรมซึ่งทำตามกรอบแนวทางสากล เช่นใน สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย และเนเธอร์แลนด์ ดังนั้นการคุมขังในที่อื่นที่ไม่ใช่เรือนจำ เป็นกฎหมายสากล สามารถทำได้ แต่ต้องเข้าเกณฑ์ ส่วนการจำคุกจากคดีร้ายแรง เช่น ฆ่า ยาเสพติด จะไม่ถูกนำมาพิจารณากับระเบียบใหม่นี้

นายสมศักดิ์ยังกล่าวอีกด้วยว่า ขณะนี้เป็นเรื่องที่ดี ที่อดีตนายกรัฐมนตรีถูกคุมขังอยู่ จะทำให้สังคมเข้าใจและเป็นประโยชน์ในการทำความเข้าใจ และอธิบายเรื่องทัณฑวิทยาได้เป็นอย่างดียิ่ง

ในฐานะผู้ที่กำกับดูแลกระทรวงยุติธรรม ไม่ได้เข้าไปล้วงลูก ขณะเดียวกันยอมรับว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเข้าเกณฑ์ดังกล่าว เพราะโทษไม่เกิน 4 ปี และไม่ได้เป็นบุคคลที่อยู่ในข่ายเป็นอันตรายต่อสังคม เช่น โทษฆ่า ข่มขืน ซึ่งจำเป็นต้องถูกคุมขังในเรือนจำ หากเป็นโทษที่ไม่เป็นภัยต่อสังคมในระบบสากลสามารถคุมขังนอกเรือนจำได้ รวมถึงผู้ที่เหลือโทษน้อย

ส่วนที่มีการมองว่าการออกระเบียบราชทัณฑ์เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับนายทักษิณนั้น นายสมศักดิ์เลี่ยงที่จะตอบคำถามแต่บอกว่ากฎหมายเขียนได้ดี หากใช้ถึงระยะเวลา 5 ปีตามมาตรา 43 สามารถแก้ไขได้

นายสมศักดิ์ยังกล่าวปฏิเสธว่า ไม่ได้ออกระเบียบ เพื่อรองรับการย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งที่ผ่านมา เพราะถ้าคิดจะเข้าพรรคเพื่อไทยในขณะนั้น คงทำเสร็จไปแล้ว พร้อมย้ำว่ามันเป็นพัฒนาการของกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า มีการต่อรองตำแหน่งเข้าพรรคเพื่อไทยแลกกับข้อมูลการออกระเบียบนี้หรือไม่ นายสมศักดิ์ย้ำว่า เป็นพัฒนาการของกฎหมายที่เขียนเมื่อปี 2560 ที่ต้องทำให้ครบในการบริหารโทษ การจำแนกผู้ต้องขัง การรักษาพยาบาล หรือการเตรียมความพร้อมก่อนปล่อยตัว ยืนยันว่ากรมราชทัณฑ์ไม่ได้มีอำนาจใหญ่กว่าศาล และในขณะนั้นตนเองก็ไม่ได้คิดว่าจะย้ายไปอยู่พรรคไหน แต่กฎหมายมันพัฒนาเข้าสู่ความเป็นสากล และสามารถเปิดเผยได้ว่าอาจารย์มหาวิทยาลัยและ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนที่มาหารือเรื่องนี้เป็นใครแต่ขอยังไม่เปิดเผย

อย่างไรก็ตามนายสมศักดิ์ยืนยันว่า การออกระเบียบฉบับนี้ เป็นโอกาสของประเทศ และโชคดีที่มีเคสสำคัญ ทำให้คนสนใจ ซึ่งถ้าอธิบายให้ประชาชนเข้าใจได้จะดีมาก แต่ตนเองไม่ได้มีหน้าที่โดยตรงที่จะอธิบาย แต่วันนี้เห็นมีชื่อตนเองเข้าไปเกี่ยวข้องจึงต้องพูดให้สังคมเข้าใจ

พร้อมกันนี้ นายสมศักดิ์ยังเปิดเผยด้วยว่าการออกระเบียบในครั้งนี้ มีกลุ่มคนที่จะได้รับการพิจารณากว่าหมื่นคน ขณะเดียวกันนายสมศักดิ์ยังกล่าวถึงการเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจของนายทักษิณ ที่มีกำหนด 30 วัน 60 วัน 120 วัน ว่าเป็นเรื่องของแพทย์และอำนาจของผู้บัญชาการเรือนจำ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ไปจนถึงรัฐมนตรี ซึ่งถ้าดูจากตัวเลขในวันนี้ มีนักโทษที่พักรักษาตัวในโรงพยาบาลมากกว่า 30 วันเกือบ 150 คน ไม่ได้มีคนเดียวและที่อยู่ใน 120 วัน ที่ผ่านมามีหลายคนแต่ไม่ได้มีการเปิดเผย แต่เพราะนายทักษิณเป็นบุคคลสาธารณะที่ถูกจับจ้อง จึงเป็นเรื่องที่ดีมากจะได้ทำความเข้าใจกับสาธารณะ

ส่วนกรณีที่มีผู้มองว่าแปลกหรือไม่ ที่ขณะอยู่ต่างประเทศ นายทักษิณดูแข็งแรงมาก แต่พอกลับมาถึงประเทศไทย กลับป่วยจนต้องเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาล นายสมศักดิ์ กล่าวว่า “น้องต้องลองถูกคุมขังสักสองสามวัน ชีวิตมันเครียด ถ้าจะต้องเสียอิสรภาพ ลองเข้าไปซักคืนสองคืนจะนอนไม่หลับ คนอายุมาก มีความดัน ป่วย เป็นความเสี่ยงที่ผู้บัญชาการเรือนจำหรืออธิบดีกรมราชทัณฑ์จะคุมขังไว้ ทุกคนต้องการความปลอดภัยไม่ต้องรับผิดชอบมาก เมื่อเกิดขึ้น จึงมีเหตุผลที่จะนำตัวส่งโรงพยาบาล เพื่อให้ผู้ต้องขังมีความปลอดภัยมากที่สุด“

นายสมศักดิ์ ยังย้ำอีกว่าใครไม่เคยนอนคุก ติดคุก ถูกจองจำ ลองไปสักคืนสองคืนมันเครียด ความเครียดเป็นต้นเหตุของโรคภัยไข้เจ็บ พร้อมทั้งได้กล่าวถึงโรคเครียดว่าเป็นต้นเหตุของโรคอื่น และทำให้นอนไม่หลับ / พร้อมยกตัวอย่างว่าเช่นเป็นหวัด นอนไม่พอก็จะป่วย แล้วยังมีพีเอ็ม 2.5 ตนเองยังเป็นเลย แล้วยิ่งคนที่อยู่ในเรือนจำเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจ

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า สาเหตุที่กรมราชทัณฑ์ส่งนายทักษิณเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ เบื้องต้นเกิดจากสาเหตุโรคเครียดใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า ถามแบบนั้นก็ไม่ได้ ตนเองแค่ยกตัวอย่าง ว่าคนเครียดจะทำให้เป็นโรคต่างๆ ตนเองรับฟังข้อมูลมาจากแพทย์ แต่เมื่อสื่อมวลชนถามก็ยกตัวอย่างให้ฟัง ส่วนจะมีโอกาสเปิดเผยโรคของนายทักษิณหรือไม่ เป็นหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ ตนเองพูดในแง่วิชาการเพื่อเป็นการรับรู้ในทางสาธารณะ