‘เครือข่ายเยาวชน’ ยื่นหนังสือต่อรัฐบาล ถึงปัญหาการติดยาเสพติด-ติดพนันออนไลน์

วันนี้ (20 ก.ย. 66) ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล เครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง พร้อมด้วยเครือข่ายพัฒนาคุณภาพชีวิต เครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพเยาวชน และมูลนิธิเด็ก เยาวชน และครอบครัว รวมกว่า 50 คน ยื่นหนังสือถึง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงจุดยืนและข้อเสนอต่อรัฐบาลเนื่องในโอกาสวันเยาวชนแห่งชาติประจำปี พ.ศ.2566 พร้อมทำกิจกรรม “ปัญหาเด็กเยาวชนอย่าซุกไว้ใต้พรม ขอนโยบายป้องกันแก้ไขจริงจัง”

นางสาวศุภัทรา ภาแก้ว ผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง กล่าวว่า ภาคีเครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง เครือข่ายพัฒนาคุณภาพชีวิต เครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพเยาวชน เครือข่ายบางกอกนี้ดีจัง และมูลนิธิเด็ก เยาวชน และครอบครัว ขอแสดงจุดยืนและมีข้อเสนอต่อรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเนื่องในโอกาสวันเยาวชนแห่งชาติประจำปี 2566 ดังนี้

1.ขอให้รัฐบาลมีนโยบายที่ปกป้องและลดผลกระทบกับเด็กและเยาวชนจากปัจจัยเสี่ยง เหล้า พนัน บุหรี่ไฟฟ้า ยาเสพติด อุบัติเหตุ และการคุกคามทางเพศ และขอให้ประกาศจุดยืนไม่สนับสนุนนโยบายเพิ่มพื้นที่เสี่ยงและอบายมุข

2.ขอให้รัฐบาลสนับสนุนพื้นที่และการรวมกลุ่มทำกิจกรรมสร้างสรรค์ของเด็กและเยาวชน ทั้งในและนอกระบบการศึกษา ต้องเคารพ ไม่ปิดกั้นความหลากหลายทางเพศ

3.ขอให้รัฐบาลเร่งทบทวนนโยบายกัญชาและกระท่อมที่ถูกปลดจากยาเสพติดในขณะนี้ เพราะกำลังเป็นดาบสองคมที่สร้างผลกระทบกับเยาวชน

4.ขอให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับปัญหาสุขภาพจิตของเด็กและเยาวชน เร่งจัดหาบุคลากรที่มีความเข้าใจในเรื่องสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นมาช่วยดูแล ป้องกันแก้ไขทั้งในระบบการศึกษาและนอกระบบ

5.ขอให้รัฐบาลพิจารณาคงไว้ หรือยกระดับคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 22/2558 เรื่องมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในทาง และการควบคุมสถานบริการหรือสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ ซึ่งที่ผ่านมาพบว่ายังมีสถานบันเทิงขายสุราให้เด็ก ขายเกินเวลาที่กำหนด ส่งเสียงดัง มียาเสพติด เล่นพนัน และค้ามนุษย์ ต้องถูกปิดอย่างน้อย 5 ปี กรณีนอกเขตโซนนิ่ง และปิดถาวรหากพบว่าตั้งอยู่ในเขตโซนนิ่งใกล้สถานศึกษา เช่นเดียวกับกรณีล่าสุดผับดังกลางเมืองพะเยาที่มีเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี มากถึง 143 คน เข้าใช้บริการ ต้องถูกสั่งปิดยาวตามคำสั่งนี้

นายธีรภัทร์ คหะวงศ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพเยาวชน กล่าวว่า ทุกคนทราบดีว่า เด็กและเยาวชนที่มีอยู่ต้องเผชิญอะไรบ้าง เด็กและเยาวชนจำนวน 18.7 ล้านคน ที่อยู่ในประเทศต้องเผชิญปัญหาหลาย ๆ อย่าง ทั้งเรื่องความไม่เป็นธรรมทางสังคม เรื่องยาเสพติด การติดเหล้า และติดพนัน ซึ่งปัญหาเหล่านี้อยากให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในการยื่นหนังสือครั้งนี้มีความคาดหวังจะเกิดผลอย่างไร และตั้งเป้าการดำเนินเรื่องไว้เร็วแค่ไหน นายธีรภัทร์ กล่าวว่า เราอยากเห็นการทำงานที่จริงจัง อยากเห็นนโยบายที่ถูกปฎิบัติ และจัดการกับปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง จึงคาดหวังว่ารัฐบาลจะเอาจริงเอาจังไม่ใช่แค่พูด ส่วนระยะเวลาในการดำเนินการบางเรื่องสามารถทำได้เลย เช่น การปรับปรุงกฎหมายให้เข้าไปอยู่ในตัวที่เป็นกฎหมายประจำ หรือเรื่องการศึกษาก็อาจต้องใช้เวลา ซึ่งอยู่ในช่วงไทม์ไลน์ของแต่ละเรื่อง ส่วนตัวอยากเห็นรัฐบาลเอาจริงในการแก้ปัญหา

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า เห็นผลบ้างหรือไม่หลังจากที่ได้ยื่นหนังสือเรียกร้องเกี่ยวกับปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ นายธีรภัทร์ กล่าวว่า หลายเรื่องก็มีพัฒนาการ เช่น เรื่องสถานบันเทิงรอบสถานศึกษามีการแก้ไขเมื่อปี 2558 คสช.มีคำสั่งที่ 22/2558 จำกัดบริเวณสถานบันเทิงที่ให้บริการบริเวณรอบสถานศึกษา โดยไม่มีร้านใหม่เปิดเพิ่ม และร้านที่ผิดกฎหมายถูกปิดลง ทำให้สถานบันเทิงที่ให้บริการบริเวณรอบสถานศึกษามีจำนวนลดลง สะท้อนให้เห็นว่าถ้าหากจริงจังกับเรื่องดังกล่าวก็จะเพิ่มพื้นที่สร้างสรรค์ให้กับเด็กและเยาวชนมากขึ้น