POLITICS

‘จุติ’ แจงยิบ 29 ประเด็นทุจริตการเคหะฯ-เซ็มโก้

‘จุติ’ แจงยิบ 29 ประเด็นทุจริตการเคหะฯ-เซ็มโก้ ‘ณัฐชา’ เหน็บ เอาเวลาที่หายไป 1 คืน เก็บของออกจากกระทรวงดีกว่า

วันนี้ (20 ก.ค. 65) ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 13 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี (รมต.) เป็นรายบุคคล วันที่หนึ่ง นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตอบชี้แจงตามข้อกล่าวหาจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามญัตติของพรรคร่วมฝ่ายค้าน

นายจุติ เปิดประเด็นว่า จากที่เมื่อคืนมีข้อกล่าวหาของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ได้ทำหน้าที่ไม่เหมาะสมและไม่เกิดประโยชน์กับการเคหะแห่งชาตินั้น นายจุติ ยืนยันว่า เราคิดเหมือนกันที่จะอยากแก้ปัญหากับการเคหะแห่งชาติ เพื่อเกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนและองค์กร การเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องที่ยาก แต่เป็นเรื่องที่ต้องทำเมื่อประชาชนและการเคหะแห่งชาติได้ประโยชน์มากขึ้น

นายจุติ ตอบข้อกล่าวหาของ นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส. กรุงเทพมหานคร (กทม.) พรรคก้าวไกล เป็นรายประเด็น ดังนี้

ข้อหา “การตั้ง ‘นักปั่นหุ้น’ มาเป็นคณะกรรมการเคหะแห่งชาติ” นายจุติ ปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง เพราะการตั้งคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจต้องผ่านการตรวจสอบถึง 4 ชั้น ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่ออนุมัติ และมีกฎหมายชัดเจนว่าคนมีคดีไม่สามารถเป็นกรรมการได้ ดังนั้น การตั้งนักปั่นหุ้นถือเป็นการกล่าวหาเท็จและไม่เป็นธรรม ส่วนชื่อย่อของบุคคลที่ตั้งเป็นที่ปรึกษาคนสนิทนั้น ถ้าเข้าใจคนเดียวกัน ไม่ใช่ที่ปรึกษาผมและรัฐวิสาหกิจของกระทรวง ICT ด้วย

ข้อหา “ทุจริตสมัย 3G ICT” นายจุติ ชี้แจงว่า ได้รับภารกิจจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ให้ทบทวนผลการประมูล 3G ซึ่งเคยอยู่ที่ 29,000 ล้านบาท และจัดระบบใหม่เหลือเพียง 17,000 ล้านบาท จึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริต 3G

ข้อหา “แอบอ้างสถาบันพระมหากษัตริย์เพื่อทำโครงการ” นายจุติ ยืนยันว่า ไม่เคยมีคำสั่งหรือจดหมายไปขอการกระทำแบบนี้ สิ่งที่ผมกระทำคือใจผม ทุกเรื่องที่ทำ ถวายสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่แล้ว ตั้งแต่เกิด และจะทำจนตาย ยืนยันว่าพรรคผมไม่เคยมีคดีล้มล้างการปกครองหรือล้มเจ้าแน่นอน

ข้อหา “การบีบบังคับให้อดีตผู้ว่าฯ ธัชพล กาญจนกูล ลาออกเพราะไม่สนองนโยบาย” นายจุติ ตอบว่า จดหมายลาออกของท่านอดีตผู้ว่าฯ ระบุเหตุผลด้านสุขภาพ ส่วนการตั้งคนใหม่เพื่ออวยโครงการ ก็เป็นข้อกล่าวหาเท็จ เพราะเขามาทีหลังโครงการให้คนจนเช่าที่ราคาถูกทั่วประเทศ

ข้อหา “การนำเรื่องเข้าคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบ ไม่ใช่เพื่ออนุมัติ เหมือนเลี่ยงบาลี” นายจุติ ตอบว่า ที่ไม่ต้องขออนุมัติเพราะระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า งบประมาณลงทุนที่ไม่เกินพันล้านบาทโดยไม่ต้องกู้ ก็ให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นผู้อนุมัติแทน

ข้อหา “เคหะสุขประชา ใช้เวลา 200 ปีกว่าจะคืนทุน” นายจุติ บอกว่า ไม่มี เพราะสภาพัฒน์ฯ คงไม่อนุมัติมา ในทางกลับกันคือการเปลี่ยนการทำงานและวิธีคิดของการเคหะแห่งชาติ จากทำกำไรในเชิงพาณิชย์ ให้คืกำไรสู่สังคม จากขายเป็นสร้างบ้านให้เช่า พร้อมอาชีพ และพัฒนาคุณภาพชีวิต ซึ่งถือเป็นเรื่องใหม่ที่การเคหะแห่งชาติไม่เคยทำมาก่อน

ข้อหา “ปั้นตัวเลขผลตอบแทนการลงทุน เพื่อให้โครงการเศรษฐกิจสุขประชาคุ้มค่า” นายจุติ ตอบว่า ทุกชุมชนเขามีอาชีพของเขาเอง จะพับถุงกล้วย พับถุงพลาสติก เก็บของเก่าขาย ก็ถือเป็นอาชีพสุจริต มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ขออย่าดูถูกคนจน

ข้อหา “ภาพการถมดินของเคหะสุขประชาทิ้งไว้จนหญ้าขึ้น” นายจุติ โต้แย้งว่า ไม่ใช่ภาพที่อยู่ร่มเกล้า แต่เป็นภาพคนละจังหวัดเลย

“ผมทราบดีว่าคนในการเคหะแห่งชาติไม่อยากให้เกิดความเปลี่ยนแปลง ไม่อยากให้เปลี่ยนมือไม่อยากให้ผลประโยชน์ตกกับประชาชน อยากหากินกันเหมือนเดิม แต่วันนี้นายกรัฐมนตรีมอบนโยบายมาแล้ว แก้ปัญหาความยากจนแบบพุ่งเป้า อยู่อย่างพอเพียง” นายจุติ กล่าว

ข้อหา “ให้บริษัทลูก คือ บริษัท จัดการทรัพย์สินและชุมชน จำกัด (เซ็มโก้) รับงานนอกวัตถุประสงค์ แต่กลับไม่ขออนุมัติ ครม.” นายจุติ ตอบว่า วัตถุประสงค์ของเซ็มโก้เป็นไปตามมติ ครม. ปี 2537 ตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว ไม่ใช่การแก้ไขหนังสือบริคณห์สนธิที่กระทรวงพาณิชย์ แต่เป็นการขยายความวัตถุประสงค์ จึงควรให้โอกาสบริษัทลูกทำธุรกิจตามความเปลี่ยนแปลงของสังคมและเศรษฐกิจ

ข้อหา “เซ็มโก้ ไม่มีวิศวกร” นายจุติ ปฏิเสธว่า มีประธานบริษัทเป็นวิศวกร และมีวิศวกรที่ได้รับจ้างอยู่ จึงกล่าวว่า คนที่ให้ข้อมูลมานั้นผิด ลำเอียง

ข้อหา “ให้เซ็มโก้เบิกเงินล่วงหน้าจากการเคหะแห่งชาติ เพราะไม่มีเงิน” นายจุติ กล่าวว่า เป็นเท็จ ผู้ว่าฯ ยืนยันว่าไม่มีการเบิก

ข้อหา “เซ็มโก้ถมดินแบบเฉพาะเจาะจง ดูเหมือนเอื้อทุจริตกัน” นายจุติ อ้างอิง พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้าง พ.ศ. 2560 ว่าสามารถทำได้โดยมีกฎกระทรวงการคลังรองรับ และมีหนังสือตอบรับจากกรมบัญชีกลางว่าสามารถทำได้

ข้อหา “เซ็มโก้ไม่มีเงินสด จนต้องยืมการประกวดสุนัขและแมวเมื่อปี 2562” นายจุติ เรียนว่า ผู้ว่าฯ ชี้แจงว่าเงินที่เบิกมานั้นมาจากเงินเกินบัญชีส่วนหนึ่งของบริษัทเอง ไม่ได้มาจากการประกวด

ข้อหา “มีการซอยโครงการเหมือนมีการทุจริต เพื่อให้ผู้ว่าฯ มีอำนาจอนุมัติโครงการที่ไม่เกิน 50 ล้านบาท” นายจุติ ปฏิเสธ พร้อมระบุว่า ข้อมูลที่ท่านอภิปรายมาจากเอกชนส่งมา ยืนยันไม่มีการซอยโครงการ ไม่มีการฮั้ว และเป็นไปตามความเหมาะสมและพื้นที่ที่ต้องการถมดิน ไม่ได้ถมเผื่อ ไม่ได้ถมเอาเงินทอน

ข้อหา “ถมดินแยกออกจากเดิมถมพร้อมกันเลย” นายจุติ กล่าวว่า นี่คือสันดานของผู้รับเหมาบางคนที่ให้ข้อมูลผิด หากินกับโครงการชั่วกว่า 20 ปี

ข้อหา “ปล่อยให้ตั้งบริษัทใหม่ โยกย้ายสมบัติชาติออกจากบริษัทเก่า” นายจุติ มองว่าเป็นข้อมูลเท็จ โดยให้เหตุผลว่าบริษัทเซ็มโก้เป็นบริษัทลูกเดิมที่ดูแลอาคารเช่าเหมา 3 แสนครอบครัว ยังไงก็ปิดหรือยุบไม่ได้ ส่วนบริษัทใหม่ที่สร้างขึ้นมาก็เพื่อ สร้างให้ราคาถูก สร้างให้เร็วขึ้น หาต้นทุนที่ถูก และที่สำคัญคือมีอุปสรรคงบประมาณมีจำกัด

“เราทำ เราสู้ ขอให้เห็นใจว่าเราทำจริง ๆ” นายจุติ กล่าว

ข้อหาตามแผนผังความคิดประเมินและโอนทรัพย์สินให้บริษัทในเครือ นายจุติ ตอบว่า แผนผังดังกล่าวเป็นเอกสารเท็จ แม้มีเรื่องประเมินทรัพย์สินเพราะมีคนแอบไปหากินกับทรัพย์สินของการเคหะ แต่แผนผังนั้นเป็นเพียงเอกสารประกอบการประชุมเชิงปฏิบัติการของผู้บริหาร

สำหรับที่ ส.ส. ระบุว่าจะยื่นเรื่องให้กับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นั้น นายจุติ กล่าวว่า คณะกรรมการฯ ได้มีการยื่นเรื่อง ป.ป.ช. เองแล้วหลายเรื่อง ยืนยันว่าทางพวกผมทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ อยากให้ประชาชนได้เช่าบ้านราคาถูก ขอให้มาทำงานด้วยกัน ไม่อยากให้เอกชนใช้สภาฯ เป็นที่บิดเบือนเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ ซึ่งถ้าเขายังไม่เลิก วันหน้าผมจะชวน ส.ส. ไปลุยด้วยกัน

“วันนี้สิ่งที่เป็นประโยชน์กับบ้านเมืองต้องทำ ผมทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ตั้งใจที่สุดในชีวิตนี้อยากให้คนจนมีบ้านอยู่ อยากให้คนจนมีบ้านที่มีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ ขอให้ไปดูบ้านเอื้ออาทร และบ้านที่ผมสร้างใหม่เป็นอย่างไร ทั้งสุขภัณฑ์อย่างดี ปูพื้นยาง มีมุ้งลวด เหล็กดัดกันขยะ ตู้เสื้อผ้า และเตียง ผมยอมให้ท่านตรวจสอบ แต่เราทำด้วยความสัตย์จริง เอกชนต้องเลิกหากินเป็นเหลือบกับการเคหะฯ เสียที” นายจุติ กล่าว

ด้าน นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส. กทม. พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นอภิปรายตอบรับว่า เมื่อวานมีทั้งหมด 17 ข้อกล่าวหา หายไป 20 ชั่วโมง วันนี้ท่านตอบมาถึง 29 ข้อ ผมคิดว่าเอาเวลาไปเก็บของออกจากกระทรวงดีกว่า ถ้าหายไปแล้วได้ข้อมูลมาแค่นี้ โดยนายณัฐชายังตอบโต้คำชี้แจงของนายจุติด้วย พร้อมทั้งเน้นย้ำไม่ให้คิดสมการคนจนมาทำให้ตนเองรวยขึ้น และอย่าบีบคั้นให้คนจนกว่าเดิม เพราะการเคหะแห่งชาติต้องจัดสรรที่อยู่อาศัยให้กับผู้มีรายได้น้อยให้ได้

นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ คนที่สอง ทำหน้าที่ประธานการประชุม อนุญาตให้ นายจุติ ตอบชี้แจงอีกครั้ง และประธานฯ เห็นว่าไม่ให้นายณัฐชาลุกขึ้นอภิปรายแล้วเนื่องจากเป็นข้อมูลเดิมและจะตอบโต้กัน อย่างไรก็ตาม นายณัฐชา กล่าวทิ้งท้ายว่า ขอให้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา พร้อมด้วย นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมกันตรวจสอบเพื่อพิทักษ์ผลประโยชน์ของประเทศชาติต่อไป

Related Posts

Send this to a friend