POLITICS

กมธ.พัฒนาการเมือง ตั้งคณะทำงานสืบหา ข้อเท็จจริง กรณีผู้ชุมนุมถูกยิงย่านดินเเดง

กมธ.พัฒนาการเมือง ตั้งคณะทำงานสืบหาข้อเท็จจริง จากสถานการณ์ชุมนุมทางการเมือง ยก กรณีผู้ชุมนุมถูกกระสุนจริง ย่านดินเเดง พร้อมขอสื่อนำเสนอข้อเรียกร้องผู้ชุมนุม อย่านำเสนอเพียงภาพปะทะการชุมนุมด้านเดียว ย้ำเพื่อประโยชน์ต่ออนาคตเยาวชน

วันนี้ (18 ส.ค. 64) ที่อาคารรัฐสภา นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขต 25 พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน เเละการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร แถลงถึงความคืบหน้าการประชุมของคณะกรรมาธิการในการจัดตั้งคณะทำงานติดตามการชุมนุมของประชาชนเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยและการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพของรัฐบาลในสถานการณ์โควิด

นายณัฐชา กล่าวว่าจากสถานการณ์การชุมนุมของประชาชนตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมายิ่งทวีความรุนเเรงมากขึ้น โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเเละเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนเข้าสลายการชุมนุมทุกครั้ง มีการกระทำเกินกว่าเหตุ เเละยั่วยุให้เกิดความรุนเเรง เป็นเหตุให้ผู้ชุมนุมบาดเจ็บ เเละมีการใช้อาวุธในการสลายการชุมนุมทั้งแก๊สน้ำตา เเละกระสุนยาง โดยไม่ได้ใช้ตามขั้นตอนสากล ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายเเรง โดยผู้ละเมิดกลับกลายเป็นผู้รักษาและบังคับใช้กฎหมายเสียเอง

ทางคณะกรรมธิการ ในฐานะกลไกทางรัฐสภา จึงมีความเห็นว่า ควรจะทำหน้าที่ปกป้องประชาชน ตั้งคณะทำงานเพื่อติดตามสืบหาข้อเท็จจริง จากกรณีความรุนเเรงที่เกิดขึ้นระหว่างการชุมนุมทางการเมือง โดยคณะทำงานดังกล่าว จะทำงานร่วมกับคณะทำงานของส.ส.อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล กรรมาธิการ เพื่อความคล่องตัวในการทำงานเพื่อติดตามสถานการณ์การชุมนุมของประชาชนเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย เเละสืบหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น จากการชุมนุมทางการเมือง โดยมี ร.ศ.ดร. พวงทอง ภคัวรพันธ์ ผู้ร่วมจัดทำรายงาน ความจริงเพื่อความยุติธรรม : เหตุการณ์และผลกระทบจากการสลายการชุมนุมเมษา-พฤษภา 53 เป็นประธานคณะทำงาน พันตำรวจตรี ชวลิต เลาหอุดมพันธ์ ส.ส. พรรคก้าวไกล อดีตนายตำรวจหน่วยพิสูจน์หลักฐานกลาง เป็นรองประธานคณะทำงานคนที่ 1 , ผ.ศ. สาวตรี สุขศรี อดีตหัวหน้าภาควิชาอาญาและอาชญวิทยา คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นรองประธานคณะทำงานคนที่ 2

นายณัฐชา กล่าวต่อไปว่า จะเห็นได้ว่าการสลายการชุมนุมทุกครั้ง เจ้าหน้าที่ใช้กำลังเกินกว่าเหตุในการควบคุมฝูงชน เป็นเหตุให้เกิดความกังวลว่าพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่เช่นนี้ จะขัดขวางความสะดวกและเสรีภาพในการรวมตัวทำกิจกรรมทางการเมืองของประชาชน ซึ่งเป็นเสรีภาพที่ได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ ในฐานะประธานกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมทางการเมือง จึงเห็นว่าเพื่อการันตีสิทธิเสรีภาพของพลเมือง

จำเป็นต้องไม่ให้พฤติกรรมเช่นนี้ของเจ้าหน้าที่ดำเนินไปโดยปราศจากความรับผิด โดยการนำตัวผู้ละเมิดกฎหมายมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ต้องเริ่มจากการแสวงหาความจริง และความจริงนั้นจะได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย ก็ต่อเมื่อมีการรวบรวมจากหน่วยงานที่เป็นกลาง น่าเชื่อถือ และไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับเหตุการณ์ ตำรวจไม่สามารถตรวจสอบตัวเองได้ เพราะตกเป็นผู้ถูกกล่าวหา ทำให้คณะกรรมาธิการจำเป็นต้องตั้งคณะทำงานแสวงหาความจริง หรือ Fact-finding Mission ขึ้นมา ซึ่งเป็นไปตามหลักการสากล

นายณัฐชายังกล่าวทิ้งท้ายว่า ในวันนี้ภาพในสื่อต่างๆ แทบไม่มีการสื่อสารถึงข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมเลย ว่าสิ่งที่เยาวชนคนหนุ่มสาวออกมาเรียกร้อง เสี่ยงอันตรายท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของโควิด เสี่ยงกับกระสุนยางและแก๊สน้ำตา พวกเขาออกมาประท้วงด้วยเหตุผลอะไร มีเพียงการนำเสนอข่าวความรุนเเรงที่เกิดขึ้นเพียงเท่านั้น ซึ่งตนเข้าใจว่าสื่อเห็นว่าความรุนแรงในการชุมนุมเป็นเรื่องสำคัญ และขอชื่นชมยกย่องสื่อแนวหน้าจำนวนมากที่เสี่ยงอันตรายรายงานข่าวอย่างใกล้ชิดท่ามกลางกระสุนยางและแก๊สน้ำตา จนสื่อจำนวนไม่น้อยได้รับบาดเจ็บระหว่างการปฏิบัติงาน

แต่ตนขอฝากให้สื่ออย่าลืมนำเสนอข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุม เพื่อให้ประชาชนทั่วไป รวมถึงเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนเข้าใจว่าที่ผู้ชุมนุมออกมาประท้วง เพราะต้องการอนาคตที่ดีขึ้น การบริหารจัดการสถานการณ์โควิดที่มีประสิทธิภาพขึ้น รัฐบาลที่มีประสิทธิภาพ รับใช้ประชาชนได้ดีขึ้น และการปฏิรูปสถาบันหลักของชาติให้มั่นคงสง่างามขึ้นเท่านั้น ไม่ใช่กลุ่มวัยรุ่นป่วนเมือง หรืออริราชศัตรูตามที่มีความพยายามป้ายสีด้อยค่าผู้ชุมนุม

Related Posts

Send this to a friend