‘วราวุธ’ ชี้ สถิติความรุนแรงใน เด็ก-เยาวชน พุ่ง เร่งดัน พ.ร.บ.ความรุนแรงในครอบครัวให้เสร็จปีนี้

‘วราวุธ’ ชี้ สถิติความรุนแรงใน เด็ก-เยาวชน พุ่งก้าวกระโดดในช่วง 5 ปี เร่งดัน พ.ร.บ.ความรุนแรงในครอบครัว ให้เสร็จปีนี้ เตรียมหาแนวทางแก้ปัญหาโครงสร้างประชากร หลังไม่เกิน 10 ปี ไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุสุดยอด

วันนี้ (2 ก.พ. 67) ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) แถลงการขับเคลื่อนงานของศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) ถึงสถานการณ์ความรุนแรงของเด็กและเยาวชนว่า ศรส. สำรวจสถิติความรุนแรงของเด็กและเยาวชน ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในช่วง 4–5 ปีที่ผ่านมา โดยประเด็นเรื่องเด็กค่อนข้างเป็นภาวะวิกฤตในสังคมปัจจุบัน ทั้งเป็นผู้ถูกกระทำและกระทำการเอง ทั้งนี้ จากการประเมินของ ศรส. พบสาเหตุของความรุนแรง มีอยู่ 6 ประเด็น ได้แก่

ประเด็นแรก คือ ความผิดปกติของสารเคมีในสมอง เป็นความรู้สึกนึกคิด จะเกิดเป็นภาวะป่วยทางจิตขึ้นมา ต้องแก้ไขต่อไป

ประเด็นที่ 2 คือ ครอบครัว การเลี้ยงดู การดูแลเอาใจใส่ที่ไม่เหมาะสม ขาดการเอาใจใส่กับเด็กและเยาวชน ขาดการชี้นำหรือการสั่งสอนที่ถูกต้องจากคนในครอบครัว

ประเด็นที่ 3 คือ เรื่องสิ่งแวดล้อมในชุมชนที่เด็กและเยาวชนของเรา มีความเสี่ยงสูงที่จะเข้าไปพัวพันกับอบายมุข หรือยาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมายทั้งหลาย

ประเด็นที่ 4 คือ รายได้และความเป็นอยู่ของครอบครัวของเด็กและเยาวชน ซึ่งพอมีความยากจน มีความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ จะเกิดความล่อแหลมที่จะทำผิดง่ายในการทำสิ่งผิดกฎหมายและถูกดำเนินคดีในท้ายที่สุด

ประเด็นที่ 5 คือ เรื่องในสถานศึกษาที่มีการบูลลี่กัน ไม่ว่าจะเป็นทางกาย ทางวาจา หรือทางไซเบอร์ การบูลลี่ต่าง ๆ จะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดความรุนแรง ไม่ว่าจะผู้ถูกกระทำและผู้กระทำ

ประเด็นที่ 6 คือ การนำเสนอข่าวและรายละเอียดเกี่ยวกับความรุนแรงที่เกิดขึ้น เรื่องเกมออนไลน์ต่าง ๆ โซเชียลมีเดีย เกิดพฤติกรรมเลียนแบบของเด็ก เยาวชน หรือแม้แต่ผู้ใหญ่

นายวราวุธ ย้ำว่าฝากสื่อมวลชนในการจำกัดรายละเอียดเรื่องการนำเสนอความรุนแรงผ่านสื่อต่าง ๆ แต่ไม่ได้จำกัดการนำเสนอข่าว จำกัดการนำเสนอรายละเอียดของแต่ละเคสที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผู้ถูกกระทำหรือผู้กระทำ ทั้งสถานที่ ตำบล อำเภอ ซึ่งบางครั้งแทบจะชี้ได้เลยว่า ผู้ถูกกระทำหรือผู้กระทำเป็นคนที่ไหนหรือชื่ออะไร

นายวราวุธ เปิดเผยว่า ในที่ประชุมคณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา มีแนวทางสำคัญในการป้องกันเด็กไม่ให้ก้าวข้ามจากกลุ่มเสี่ยงเป็นกลุ่มที่กระทำความผิด ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือของทุกหน่วยงาน ทั้งภาครัฐ เอกชน ชุมชน โดยเฉพาะสถาบันครอบครัว นับเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการป้องกันไม่ให้เด็กและเยาวชนก้าวข้ามจากกลุ่มเสี่ยงกลายเป็นกลุ่มผู้กระทำผิด

ปัจจุบัน พม.มีกฎหมายอยู่ประมาณ 3 ฉบับ ที่ขอให้คณะกรรมการกฎหมายเร่งดำเนินการ ได้แก่ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ และร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก ซึ่งการประชุมคณะกรรมการคุ้มครองเด็กจะเร่งดำเนินการจากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว โดยเฉพาะร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว โดยปลายปีนี้ จะประชุมสำคัญระดับโลกที่ประเทศโคลัมเบีย เกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัยของเด็กและเยาวชนในครอบครัว และจะเร่งทำกฎหมายฉบับนี้ให้สำเร็จภายในปีนี้

นอกจากนี้ พม.ตั้งเป้าหมายไว้ภายในไตรมาสที่ 2 ของปี เพื่อเข้าสู่กระบวนการผ่านทางคณะรัฐมนตรี และประกาศใช้ในพระราชกิจจานุเบกษา ดังนั้นปลายปีไทยจะได้กล่าวบนเวทีโลกว่ามีกฎหมายคุ้มครองการกระทำความรุนแรงกับบุคคลในครอบครัว รวมถึงยังมีอนุบัญญัติกฎหมายรองที่ พม. เร่งดำเนินการอยู่รวมกันกว่า 10 ฉบับ

นายวราวุธ กล่าวเพิ่มเติมว่า วันที่ 7 มี.ค. 67 พม.จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสัมมนา และเวิร์คช็อปปัญหาโครงสร้างประชากร ที่ศูนย์สิริกิติ์ โดยมีทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับปัญหาโครงสร้างประชากรเข้าร่วม เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหา ซึ่งวันนี้ไทยเป็นสังคมผู้สูงอายุสมบูรณ์แบบแล้ว หากไม่ได้รับการแก้ไข อีกไม่เกิน 10 ปี ไทยจะเข้าสู่สถานะสังคมผู้สูงอายุสุดยอด ซึ่งจะทำให้ปริมาณกลุ่มคนที่จะอยู่ในอายุแรงงานน้อยลงทุกปี จึงขอเชิญร่วมหาแนวทางเพื่อเป็นทางออกให้กับประเทศไทย