อานันท์ หวัง รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ นำไทยสู่ความยุติธรรม

วันนี้ (17 พ.ค.65) นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังร่วมงานรำลึก 30 ปี สดุดีเหตุการณ์วีรชนพฤษภาประชาธรรมว่า ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา ความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองไทยยังมีน้อย โดยเฉพาะเรื่องสิทธิเสรีภาพของประชาชน ประเทศไทยอยู่ในระบอบประชาธิปไตยมาเกือบ 90 ปี ส่วนตัวเป็นห่วงประเทศไทยจะเดินถอยหลัง จึงหวังว่าเราจะได้รับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ตัวหนังสือและจิตวิญญาณต้องเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง มีความสมบูรณ์ของสิทธิขั้นพื้นฐาน และเป็นเครื่องมือที่นำสังคมไทยสู่ความยุติธรรม ลดความเหลื่อมล้ำด้านต่าง ๆ แต่ไม่ประหัตประหารคนรวย

ทุกรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลประชาธิปไตยเต็มใบ ครึ่งใบ เสี้ยวใบ หรือรัฐประหาร ต้องตระหนักปัญหาความขัดแย้ง ปากท้อง เศรษฐกิจ และสาธารณสุขอย่างจริงจัง ไม่มีอะไรฝากไปถึงรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพราะไม่ตำแหน่ง ไม่มีอำนาจ ไม่มีข้อมูลที่สมบูรณ์ พูดก็ไม่เป็นธรรมกับผู้ฟัง

การเดินหน้าของรัฐบาลชุดนี้ท่ามกลางความขัดแย้งที่ฝังรากลึก สื่อมวลชนและแพลตฟอร์มออนไลน์มีส่วนสำคัญในการนำเสนอวาทกรรมแห่งความขัดแย้ง สังคมไทยหูเบา ประชาชนต้องไตร่ตรองให้ดี เพราะตามหลักพระพุทธศาสนาสอนว่า ไม่ต้องเชื่อทุกอย่างที่พูด ต้องฟังให้ดีและไตร่ตรอง ทางออกของปัญหานี้คือ “ความปรองดอง” ที่จะต้องเกิดขึ้นอย่างน้อย 2 ฝ่าย ความเห็นแตกต่างได้ แต่ต้องไม่แตกหัก หรือสู้รบกัน หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถือว่าตนเองถูกเสมอ หรือทำตามกฎหมายเสมอ แต่กฎหมายไม่ดีหรือผิดจะทำอย่างไร สิ่งที่คนไทยต้องมีคือ “สติสติสัมปชัญญะ”

นายอานันท์ ตั้งคำถามทิ้งท้ายว่า ทุกครั้งที่เกิดรัฐประหารประเทศไทยได้ถอดบทเรียนหรือไม่ ได้แก้ปัญหาที่เป็นต้นตอของรัฐประหารหรือไม่