ประธาน กกต.เผยยังไม่ชัด รับรอง ส.ส. ทั้งหมดเลยหรือไม่ อยู่ที่การตรวจสอบข้อเท็จจริง

ประธาน กกต.เผยยังไม่ชัด รับรอง ส.ส. ทั้งหมดเลยหรือไม่ อยู่ที่การตรวจสอบข้อเท็จจริง ระบุ 71 ว่าที่ ส.ส. ต้องรอตรวจสอบประเภทคำร้องก่อนรับรอง ส่วนการไต่สวนปม ‘หุ้นสื่อพิธา’ต้องแล้วเสร็จภายใน 20 วัน

วันนี้ (16 มิ.ย. 66) ที่โรงแรมเซนทารา บายเซนทารา ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ระบุถึงการรับรอง ส.ส. อย่างเป็นทางการหลังจากผ่านการเลือกตั้งมากว่า 1 เดือนว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นกระบวนการที่เสนอเข้าสู่ที่ประชุม กกต. ส่วนหลักฐานที่ต้องใช้ประกอบการพิจารณามากกว่านี้จะเป็นวาระของสัปดาห์หน้า ส่วนการจะรับรอง 95% หรือทั้งหมดหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงของพยานหลักฐาน เพราะขึ้นอยู่กับมาตรา 127 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ที่ให้ กกต. ตรวจสอบเบื้องต้น ซึ่งการประกาศผลจะผลภายใน 60 วัน เพื่อยืนยันว่าการเลือกตั้งบริสุทธิ์และเที่ยงธรรม

ทั้งนี้กฎหมายมาตราดังกล่าวยังให้ความสำคัญกับการตรวจสอบเบื้องต้นมาก ซึ่ง กกต. ต้องรับฟังรายงานจากผู้ตรวจการเลือกตั้ง และข้อมูลข่าวสารจาก กกต. ประจำแต่ละจังหวัดซึ่งต้องไปดูว่าเป็นคำร้องที่เป็นเหตุให้การเลือกตั้งไม่สุจริต หรือเป็นคำร้องในลักษณะฝ่าฝืนกฎหมายอื่นๆ

ประธาน กกต.ยังระบุถึงการพิจารณาเสนอการรับรองว่าที่ ส.ส. อีกว่าเอกสารที่หลุดออกมาก่อนหน้านี้ แล้วมีจำนวน 71 เขตที่จะยังไม่ถูกรับรอง นั้นเป็นเพียงเอกสารส่วนหนึ่งที่ใช้ประกอบการพิจารณา เพียงแต่ยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ส่วนจะยังไม่ประกาศรับรอง 71 ส.ส. หรือไม่นั้น ไม่อยากพูดเช่นนั้น เพราะต้องไปดูข้อมูลเกี่ยวกับคำร้องว่าเป็นประเภทไหน ซึ่งตนเองก็มีความตระหนักในกระแสสังคมที่ให้มีการประกาศรับรอง ส.ส. โดยเร็ว แต่ตามกฎหมายก็ต้องมีการตรวจสอบเบื้องต้น ทั้งนี้ประธาน กกต.ยังยืนยันว่าจะประกาศรับรอง ส.ส.เร็วกว่าการเลือกตั้ง 2562 แน่นอน ส่วนการพิจารณารับรอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ทางสำนักงานก็จะเสนอมาพร้อมกันในสัปดาห์หน้า

นายอิทธิพร ยังได้กล่าวถึงกติกาการแจกใบเหลือง และใบส้ม ว่า หากตรวจสอบคำร้องเสร็จสิ้นแล้วว่า การให้ใบเหลือง หรือใบส้มนั้นต้องทำก่อนการประกาศผล แต่ทั้งนี้ต้องตรวจสอบว่ากระบวนการไต่สวนเสร็จเรียบร้อย และส่งเรื่องมาถึงเลขาธิการ กกต. แล้ว แต่ตามกรอบเวลาที่เหลืออยู่หากให้มีการเลือกตั้งใหม่ก็สามารถทำได้ เนื่องจากกระบวนทางกฎหมายสามารถร่นระยะเวลาบางอย่างได้ แต่โดยส่วนตัวไม่อยากมองไปถึงขนาดนั้น เพราะข้อมูลคำร้องที่ส่งนั้นยังไม่ชัดเจน ส่วนการจะรับรองไปทั้งหมดก่อน แล้วค่อยไปสอยทีหลังนั้น ก็สามารถทำได้ตามมาตรา 85 แต่ต้องดูข้อเท็จจริง และภาพรวมเป็นรายกรณีไป

ส่วนการเรียกร้องให้มีการรับรอง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ไปก่อน แล้วจึงดำเนินการต่อตามมาตรา 82 ที่กำหนดให้สมาชิกรัฐสภา ดำเนินการเข้าชื่อต่อประธานแต่ละสภาเพื่อส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยพ้นสมาชิกภาพของสมาชิกสภานั้นๆ ประธาน กกต. ย้ำว่า เรื่องนั้นไม่สามารถพูดตอนนี้ได้ เพราะการพิจารณาจาก กกต. ทั้ง 6 คนยังไม่เสร็จสิ้น

ส่วนการตรวจสอบกรณี พิธา ถือหุ้นไอทีวีนั้น ประธาน กกต.ระบุว่า ได้เข้าสู่กระบวนการสืบสวนไต่สวนไปแล้วตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย. และจะว่าไปตามระเบียบว่าด้วยการสืบสวนไต่สวน ซึ่งจะดำเนินการภายใน 20 วัน หากไม่เสร็จสิ้น สามารถต่อเวลาได้อีก 15 วัน ทั้งนี้ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย