POLITICS

‘กังฟู วสวรรธน์’ รับรู้สึกผิดหวัง โหวตพิธาไม่ผ่าน

‘กังฟู วสวรรธน์’ รับรู้สึกผิดหวัง โหวตพิธาไม่ผ่าน ชี้ วันนี้มาหาฝ่ายบริหาร ไม่ได้มาเป็นกระบวนการฝ่ายนิติบัญญัติ ขออย่าดูถูกคนรุ่นใหม่ คนรุ่นใหม่ก็เคารพสถาบันเหมือนกัน

วันนี้ (13 ก.ค. 66) ภายหลังจากโหวตนายกรัฐมนตรีในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เสร็จสิ้น นายวสวรรธน์ พวงพรศรี หัวหน้าพรรคเพื่อไทรวมพลัง เดินทางออกมาให้กำลังใจประชาชนที่มาร่วมเชียร์ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี โดยเปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า รู้สึกผิดหวัง เพราะเสียงของพี่น้องประชาชนได้เลือกไปแล้ว แต่วันนี้กลับมาพูดถึงเรื่องการแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งวันนี้เรามาเลือกฝ่ายบริหาร เราไม่ควรมาคุยกันเรื่องกฎหมาย เราเสียเวลาไปตั้งเยอะแล้ว และตนก็ขอให้กำลังใจทุกคน

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากผลโหวตเสร็จสิ้นได้มีการพูดคุยกับนายพิธาหรือไม่ นายวสวรรธน์ ระบุว่า ยังไม่ได้พูดคุยกันแต่หลังจากนี้ 8 พรรคก็จะมีการประชุมกัน วันนี้ก็ยอมรับในผลโหวต แต่สิ่งที่ยอมรับไม่ได้คือ เสียงของประชาชนที่เลือกมา และเสียใจแทนประชาชนมากกว่า เพราะเป็นเสียงข้างมากแล้วตามหลักการ

ถามต่อว่า จะมีการพูดคุยหารือกับ 8 พรรคอย่างไรบ้าง ตอบว่า ต้องมีการพูดคุยกันอย่างแน่นอนถึงท่าทีหลังจากนี้ ซึ่งให้พรรคพี่ใหญ่สีส้มคือพรรคก้าวไกล และพรรคพี่ใหญ่สีแดง คือพรรคเพื่อไทย หาแนวทางการพูดคุยกันต่อไป

เมื่อถามถึงท่าทีของมวลชนที่มารวมตัวกันหน้าอาคารรัฐสภา นายวสวรรธน์ กล่าวว่า เข้าใจความคิด และความรู้สึกของมวลชน พวกเขามีความคิด มีเสียง มีจุดยืนเป็นของตนเอง ในการยืนยันสิ่งที่เลือกมาแล้ว พร้อมขอส่งกำลังใจให้กลุ่มผู้ชุมนุม รวมทั้งขอให้การชุมนุมในวันนี้เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย และขอให้เคารพกติกากฎหมายของบ้านเมือง ซึ่งมั่นใจว่าคนรุ่นใหม่ รักสถาบันฯ ไม่อยากให้ดูถูกคนรุ่นใหม่ เพราะคนรุ่นใหม่ก็มีความเคารพในสถาบันเหมือนกัน โดยส่วนตัวนั้น ก็เคยเฝ้ารับเสด็จมาหลายครั้ง พระองค์ท่านต้องอยู่เหนือการเมือง และพระองค์ท่านก็ไม่ควรถูกใครนำมาอยู่ในการเมือง

“คนรุ่นใหม่ไม่เคารพสถาบันนั้นไม่จริง แล้วพรรคร่วม 8 พรรคที่เซ็น MOU กัน เราก็ไม่ได้นำเอาตัวการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เข้าไปบรรจุด้วย และไม่ใช่สาระสำคัญในการจัดตั้งรัฐบาล วันนี้เรามาเพื่อหาผู้บริหารประเทศ ไม่ได้มาเป็นกระบวนการนิติบัญญัติที่จะมาแก้ไขกฎหมาย วันนี้ที่พูดคุยนั้นเสียเวลาไปกับเรื่องกฎหมายมาตรา 112 ซึ่งในรอบหน้าในพระร่วม 8 พรรคก็จะมีการพูดคุยและหารือกันต่อไป” นายวสวรรธน์ กล่าว

เมื่อถามว่าจะมีการเสนอให้พรรคก้าวไกล ถอยเรื่องการแก้ไขกฎหมาย ม.112 หรือไม่ เพื่อหาคะแนนเสียงเพิ่มจากสมาชิกรัฐสภา นายวสวรรธน์ตอบว่า ก็ต้องให้ทั้ง 8 พรรคไปร่วมพูดคุยกันก่อน ตนยังตอบไม่ได้ เพราะเป็นแค่พรรคเพื่อไทยรวมพลัง เพียงพรรคเดียว ก็ต้องรอเขาพูดคุยกันต่อไป และยังคงสนับสนุน พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนไป ตามที่เซ็นไว้ใน MOU

Related Posts

Send this to a friend