สส.ธีรรัตน์ สนับสนุนรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย

ขอ รมต.ชี้แจงเป็นแบบถ้วนหน้าหรือเฉพาะกลุ่ม อยากเห็นรถเมล์ทั่วถึง กทม.-ตจว. ปรับสภาพรถไฟชั้นสาม ลั่น “รัฐบาลที่มีความสามารถ จะทำให้สิ่งที่ทุกคนคิดว่ายาก ให้สำเร็จได้”

วันนี้ (12 ก.ย. 66) น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ สส.กทม. พรรคเพื่อไทย อภิปรายถึงปัญหาการจราจรของประชาชนและคุณภาพชีวิตใน กทม. ที่ต้องออกจากบ้านมาทำงานตั้งแต่เช้าเพื่อหนีรถติด ตอนเย็นก็ต้องใช้ ชีวิตอยู่บนท้องถนนมากกว่า 1 ชั่วโมงเพื่อเดินทางกลับบ้าน ความแออัดบนรถเมล์ในชั่วโมงเร่งด่วน อยากจะใช้รถไฟฟ้าก็มีราคาแพง เป็นภาระของประชาชน เป็นความทุกข์ของประชาชนจริงๆ

น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวว่า จากการนำเสนอนโยบายของรัฐบาลในหน้าที่ 6 ที่ระบุถึง การปรับปรุงระบบคมนาคมทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ ตนอยากจะให้เห็นภาพการบูรณาการโครงสร้างพื้นฐานให้มีประสิทธิภาพมากกว่าในอดีต ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยได้เสนอนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้โดยสาร เพื่อประหยัดเวลาและทำให้ชีวิตของประชาชนสะดวกสบายยิ่งขึ้น ตนเห็นด้วยกับนโยบายนี้เป็นอย่างยิ่ง และการเดินทางด้วยระบบราง เป็นการประหยัดพลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อมได้ดีที่สุด

น.ส.ธีรรัตน์ ยอมรับว่ามีความกังวลใจที่มีสมาชิกกล่าวว่า การผลักดันนโยบายนี้จะเป็นการอุ้มคนในกรุงเทพมหานครที่มีรายได้ดีอยู่แล้ว ทำไมรัฐต้องเข้าไปดูแลด้วย ซึ่งตนคิดว่าไม่ใช่ทั้งหมดของคนที่อยู่ใน กทม.จะมีรายได้มากเสมอไป บางท่านอาจกล่าวว่ารถไฟฟ้ามีไว้ให้บริการชนชั้นกลาง คนจนไม่ได้ใช้ ซึ่งแน่นอนหากค่าโดยสารรถไฟฟ้าราคาสูงเช่นนี้ คนรายได้น้อยคงไม่มีโอกาสได้ใช้ แล้วทำไมเราจึงไม่ทำค่าบริการให้ถูก เพื่อให้คนมีรายได้น้อยสามารถใช้บริการประเภทนี้ได้ด้วย

ในกรณีที่มีบางท่านกังวลว่าจะเป็นการกระจุกความเจริญอยู่ในตัวเมือง และการกำหนดราคาเช่นนี้รัฐบาลจะหางบประมาณมาจากไหน แต่ตนเห็นว่ารัฐบาลที่ดี คือรัฐบาลที่เห็นศักดิ์ศรีของทุกคนเท่าเทียมกัน ประชาชนทุกคนคือคนที่รัฐต้องดูแล ไม่ว่าจะยากดีมีจน ล้วนต้องมีสวัสดิการที่ดี มีคุณภาพชีวิตที่ดีทั้งสิ้น

“รถไฟฟ้าอยู่ในกรุงเทพก็จริงแต่ประชาชนทุกคนที่มาจากที่ต่างๆ ก็สามารถใช้การขนส่งประเภทนี้ได้ด้วย และการเจริญในระบบคมนาคมก็ยังสามารถขยายไปในยังพื้นที่ชานเมือง หรือต่างจังหวัดได้ ถือเป็นการกระจายความเจริญสู่พี่น้องประชาชน” น.ส.ธีรรัตน์ กล่าว

น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวต่อไปอีกว่า ทุกวันนี้นอกจากค่ารถไฟฟ้าที่ประชาชนต้องแบกรับแล้ว ยังมีรายจ่ายส่วนอื่นที่เพิ่มเติมเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นค่าเดินทางจากบ้านไปสถานีรถไฟฟ้า ค่ารถแท็กซี่ ค่าที่จอดรถ ทั้งหมดล้วนเป็นภาระที่ประชาชนต้องแบกรับ

หากรัฐบาลทำค่ารถโดยสารรถไฟฟ้าให้ถูกลงได้เท่ากับประชาชนสามารถเข้าถึงบริการได้มากขึ้น รายได้ที่เราจะได้รับก็มากขึ้นด้วย นอกจากรายได้ที่จะได้รับมากขึ้นแล้ว ยังเป็นการลดการใช้เชื้อเพลิงจากรถยนต์ส่วนตัว ลดมลพิษ สนับสนุนให้เกิดสังคมสีเขียวตามเป้าหมาย SDGs ข้อที่ 13

นอกจากที่ น.ส.ธีรรัตน์ จะเห็นด้วยกับการปรับราคารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายแล้ว ยังได้กล่าวสนับสนุนให้มีการปรับปรุงสภาพภายในของรถไฟฟ้าและรถไฟชั้นสามทุกขบวน ให้มีความทันสมัย สะอาด ปลอดภัย และตรงเวลา เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้ที่มีรายได้น้อยและผู้ใช้รถไฟชั้นสามทั่วประเทศ และย้ำว่า การลงทุนในระบบคมนาคมทั้งเส้นเลือดฝอย เช่น รถเมล์ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด เป็นสิ่งที่รัฐต้องให้ความสำคัญ ไม่แพ้เส้นเลือดใหญ่

“ถ้าเราลองคิดถึงรถเมล์ที่สามารถมีบริการได้ถึงใกล้บ้านมากที่สุด การใช้รถไฟที่มาอย่างตรงต่อเวลา ดิฉันคิดว่าสิ่งนี้สามารถเป็นตัวชี้วัดหนึ่งในการบอกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนได้” น.ส.ธีรรัตน์ กล่าว

น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวว่า ตนยังมองเห็นการเชื่อมโยงโครงข่ายรถไฟความเร็วสูงทั่วประเทศเป็นการเชื่อมต่อเพื่อเพิ่มปริมาณทางด้านการค้าและการท่องเที่ยวกับจีนและประเทศในอาเซียน เส้นทางรถไฟดังกล่าว ยังเชื่อมต่อกับเส้นทางสายไหมใหม่ ซึ่งเป็นประตูไปยังเอเชียใต้ ตะวันออกกลาง รัสเซีย และยุโรป รัฐบาลที่มีความสามารถจะทำมันให้สำเร็จได้

ตนยินดีเป็นอย่างยิ่งที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ชี้แจงในที่ประชุมว่า รัฐบาลเดินหน้านโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายทันที และได้รับฟังความคิดเห็นจากประชาชนหลายช่องทาง รวมถึงช่องทางออนไลน์ด้วย มีคำถามฝากถึงรัฐมนตรีว่า

1.รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย จะให้สิทธิ์เฉพาะผู้มีรายได้น้อย หรือให้สิทธิ์กับคนทุกกลุ่ม

2.รายละเอียดเกี่ยวกับนโยบายนี้ ตลอดสายหมายความว่าอย่างไร หากขึ้นจากอีกสายหนึ่งไปต่ออีกสายจะคิดราคาอย่างไร ขอให้รัฐมนตรีได้ยืนยันให้ชัดเจนอีกครั้งเพื่อความเข้าใจที่ตรงกันของประชาชน

“รัฐบาลที่มีความสามารถจะสามารถทำให้สิ่งที่ทุกคนคิดว่ายากให้สำเร็จได้ วันนี้ประเทศก้าวสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดี ดิฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การทำงานที่ทุ่มเทอย่างเต็มกำลังความสามารถ จะผลักดันนโยบายที่เคยประกาศไว้ ให้สำเร็จได้ในทุกนโยบาย” น.ส.ธีรรัตน์ กล่าว