POLITICS

เริ่มวันนี้ “ตัดแต้มใบขับขี่” เตือน เหลือ 0 คะแนน ถูกสั่งพักใช้อนุญาต/ห้ามขับรถ 90 วัน

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (9 ม.ค. 66) เป็นวันแรกที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เริ่มใช้มาตรการตัดคะแนนความประพฤติในการขับรถ หรือตัดแต้มใบขับขี่ เพื่อเสริมสร้างวินัยจราจร ลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน

โดยกำหนดให้ผู้มีใบอนุญาตขับขี่ทุกคน มีคะแนนความประพฤติ 12 คะแนน ไม่ว่าผู้นั้นจะได้รับใบอนุญาตขับขี่ชนิดใดก็ตาม โดยการตัดคะแนนเมื่อทำความผิดที่เป็นปัจจัยในการเกิดอุบัติเหตุ 20 ฐานความผิด แบ่งเป็น 4 ระดับ ดังนี้

แบบที่ 1 ตัดคะแนนทันทีที่ทำผิด 1 คะแนน กรณีใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ ไม่สวมหมวกนิรภัย ไม่รัดเข็มขัดนิรภัย ขับรถเร็วเกินกำหนด ขับรถบนทางเท้า ไม่หยุดให้คนข้ามทางม้าลาย ไม่หลบรถฉุกเฉิน ขับรถโดยประมาท น่าหวาดเสียว ขับรถไม่ติดป้ายทะเบียน หรือเปลี่ยนแปลง ปิดบัง และไม่ติดป้ายภาษี , ตัด 2 คะแนน กรณีขับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร ขับรถย้อนศร ขับรถระหว่างโดนพักใช้ หรือเพิกถอนใบขับขี่ , ตัด 3 คะแนน กรณีขับรถในขณะหย่อนความสามารถ ขับรถผิดวิสัยคนขับรถธรรมดา ขับรถชนแล้วหนี และตัด 4 คะแนน กรณีเมาแล้วขับ ขับรถในขณะเสพยาเสพติด แข่งรถในทางโดยไม่ได้รับอนุญาต ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น

แบบที่ 2 ตัดคะแนนเมื่อไม่ชำระค่าปรับตามใบสั่ง ค้างชำระ 1 ใบสั่ง โดยจะตัด 1 คะแนน ซึ่งหากผู้ขับขี่ถูกตัดคะแนนจนเหลือ 0 คะแนน จะถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ หรือห้ามขับรถทุกประเภท เป็นเวลา 90 วัน โดยจะมีหนังสือแจ้งคำสั่ง หากฝ่าฝืนขับรถในขณะถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่หากถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่เป็นครั้งที่ 3 ภายใน 3 ปี อาจถูกสั่งพักใช้ใบขับขี่มากกว่า 90 วัน และหากถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่อีกเป็นครั้งที่ 4 ต้องถูกพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ทันที

“คะแนนที่ถูกตัด สามารถคืนคะแนนได้ โดยคะแนนที่ถูกตัดไปในแต่ละครั้ง จะได้รับคืนเมื่อครบกำหนด 1 ปี นับแต่วันกระทำผิดครั้งนั้นๆ เว้นแต่เป็นกรณีที่ถูกตัดเหลือ 0 คะแนน จะได้รับคืนเมื่อพ้นกำหนดเวลาการสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ แต่ได้รับเพียง 8 คะแนน เว้นแต่ขอเข้ารับการอบรมกับกรมการขนส่งทางบก เมื่อผ่านการอบรมตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข จะได้รับคืนทั้งหมด 12 คะแนน สามารถตรวจสอบคะแนนใบสั่งได้ที่เว็บไซต์ E-Ticket PTM หรือแอปพลิเคชันขับดี (KHUB DEE) และสามารถชำระค่าปรับได้ที่แอปพลิเคชันเป๋าตัง” นางสาวรัชดา กล่าว

Related Posts

Send this to a friend