CRIME

ตร.ไซเบอร์ เตือนภัย “Sharenting” ห่วงผู้ปกครองแชร์ข้อมูลลูกมากเกินไป

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษกกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) หรือ ตำรวจไซเบอร์ ประชาสัมพันธ์เตือนภัยพฤติกรรม Sharenting พ่อแม่ผู้ปกครอง ที่มักโพสต์ข้อมูลส่วนตัวบุตรหลาน จนเสี่ยงเปิดโอกาสให้กับผู้ไม่หวังดี

Sharenting เกิดจากการผสมคำว่า share + parenting ใช้เรียกพฤติกรรมของพ่อแม่ที่แชร์ภาพ วิดีโอ รวมถึงข้อมูลส่วนตัวของลูกมากเกินไป แม้ไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงอยากจะส่งต่อความน่ารักให้คนอื่นได้เห็น แต่ในอีกด้าน อาจส่งผลกระทบต่อตัวบุตรหลานในอนาคต เช่น การเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยในชีวิตประจำวัน

นอกจากนี้ ยังเป็นการเปิดโอกาสให้มิจฉาชีพหรือผู้ไม่หวังดี เข้าถึงตัวบุตรหลานได้ง่าย จากกิจกรรมที่ผู้ปกครองโพสต์ในโซเชียลมีเดีย เช่น การขโมยตัวตน สวมรอยเหยื่อนำข้อมูลส่วนตัวไปกระทำผิดกฎหมาย หรือนำภาพเด็กไปสร้างเรื่องราวขอรับบริจาคต่างๆ รวมถึงปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก นำภาพเด็กไปขายในเว็บมืด หรือนำไปใช้เพื่อตอบสนองทางเพศของกลุ่มคนที่มีอาการใคร่เด็ก หรือนำไปเเสวงหาผลประโยชน์จากการค้ามนุษย์ เป็นต้น

โฆษก บช.สอท. กล่าวเพิ่มเติมว่า พ่อแม่ผู้ปกครอง ควรตระหนักถึงผลที่จะตามมา หลังการโพสต์ข้อมูลของเด็กหรือบุตรหลาน ซึ่งมิจฉาชีพอาจใช้โอกาสนี้ นำข้อมูลส่วนตัวไปเเสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ จนสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างได้ จึงขอฝากประชาสัมพันธ์แนวทางการป้องกัน ดังนี้

1. พึงระลึกอยู่เสมอว่าการโพสต์ข้อมูลส่วนบุคคลลงในโลกออนไลน์ไม่ปลอดภัย
2. คิดเสมอว่าสิ่งใดที่เผยแพร่ไปแล้วในพื้นที่สาธารณะบนโลกออนไลน์ สิ่งนั้นจะคงอยู่ตลอดไป ไม่สามารถเรียกกลับคืน หรือลบล้างออกได้หมด
3. ไม่โพสต์ หรือแชร์ข้อมูลของบุตรหลานจนเกินพอดี
4. ไม่โพสต์ข้อมูลที่สำคัญลงในสื่อสังคมออนไลน์ และควรตั้งค่าความเป็นส่วนตัวจำกัดผู้เข้าถึงข้อมูล
5. ผู้ปกครองหมั่นตรวจสอบการใช้สื่อโซเชียลมีเดียของบุตรหลาน เพราะเด็กอาจจะนำข้อมูลไปเผยแพร่โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์

ทั้งนี้ หากพบเบาะแสการกระทำผิด หรือข้อขัดข้องใดๆ ก็สามารถติดต่อสอบถามได้ที่สายด่วนหมายเลข 1441 หรือหมายเลขโทรศัพท์ 081-866-3000 ตลอด 24 ชั่วโมง และแจ้งความออนไลน์ที่เว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com

Related Posts

Send this to a friend