รอง ผบช.ก. เผยผลสอบ กลุ่มบอส ‘ดิไอคอนกรุ๊ป’ ในเรือนจำฯ
ชี้ เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี พบ เส้นทางการเงินโยงแม่นักการเมือง ส. เตรียมประชุมใหญ่พรุ่งนี้ เพื่อเร่งรัดคดีให้จบโดยเร็ว
วันนี้ (6 พ.ย. 67) ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าคดีบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ว่า ได้ส่งพนักงานสอบสวนกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ไปสอบกลุ่มผู้ต้องหา ภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดยเข้าไปสอบนายวรัตน์พล วรัทน์วรกุล หรือบอสพอล รวมถึงบอสคนอื่นๆ ประมาณ 4-5 ปาก ซึ่งกลุ่มผู้ต้องหาให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีอย่างมาก และในช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้ จะมีการประชุมกับคณะทำงานในเรื่องนี้ เพื่อเร่งดำเนินการเรื่องให้จบโดยเร็ว ซึ่งตั้งเป้าไว้ว่า จะทำให้แล้วเสร็จอย่างน้อย 2 เคส
สำหรับการสอบปากคำในวันนี้ เป็นกรณีที่บอสพอล เคยมอบหมายให้ทนายความส่วนตัวแจ้งความเอาผิดนักร้องเรียนหญิง กรณีเรียกรับเงิน และคดีแจ้งความเอาผิด นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ในความผิดฐานหมิ่นประมาท และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ จากกรณีพยานเท็จ
นอกจากนี้ ยังมีการสอบปากคำเพิ่มเติมกับบอสพอล ถึงกรณีที่ทนายดังเรียกรับเงินจำนวน 7.5 ล้านบาท โดยเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนจะมีการจับกุมเหล่าบอสดิไอคอน แต่ทางบอสพอลยังไม่ได้โอนเงินดังกล่าวไป
ส่วนกรณีที่มีการกล่าวอ้างว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบฯ เรียกรับเงินกับนายจิระวัฒน์ แสงภักดี หรือ โค้ชแล็ป ก็ได้มีการเข้าไปสอบโค้ชแล็ป และบอสพอลเพิ่ม โดยทั้งสองคน ยืนยันว่า ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปเรียกรับเงินแต่อย่างใด และยืนยันว่าไม่มีตำรวจคนใดกล้าออกนอกแถวอย่างแน่นอน
ขณะที่กรณีเส้นทางการเงินเชื่อมโยงแม่นักการเมือง ส. ก็มีการตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่า มีเงินไปถึงประมาณ 6-7 แสนบาท แต่ยอดเงินยังไม่นิ่ง โดยเงินดังกล่าวมีการอ้างว่า เป็นเงินทำบุญโอนให้แม่ ส. และหลังจากนั้นไม่เกิน 2-3 นาที ก็มีการโอนต่อไปให้นาย ส. แต่อย่างไรก็ตาม ต้องรอให้ยอดเงินนิ่งก่อน จึงจะเข้าไปสอบบอสพอลเพิ่ม และเรียกตัว ส. มาสอบในประเด็นนี้
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า นาย ส. มีผู้มีอิทธิพลคอยหนุนหลัง จะทำให้มีผลกับการดำเนินคดีหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ที่นี่มีแต่เรื่องของกฎหมาย และอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน หากพบว่าผิดก็ว่ากันไปตามข้อเท็จจริง
