ฝ่ายค้านเตรียมเอาผิดต่อหลังอภิปราย 6 รมต. เน้นปมจัดซื้อซิโนแวค ATK
“สุทิน” เผย ฝ่ายค้านเตรียมเอาผิดต่อหลังอภิปราย 6รัฐมนตรี เน้นปมจัดซื้อซิโนแวค – นายกฯใช้อำนาจแทรกแซงจัดซื้อATK จ่อยื่น กมธ.ป.ป.ช.ตรวจสอบปมแจกเงินในสภา
นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน และ ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย แถลงข่าวว่า หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมาขณะนี้ฝ่ายค้านและพรรคเพื่อไทยอยู่ในกระบวนการวิเคราะห์หาจุดอ่อนจุดแข็ง ของการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อที่จะหาข้อสรุปว่าจะนี้จะเดินหน้าต่ออย่างไรบ้าง โดยการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมานั้นเป็นไปด้วยความพอใจ ในผลการทำงานของพรรคฝ่ายค้านโดยวัดจากความพึงพอใจของประชาชนและวัดจากเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้ ซึ่งก็เป็นไปตามเป้าหมายทุกอย่าง แม้อาจจะมีข้อบกพร่องบ้างเล็กน้อย เกี่ยวกับเรื่องการวางน้ำหนักผู้อภิปรายแต่ก็ถือว่าไม่ใช่ปัญหา ส่วนประเด็นการลงคะแนนที่ออกมาก็เป็นเรื่องที่คาดหมายอยู่แล้ว ว่าไม่เคยมีรัฐบาลแพ้โหวตในสภา เพียงแต่ว่าครั้งนี้เป็นการชนะด้วยปัจจัยที่ไม่ชอบมาพากล
ขณะเดียวกันการชี้แจงของรัฐมนตรีหลายคนก็ถือว่ายังไม่เคลียร์ หรือสิ่งที่ไม่ตอบเพราะเจตนาจะไม่ตอบก็เยอะ หรือตอบแบบเลี่ยงบาลีก็เยอะ เช่นเรื่องส่วนต่างของการซื้อวัคซีน ซิโนแวค ก็ยังไม่มีอะไรชัดรัฐบาลที่บอกว่าจะให้หลักฐานการซื้อขาย มายืนยันก็ยังไม่มี เรื่องของ ATK วันนี้ก็ยังมีเงื่อนงำ โดยมี 3-4 เรื่อง แต่ยังไม่สรุป โดยจะเชิญผู้อภิปรายมาประชุมร่วมกันอีกครั้งหนึ่งในสัปดาห์หน้า เพื่อที่จะสรุปพยานหลักฐานอีกครั้ง โดยประเด็นที่จะยื่นดำเนินคดีต่อประกอบด้วย เรื่องการจัดซื้อวัคซีนซิโนแวค เรื่องที่นายกรัฐมนตรีใช้อำนาจไปแทรกแซงหรือล้มขบวนการจัดซื้อ ATK เรื่องการทุจริตยางพารา และเรื่องการทุจริตในกองทัพ เป็นต้น
นายสุทิน ยังกล่าวยังกล่าวถึง กรณีที่นายวิสาร เตชะธีรวัฒน์ ส.ส.เพื่อไทย อภิปรายในที่ประชุมว่ามีการแจกจ่ายเงินก้อนใหญ่ให้ ส.ส.เพื่อเป็นการจูงใจให้ลงคะแนนไว้วางใจ ซึ่งพบว่ามีหลักฐานที่พยายามตามดูหลายอย่าง โดยเชื่อมั่นว่าจะสามารถดำเนินการกับผู้กระทำผิดได้ เรื่องนี้จะรวบรวมหลักฐานยื่นต่อคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตสภาผู้แทนราษฎร (กมธ.ป.ป.ช.) ที่มีพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส เป็นประธานคณะกรรมาธิการ ยืนยันจะตามดูเรื่องนี้จนถึงที่สุด โดยข้อมูลในชั้นนี้ก็อาจจะยื่นถึงกรรมการจริยธรรมสภาผู้แทนฯได้ ส่วนเรื่องคดีต่างๆที่จะยื่นต่อหน่วยงานที่รับผิดชอบ ทั้ง ป.ป.ช. ศาลรัฐธรรมนูญ คาดว่าช่วงต้นเดือนตุลาคมจะสามารถยื่นให้ตรวจสอบได้
ส่วนการลงมติการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะถึงในวันที่10 ก.ย. นี้ นายสุทิน กล่าวว่า ตอนนี้ก็ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะออกไปทางไหน เพราะกลุ่มที่เป็นตัวชี้ขาดเองคือ ส.ว.ก็ยังเป็นที่ต้องแลกเปลี่ยนความเห็นกันอยู่ คาดว่าอาจจะถึงนาทีสุดท้ายจึงจะรู้ ในความรู้สึกของตนตอนนี้ยัง 50 : 50 อยู่ ออกได้ทั้ง 2 ทาง ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยไม่เคยวิตกว่าจะได้เปรียบเสียเปรียบ เพราะที่ผ่านมาการเลือกตั้งแม่ใช้ระบบใบเดียวก็ชนะมาอยู่แล้ว 2 ใบก็เคยชนะ เพียงแต่ว่าถ้าเป็นแบบ 2 ใบการเมืองจะเดินไปด้วยความราบรื่น ระบบก็จะเป็นที่น่าเชื่อถือของต่างชาติ และสื่อถึงเจตนาของประชาชนอย่างชัดเจน ให้ยอมรับผลการเลือกตั้งและยอมรับกระบวนการทางการเมืองมากกว่าเดิม ทำให้บ้านเมืองเดินหน้าสู่การแก้ปัญหาได้ง่ายขึ้น ดังนั้นย้ำว่าการเลือกตั้งจะดูที่ผลแพ้ชนะอย่างไร และจะเป็นระบบไหนพรรคเพื่อไทยก็พร้อมเสมอ
