POLITICS

อนุดิษฐ์ ยื่นหนังสือต่อประธานสภา ปมแก้ทีโออาร์ 3 โครงการใหญ่ มั่นใจหลักฐาน

หลังอภิปรายปมกองทัพอากาศแก้ทีโออาร์ 3 โปรเจ็กต์ งบฯเฉียด 3 พันล้านบาท นายอนุดิษฐ์ นาครทรรพ ยื่นหนังสือถึงประธานสภาระบุไม่ใช่ข้อกล่าวหา แต่พบการกระทำผิดแล้ว มั่นใจพยาน-หลักฐานมัดแน่น

วันที่ 8 ก.ย.2564 เวลา 13:00 น. ที่สภาผู้แทนราษฎร น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้เข้ายื่นหนังสือต่อ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้พิจารณาคำร้องกรณีกล่าวหาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมาย ทั้งนี้เพื่อให้พิจารณาส่งคำร้องดังกล่าวไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ไต่สวน และดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ หรือตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (พ.ร.ป.ป.ป.ช.) ตามอำนาจหน้าที่ต่อไป โดยเป็นประเด็นเกี่ยวกับการจัดหายุทโธปกรณ์ของกองทัพอากาศ 3 โครงการ มูลค่าเกือบ 3 พันล้านบาท ที่เข้าข่ายการดำเนินการที่ขัดต่อระเบียบ และกฎหมายตามที่นายอนุดิษฐ์ได้อภิปรายไว้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีรายบุคคล เมื่อวันที่ 2 ก.ย.64 ที่ผ่านมา

ภายหลังยื่นหนังสือ น.อ.อนุดิษฐ์ เปิดเผยว่า ได้กราบเรียนประธานสภาฯว่า เรื่องที่อภิปรายไม่ใช่การกล่าวหา แต่มีข้อเท็จจริง พร้อมเอกสาร และคำให้การของผู้เกี่ยวข้องในชั้นคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร อย่างครบถ้วน จึงได้รีบนำเรียนประธานสภาฯเพื่อให้ดำเนินการต่อไป โดยเป็นพฤติการณ์เปลี่ยนแปลงโครงการที่ได้ของบประมาณ และอนุมัติจากสภาฯ ซึ่งส่อขัดต่อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยแก้ไขเปลี่ยนแปลงขอบเขตความต้องการโครงการ (SOPR) และขอบเขตของงานหรือรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุที่จะซื้อหรืองานที่จะจ้าง (TOR) อ้างเพียงว่าทำตามคำสั่งการของผู้บังคับบัญชา โดยที่ไม่ปรึกษาหรือขออนุมัติกับทางกรมบัญชีกลาง แต่อย่างใด โดย 3 โครงการ ได้แก่ โครงการพัฒนาและปรับปรุงระบบป้องการทางอากาศ ระยะที่ 7 ( N-SOC C2) โครงการพัฒนาการป้องกันฐานที่ตั้งทางทหารของกองทัพอากาศ (GBAD) และโครงการจัดหาทดแทนวิทยุพื้นดิน-อากาศ มูลค่ารวมเกือบ 3,000 ล้านบาท

“ยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ข้อกล่าวหา แต่เป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นแล้ว ส่วนใครจะผิดใครจะถูก มีใครสมรู้ร่วมคิดบ้าง โดยเฉพาะการแอบอ้างฝ่าย เสธ.ของ ผบ.ทอ.ที่อยู่นอกกองทัพอากาศว่า เป็นผู้เข้ามาสั่งการ คงต้องติดตามกระบวนการไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อทำความจริงให้ปรากฏ และหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษต่อไป”

ผู้สื่อข่าวถามถึงความมั่นใจในการนำผู้กระทำความผิดมาลงโทษได้ น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า กระบวนการตรวจสอบของ ส.ส. เป็นต้นน้ำของการตรวจสอบการทำงานของฝ่ายบริหาร คงไม่สามารถชี้ได้ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร แต่มั่นใจในหลักฐานทุกชิ้น ทั้งเอกสารกองทัพอากาศที่เชื่อมโยงให้เห็นความผิดปกติ และความผิดของใครบางคนชัดเจน ตลอดจนการเชิญผู้เกี่ยวข้องมาชี้แจงใน กมธ.ป.ป.ช. มีพยานที่ให้การเป็นลายลักษณ์อักษร และมีเทปบันทึกเสียงของพยานที่ถูกข่มขู่จากผู้บังคับบัญชาระดับสูงด้วย เชื่อว่า การทำงานของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ที่จะต่อยอดจากคำร้องของตนนั้น น่าจะทำความจริงให้ปรากฎได้ไม่ยาก ซึ่งตนเองคงไม่ขอก้าวล่วงการทำงานของ คณะกรรมการ ป.ป.ช.. แต่พร้อมที่จะไปให้การ และส่งเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนการทำงานของ ป.ป.ช.อย่างเต็มที่

น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวด้วยว่า ความไม่ชอบมาพากลในกระทรวงกลาโหม โดยเฉพาะในกองทัพอากาศยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ตนเองกำลังตรวจสอบความผิดปกติในการใช้งบประมาณในปี 64 อยู่อีกหลายโครงการ ซึ่งมั่นใจว่า กมธ.ป.ป.ช. สภาผู้แทนราษฎร จะสามารถหาผู้กระทำผิด และส่งรายละเอียดให้คณะกรรมการ ป.ป.ช..ดำเนินการตรวจสอบต่อไปได้อย่างแน่นอน เหมือนกับการตรวจสอบ 3 โครงการที่นำรายละเอียดมายื่นให้ประธานสภาฯในวันนี้

Related Posts

Send this to a friend