‘จุรินทร์’ ลั่นประชาธิปัตย์พร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง
‘จุรินทร์’ ควง ‘ชนินทร์’ ว่าที่ผู้สมัครบางกอกน้อย ลงพื้นที่เยี่ยมศูนย์ฝึกอาชีพ ลั่นประชาธิปัตย์พร้อมสู้ศึกเลือกตั้งหลังชัดเจนแล้ว พล.อ.ประยุทธ์เปิดตัว ‘รวมไทยสร้างชาติ’ 9 ม.ค.นี้ บอกตอบแทนไม่ได้จะกลับมาเป็น นายกฯ อีกหรือไม่
วันนี้ (7 ม.ค. 66) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่ศูนย์ฝึกอาชีพ กรุงเทพมหานครวัดสุทธาวาส พร้อมกับ นายชนินทร์ รุ่งแสง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตบางกอกน้อย ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งศูนย์และเป็นผู้จัดหางบประมาณ สมัยดำรงตำแหน่งเป็นสมาชิกกรุงเทพมหานคร เมื่อปี 2546 ซึ่งพรรคจะนำมาเป็นต้นแบบในการจัดทำนโยบายสร้างอาชีพในพื้นที่อื่นๆ ซึ่งศูนย์นี้ สามารถสร้างอาชีพให้คนกว่า 4,000 คนต่อปี และที่จะต้องเพิ่มเติมคือเรื่องของการตลาด โดยจะประสานให้กระทรวงพาณิชย์ เข้ามาช่วยสอนการทำตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ โดยใช้หลักการการตลาดนำการผลิต รวมถึงอัตลักษณ์ Soft Power ส่งเสริม ดึงดูดนักท่องเที่ยว เป็นแหล่งขายสินค้าคุณภาพท้องถิ่น
ขณะที่การวางตัวผู้สมัคร ส.ส.กทม. ขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์วางตัวครบแล้ว 30 เขตยังเหลืออีก 3 เขต ซึ่งต้องรอ กกต.แบ่งเขตก่อน แต่พรรคมีตัวผู้สมัครแล้ว ซึ่งนโยบายแต่ละเขต หรือภาพรวม กทม. นายองอาจคล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะกำกับดูแลกรุงเทพมหานคร จะเปิดเมื่อถึงเวลา
นายจุรินทร์ ยังกล่าวถึง พลเอกประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่เตรียมเปิดตัวกับพรรครวมไทยสร้างชาติ และเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ในวันจันทร์ที่ 9 มกราคม 2566 นี้ ซึ่งชัดเจนว่า ถ้ายุบสภาฯ ส.ส.จะต้อง ลาออกภายในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์มีการเตรียมความพร้อมไว้เรียบร้อยแล้ว ทั้งในเรื่องตัวผู้สมัครนโยบายหาเสียง โดยเมื่อวานนี้มีการประชุมภาคอีสาน ได้ตัวผู้สมัครอีก 90 เขต โดยจะเปิด เป็นล็อตใหญ่ เช่นเดียวกับภาคเหนือ
ทั้งนี้ การที่พลเอกประยุทธ์ เล่นการเมืองเต็มตัว และจะเป็นผู้นำการหาเสียงและปราศรัย ของพรรครวมไทยสร้างชาติเอง จะทำให้ได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า ตนตอบไม่ได้ ว่าพลเอกประยุทธ์จะได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ เนื่องจากไกลเกินกว่าที่ตนจะวิเคราะห์ได้ แต่การสังกัดพรรคการเมืองชัดเจนสถานภาพก็เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่ตนเคยพูดต่อไปนี้เป็นสมาชิกพรรคการเมือง พรรคร่วมรัฐบาล ที่เป็นแกนนำพรรคในปัจจุบันถือว่าเป็นคนละพรรค แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นศัตรู หรือเป็นปัญหาในการทำงานร่วมกันของรัฐบาล
อันนั้นต้องเดินหน้าต่อไป เพราะเป็นไปตามกลไกระบบรัฐสภา แต่ก็ต้องถือว่า พลเอกประยุทธ์มีพรรคสังกัด จะเป็นอย่างไรตนตอบแทนไม่ได้ทั้งหมดแต่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชนว่าจะเลือกพรรคใด
ส่วนที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ประกาศชัด ว่าหลังเลือกตั้งทั่วฝ่ายค้านเดิม คือคำตอบพร้อมประชาชนในการที่จะเป็นรัฐบาล ปิดประตูตาย การพรรคร่วมรัฐบาล ที่อาจจะไปจับมือตั้งรัฐบาล นายจุรินทร์ ระบุว่า เป็นเรื่องของพรรคก้าวไกล ตนไม่ก้าวก่ายหรือวิจารณ์
ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลเดิม ตนก็ตอบแทนไม่ได้ แต่สำหรับพรรคประชาธิปัตย์เคยตอบจุดยืน ว่าต้องให้ประชาชนเป็นผู้ให้คำตอบ และประชาชนคือคนแรก ที่จะให้คำตอบว่าหน้าตาของรัฐบาลชุดใหม่ จะเป็นอย่างไรใครเป็นฝ่ายค้านใครเป็นรัฐบาล
