‘สุชาติ’ โว ‘รวมไทยสร้างชาติ’ ได้ปาร์ตี้ลิสต์ 6 ล้านเสียงคว้า 15 ที่นั่ง

‘สุชาติ’ โว ‘รวมไทยสร้างชาติ’ ได้ปาร์ตี้ลิสต์ 6 ล้านเสียงคว้า 15 ที่นั่ง ไม่หวั่นศึกชนช้าง บ้านใหญ่สมุทรปราการ เชื่อมือ ‘ไพลิน’ เอาอยู่ ประเมินพื้นที่ชลบุรีจากคู่แข่งไม่น่าหนักใจ ชูท่าหูกระต่ายแทนเบอร์พรรค

วันนี้ (4 เม.ย. 66) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวภายหลังเห็นรายชื่อ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งนายสุชาติอยู่ในลำดับที่ 5 ว่า ตนเพิ่งทราบจากนายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา ความจริงเป้าหมายของตนเองคือการดูภาพรวมในแต่ละพื้นที่ ประมาณ 104 เขตในภาคกลาง ไม่ได้ดูแลแค่เพียงเขตเดียว หากดูเพียงแค่เขตเดียวคงลงผู้แทนเขตไปแล้ว ต้องดูในภาพรวมเพื่อทำคะแนนให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค และทำคะแนนให้พรรคได้เยอะๆ ต้องไปดูแลพื้นที่หลายจังหวัด จึงจำเป็นต้องขึ้นมาอยู่ในบัญชีรายชื่อ

นายสุชาติ​ ยืนยันว่า​ไม่​​ได้มีการตกลงลำดับปาร์ตี้ลิสต์กันมาก่อน ทุกอย่างเป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรค ตนเองไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรคด้วย และที่เข้ามาทำงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติเพราะตั้งใจมาช่วย พลเอกประยุทธ์ โดยตรง แม้หลายคนจะบอกว่าข้างหน้าเป็นเหวแต่ก็ต้องมา พร้อมมองว่าทางข้างหน้าจะค่อยค่อยสว่างเอง ที่มองเป็นเหวลึกก็จะค่อยๆ ตื้นขึ้นเอง ทุกวันนี้สื่อก็เห็นว่าการเมืองมีสองข้าง สุดท้ายคนที่ปรามาส พลเอกประยุทธ์ ว่ามี ส.ส.ไม่ถึง 20 คน วันนี้ทุกคนขึ้นเวทีก็พูดถึง พลเอกประยุทธ์ หากมองว่าได้ ส.ส.ไม่ถึง 20 คน จะพูดถึงพลเอกประยุทธ์ บนเวทีกันทำไม นี่เป็นตรรกะทางการเมือง

นายสุชาติยังระบุอีกด้วยว่าการขึ้นเวทีปราศรัยขอให้สร้างสรรค์กันดีกว่า อย่าไปพูดถึงเรื่อง 8 ปีที่ผ่านมา และเรื่องเศรษฐกิจไม่ดี ตนคิดว่าคนรุ่นใหม่ดูข่าวได้จากทั่วโลก จะพูดโดยตรรกะของนักการเมืองก็ต้องมีองค์ความรู้บ้าง หากพูดโดยไม่มีองค์ความรู้ ไปด้อยค่าคนอื่นก็จะเป็นการเมืองน้ำเน่า น่าเบื่อ จะทำอย่างไรให้การเมืองเป็นสิ่งที่คนรุ่นใหม่อยากเข้ามาทำเพื่อประเทศชาติ นักการเมืองต้องพูดความจริง การสื่อสารบนเวทีก็ต้องพูดว่าจะเข้ามาทำอะไรไม่ใช่ พูดว่าคนนั้นคนนี้ไม่ดี ต้องพูดว่าตัวเองดีอย่างไรเขาถึงจะเลือก ไม่ใช่พูดโดยด้อยค่าคนอื่นเป็นตรรกะการเมืองที่ไม่ดี ไม่ควรเกิดขึ้น

นายสุชาติ​ยังกล่าวถึงการเมืองในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ หลังนายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม อดีตนายก อบจ.สมุทรปราการ เสียชีวิต โดยยอมรับว่าเสียใจกับเรื่องดังกล่าว ซึ่งในส่วนของตนเองก็มีแค่พื้นที่ของนางสาวไพลิน เทียนสุวรรณ ที่ต้องรักษาพื้นที่เอาไว้ ในส่วนครอบครัวอัศวเหม ตนเองก็มีความเคารพกันอยู่แล้ว และไม่ได้คิดจะเข้าไปยุ่ง แค่รักษาพื้นที่ของคนที่ร่วมเดินทางมาด้วยกันให้ได้มากกว่า

นายสุชาติยังมองว่าการเมืองครั้งนี้เหมือนกับการเมืองปี 2554 ที่มีบัตรสองใบ ประชาชนมีสิทธิ์เลือกสองทาง คือเลือกพรรคที่ชอบ คนที่ใช่ โฟกัสไปที่ตัวบุคคลเป็นประเด็นแรก ประเด็นที่สองคือนโยบายพรรคที่จับต้องได้ไม่ใช่นโยบายขายฝัน

สำหรับสมุทรปราการที่เป็นเขตช้างชนช้าง ก็มั่นใจว่ามีแฟนคลับในกลุ่มโรงงานจำนวนมาก คิดว่าสิ่งที่ทำมาทั้งหมดน่าจะทำให้ประชาชนจับต้องได้ หากไม่ทำประโยชน์ให้ประเทศชาติเลยเขาก็คงไม่เลือก ซึ่งตนก็ต้องลงไปช่วยในพื้นที่ จะต้องรักษาพื้นที่เดิมไว้

ส่วนกรณีดราม่าป้ายหาเสียงในพื้นที่จังหวัดชลบุรีนายสุชาติระบุว่าเป็นเรื่องนิดเดียว จริงๆ ได้มีการทำเรื่องขอโทษไปทางโซเชียลมีเดียแล้ว ข้อเท็จจริงคือเป็นความผิดพลาดของแอดมิน ซึ่งมีการเผยแพร่ไปประมาณ 20 นาทีและมีการแก้ไข มองว่าเป็นประเด็นที่ไม่ได้มีผลในการแพ้ชนะ เป็นความผิดพลาดและมีการขอโทษแล้วมองว่าควรเปิดใจให้กว้างและมองว่าประชาชนได้ประโยชน์อะไรมากกว่า

ส่วนการแข่งขันในพื้นที่ชลบุรี นายสุชาติระบุว่าเมื่อประเมินดูตัวผู้สมัครแล้วไม่ใช่เรื่องหนักใจอะไร เชื่อว่าประชาชนรู้ว่าจะเลือกพึ่งใคร พร้อมถามกลับว่าทีมเฮ้งได้หรือไม่ หากพึ่งได้ก็ขอให้ช่วยกัน ส่วนคำว่าบ้านใหม่ตนเองมองว่าไม่มีแล้ว ต้องเป็นบ้านที่ประชาชนจับต้องได้และพึ่งได้มากกว่า มองว่าการมีคนเสนอตัวมาช่วยประชาชนแบบสูสีกัน จะทำให้ประชาชนมีโอกาส มีทางเลือกในการตัดสินใจได้มากกว่า ไม่ใช่แบบเดิมๆ ในอดีต โดยเปรียบเทียบกับการกินไอศครีม ที่เคยกินรสนี้แล้วอร่อยแต่วันนี้มีคนแนะนำรสใหม่ ก็อาจจะถูกใจเปลี่ยนใจไปกินรสใหม่

ส่วนตั้งเป้าว่าจะได้ ส.ส. เท่าไหร่ นายสุชาติระบุว่าตนเป็นคนที่เก่งคณิตศาสตร์ คำนวณ จากปี 2562 ที่พลเอกประยุทธ์เคยอยู่พรรคการเมืองหนึ่งได้คะแนนมา 8 ล้านเสียง วันนี้คะแนนอาจหายไปบ้างเพราะมีการแตกไปหลายพรรคก็น่าจะอยู่ที่ 6 ล้านเสียงอาจได้ซัก 15 คน ซึ่งประเมินตามสถิติที่เป็นไปได้ หากถามว่าทำไมไม่มองว่าพลเอกประยุทธ์จะได้คะแนนมากกว่าเดิม ก็ต้องคำนึงด้วยว่ามีพรรคการเมืองมากกว่าเดิมประชาชนมีตัวเลือกมากขึ้น

ท้ายนายสุชาติได้ทำท่า ชู 2 นิ้วแนบข้างศีรษะ บอกไม่ใช่หมายเลขพรรคเบอร์ 22 แต่เป็นหูกระต่าย เข้ากับปีกระต่าย