‘เศรษฐา‘ ยัน ให้ความสำคัญแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 กำชับให้มีฝุ่นลดลงช่วงไฮซีซั่นปีนี้
‘เศรษฐา‘ ยืนยันรัฐบาลให้ความสำคัญแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 กำชับให้มีฝุ่นลดลงช่วงไฮซีซั่นปีนี้ คุยลาว-เมียนมา คาดโทษหากมีเผาจะมีมาตรการภาษี จ่อลงพื้นที่เชียงใหม่อีกรอบ หวังปีนี้ฝุ่นลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ
วันนี้ (4 ม.ค. 67) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อภิปรายต่อสภาผู้แทนราษฎร ในวาระการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 เป็นวันที่สอง ระบุว่า ในช่วงเช้าที่มีสมาชิกได้พูดถึงเรื่องอากาศสะอาดหรือฝุ่น PM2.5 ซึ่งทุกคนทราบดีว่า ในอีกประมาณ 1-2 เดือนข้างหน้านี้ จะเข้าสู่ช่วงฤดูการท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) เป็นช่วงที่ต้องเฝ้าระวังอย่างมาก
นายเศรษฐา กล่าวยืนยันว่ารัฐบาลนี้มีความตั้งใจยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในทุกมิติ ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ สิทธิเสรีภาพในการเลือก หรือสิ่งพื้นฐาน เช่น อากาศบริสุทธิ์ ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่พวกเราทุกคนพึงได้ และเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องนำส่งสิ่งเหล่านี้ให้ประชาชนทุกคน
เรื่องฝุ่น PM2.5 เป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง ตนเองลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ 4-5 รอบแล้ว ครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ลงไปพูดคุยถึงแผนงานภาพรวม ว่าใครต้องทำหน้าที่อย่างไร มีเรื่องต้องทำเยอะมาก และเป็นเรื่องที่ต้องให้ความรู้กับประชาชน ทั้งเรื่องการทำการเกษตรต้องไม่มีการเผา
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าทราบดีอยู่แล้วว่าเรื่องฝุ่น PM2.5 เกิดจากเรื่องเศรษฐกิจปากท้อง การที่ปลูกพืชผล เช่น ข้าว หรือข้าวโพด เมื่อปลูกเสร็จแล้วจะต้องทำลายตอข้าวหรือซังข้าวโพด หากมีการไถกลบค่าใช้จ่ายสูง แต่ไม้ขีดก้านเดียวก็สามารถทำงานได้ ซึ่งเราไม่อยากให้ทำแบบนั้น
รัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ได้ให้องค์ความรู้และจัดตั้งหน่วยงานที่รับซื้อซังข้าวโพด เพื่อทำพลังงานทดแทนหรือปุ๋ย หรือเรื่องเผาอ้อยในฤดูที่ผ่านมา มีน้อยกว่าที่คิดไว้ เพราะกระทรวงอุตสาหกรรม ได้มีการกำชับเรื่องนี้โดยละเอียดถี่ถ้วน
ส่วนเรื่อง พ.ร.บ.บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาดนั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นนิติบัญญัติ และรัฐบาลพร้อมจะเสนอเข้าสภาฯ คาดว่าในวันที่ 11 มกราคมนี้ ส่วนเรื่องการใช้งบประมาณก็ได้ดูอยู่ ถือเป็นเรื่องที่สำคัญอรัฐบาลมีงบประมาณบางส่วนที่เตรียมไว้สำหรับภัยพิบัติ จะสามารถนำมาใช้ได้ตามความต้องการของเหตุการณ์ในวันนั้น
ส่วนเรื่องการเจรจากับเพื่อนบ้าน ที่มีเอกชนไปทำการปลูกข้าวโพด ทั้งในประเทศลาวและเมียนมา นายเศรษฐา ระบุว่า เราได้มีการพูดคุยและคาดโทษ ว่าถ้ามีการเผาเกิดขึ้นจากข้าวโพดที่ได้เก็บเกี่ยวไปแล้ว จะมีมาตรการภาษีมารองรับในการนำข้าวโพดเหล่านั้นมาขายในประเทศไทย เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่พูดคุยกันอยู่ และให้ความสำคัญ
นายเศรษฐา ยังกล่าวถึง นโยบายหลักของรัฐบาลที่เกี่ยวข้องด้วย คือการสนับสนุนให้ประชาชนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) นั้น รัฐบาลมีมาตรการสนับสนุนที่ชัดเจน เป็นเรื่องที่ตระหนักดีและเป็นเรื่องน่ายินดีว่ามีการมาตั้งโรงงานรถไฟฟ้าในประเทศไทย เพื่อเป็นฐานผลิตออกไปทั่วโลก เป็นเรื่องที่รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญมาโดยตลอด
และในสัปดาห์หน้านี้ วันที่ 10-12 มกราคม นายเศรษฐาเปิดเผยว่าจะเดินทางลงไป จ.เชียงใหม่ อีกครั้ง เพื่อไปกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า เรื่อง PM2.5 เป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญ ต้องมีการพูดคุยและหาทางป้องกัน เพื่อให้ช่วงไฮซีซั่นมีหมอกควันที่ลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ และยืนยันอีกครั้งว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
