POLITICS

‘สมศักดิ์’ คิกออฟปล่อยขบวนผู้ต้องขังลอกท่อ 11 จุดทั่ว กทม. ขอบคุณ ‘ชัชชาติ’ เข้าใจบริบทเมือง

‘สมศักดิ์’ คิกออฟปล่อยขบวนผู้ต้องขังลอกท่อ 11 จุดทั่ว กทม.เน้นเรื่องความสะอาด-สุขอนามัย ขอทุกคนตั้งใจทำงานช่วยสังคม ขอบคุณ ‘ชัชชาติ’ เข้าใจบริบทเมือง เชื่อทุกคนได้ประโยชน์สูงสุด

วันนี้ (1 ก.ค. 65) ที่เรือนจำกลางคลองเปรม มีการจัดพิธีปล่อยแถวผู้ต้องขังออกทำงานล้างท่อระบายน้ำในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยมี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาน พร้อมด้วย นางพงษ์สวาท กายอรุณสุทธิ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงยุติธรรม นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ผู้บริหารและข้าราชการ ร่วมงาน

นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์เริ่มดำเนินการล้างท่อระบายน้ำ มาตั้งแต่ พ.ศ.2523 กรมราชทัณฑ์มุ่งมั่นพัฒนาพฤตินิสัย สร้างการยอมรับและได้รับการชื่นชมจากสังคม แต่ต้องหยุดไปเนื่องจากสถานการณ์โควิด -19 เมื่อสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ลดลง จึงได้นำผู้ต้องขังออกมาทำงาน โดยเน้นหลักความปลอดภัย และหลักสิทธิมนุษยชน วันนี้ราชทัณฑ์พร้อมและทำความร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร สร้างการรับรู้เชิงบวกให้กับนักโทษ ให้กลับมาใช้ชีวิตหลังพ้นโทษ โดยกรมราชทัณฑ์จะพัฒนารูปแบบให้เหมาะกับสังคมมากขึ้น และทำให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ต้องขอบคุณ กทม.และขอบคุณสังคมที่ให้โอกาส ในการคืนคนดีสู่สังคม

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนมีความยินดีที่ได้มาเป็นประธานในการปล่อยแถวผู้ต้องขังออกทำงานสาธารณะ ซึ่งงานดังกล่าว พวกเราทำต่อเนื่องมากว่า 40 ปี แต่ในระยะ 2-3 ปี หลังไม่สามารถดำเนินงานได้ เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 แต่เวลานี้โอกาสกลับมาหาพวกท่านอีกครั้ง แม้งานลอกท่อ จะเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากทำ แต่ขอให้ทุกคนนั้นภูมิในว่าเวลานี้เราคือส่วนหนึ่งที่ช่วยสังคม และต้องขอขอบคุณ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่เข้าใจและรับฟังความคิดเห็นของผู้คน โดยเฉพาะงานของราชทัณฑ์ที่ผ่านมาถือว่าดีเยี่ยม และเสียงจากประชาชนทำให้เกิดความมั่นใจจากผู้ว่าจ้าง หากเราได้คนที่เข้าใจบริบทของสังคม บ้านเมืองจะได้ประโยชน์สูงสุด

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า การลอกท่อ ราชการได้หลายอย่าง ทั้งผลงาน ที่ราชทัณฑ์จะได้มีงบประมาณจากการรับจ้างจาก กทม.มาดำเนินการ การช่วยผู้ต้องขังที่ใกล้พ้นโทษได้มีโอกาสเตรียมพร้อมกลับสู่โลกภายนอกในอนาคต วันนี้พี่น้องประชาชนยอมรับในฝีมือของเรา ดังนั้นเราต้องรักษาคุณภาพของงานเป็นเรื่องสำคัญ เราทำดีอยู่แล้ว ต้องรักษาเอาไว้ ทำให้ดีที่สุด โดยเฉพาะความสะอาด อย่าทำให้ถนนรอบข้างสกปรก การขนส่งต้องทำให้ดีที่สุด อยากให้ส่วนที่กำกับดูแลให้ดี ไม่เช่นนั้นคะแนนเราจะติดลบ เราต้องใส่ใจ เป็นผู้รับผิดชอบกับสังคมอีกส่วนหนึ่ง ผู้ต้องขังต้องนึกถึงคนข้างหลังด้วย เมื่อท่านพ้นโทษยังมีชุดใหม่ๆ ที่รอทำงาน หากชุดแรกๆ ทำติดลบ ผู้ที่ทำงานตามมาจะถูกวิพากษ์วิจารณ์

“กทม. ล้างท่อปีละ 3,500 กิโลเมตร ต้องไม่มีคำว่าผิดพลาด อย่าให้โคลน ดิน เลน หกเรี่ยราด ต้องทำให้ดีกว่าเอกชน เพราะเราเป็นหน่วยงานที่ต้องรับผิดชอบต่อสังคม ส่วนด้านสิทธิมนุษยชนต้องปฏิบัติเคร่งครัด ชุด อุปกรณ์ต้องครบ อย่าให้สังคมวิจารณ์ ผมมั่นใจงานที่เราทำมาตลอดหลายปี ขอให้เริ่มต้นด้วยดี ใช้ความสามารถ คุณภาพ เราแสดงให้เห็นแล้วในช่วงทดลองงาน ขอบคุณ กรมราชทัณฑ์ และผู้ปฏิบัติงานทั้งหลาย ที่ตั้งใจ เข้าใจ ทำให้งานยาวต่อเนื่องไปเรื่อยๆ มั่นใจตลอด 4 ปี เราจะได้ทำงานตรงนี้ แม้งบประมาณช่วงนี้จะน้อย แต่ขอให้เราตั้งใจ ไม่ต้องกลัวขาดทุน ทำให้พี่น้อง กทม.มีความสุข ช่วยกันแก้ปัญหา ผมไม่เคยคิดว่า พวกท่านคือปัญหาของสังคม ผมเชื่อว่าทุกคนสามารถปรับปรุงตัวให้ดีได้และหวังว่าเมื่อพ้นโทษทุกท่านจะนำรายได้ที่ได้รับจากการทำงานสาธารณะไปเป็นทุนในการดำรงชีวิต และไม่หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำ” นายสมศักดิ์ กล่าว

จากนั้นนายสมศักดิ์ ได้มอบชุดปฐมพยาบาลและปล่อยแถวรถจาก 11 เรือนจำ/ทัณฑสถาน รวมผู้ต้องขังกว่า 300 คน เพื่อลงพื้นที่ขุดลอกท่อ 11 จุดทั่ว กทม.

จากนั้นเวลา 10.30 น. นายสมศักดิ์ ได้ลงพื้นที่ ถนนทหาร เขตสามเสน เพื่อตรวจเยี่ยมการขุดลอกท่อของผู้ต้องขัง และได้พูดคุยให้กำลังใจ รวมทั้งแจกอาหารกลางวันและน้ำดื่มให้กับผู้ต้องขัง โดยนายสมศักดิ์ ได้ลองกินข้าวที่มาแจกผู้ต้องขังด้วย ซึ่งนายสมศักดิ์ ยืนยันว่าอร่อย สะอาด ถูกหลักอนามัย

สำหรับผู้ต้องขังที่ออกมาใช้แรงงานนั้น จะเป็นนักโทษชั้นเยี่ยมและชั้นดีมาก มีความประพฤติดี โทษเหลือน้อย ซึ่งผู้ต้องขังคดีร้ายแรงจะไม่ได้รับสิทธิ โดยผู้ต้องขังจะได้ค่าแรงจาก 70% ของกำไรในการรับเหมา ซึ่งจะตกวันละ 331 บาทต่อคน ส่วนมาตรการป้องกันโควิดนั้น จะมีตรวจ ATK 3-5 วัน และแยกขังผู้ที่ออกมาลอกท่อไม่ปะปนกับผู้ต้องขังอื่น

Related Posts

Send this to a friend