POLITICS

‘ชัยธวัช’ นำทีมพรรคร่วมฝ่ายค้านเปิดเวทีแลกเปลี่ยนรับฟังความเห็นที่เชียงใหม่ ประเด็นฝุ่นพิษ PM2.5

วันนี้ (1 มี.ค. 67) ที่อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร โครงการผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรพบประชาชน ครั้งที่ 1 ในวันศุกร์ที่ 1 มีนาคม 2567 เวลา 08.00-15.00 น. ณ ห้องดวงตะวันแกรนด์บอลรูม โรงแรมดวงตะวัน เชียงใหม่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากนักวิชาการ นักศึกษาและประชาชนทั่วไป เกี่ยวกับปัญหาอันเนื่องมาจากฝุ่น PM2.5 และมลพิษทางอากาศ ซึ่งจะนำไปสู่การผลักดันการแก้ไขทั้งในด้านนโยบาย ด้านกฎหมาย และการดำเนินการตามกระบวนการนิติบัญญัติต่อไป

นายชัยธวัช กล่าวปาฐกถาพิเศษเปิดงานเสวนาหัวข้อแนวทางและเครื่องมือสำหรับการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 และมลพิษทางอากาศ โดยเปิดเผยถึงเหตุผลที่เลือกจังหวัดเชียงใหม่เป็นที่แรก เนื่องจากมองว่าเป็นจังหวัดที่มีปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่เป็นสถานการณ์เร่งด่วนและสำคัญทั้งประเทศ ต้องเร่งหารือ ซึ่งก่อนหน้านี้สถานการณ์หนักในพื้นที่กรุงเทพมหานคร แต่ตอนนี้ปัญหาขยับมาที่ภาคเหนือ พรรคร่วมฝ่ายค้านจึงมองว่า แม้เราจะไม่ใช่ฝ่ายบริหาร แต่ในฐานะผู้แทนราษฎร อยากมาฟังผู้ปฏิบัติงาน และประชาชนในพื้นที่ว่ามองเห็นสถานการณ์อย่างไร และมีความคิดเห็นอย่างไร ต่อมาตรการการแก้ไขปัญหา PM 2.5 โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ ที่รัฐบาลยกให้เป็น “เชียงใหม่โมเดล” และอยากรู้ว่าสถานการณ์ในพื้นที่จริงเป็นอย่างไร

การแก้ไขปัญหามีอุปสรรค หรือความท้าทาย และข้อจำกัดอย่างไรบ้าง เพื่อให้ฝ่ายค้านสามารถช่วยผลักดันได้อย่างสุดความสามารถ พร้อมย้ำว่า คนไทยสูดฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐานมาประมาณ 20 ปีแล้ว ไม่ใช่เพิ่งเคยเกิด เพียงแต่รัฐบาลไทยเพิ่งเริ่มประกาศให้ปัญหา PM 2.5 เป็นวาระแห่งชาติในปี 2562 ทั้งยังสร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล โดยต้นทุนทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุด คือต้นทุนด้านสุขภาพ ซึ่งอยู่ในภาวะที่น่ากังวลมากพอสมควร เพราะมีจำนวนผู้เสียชีวิตจากปัญหานี้เพิ่มมากขึ้นทุกปี

นายชัยธวัช ไล่เรียงสถานการณ์สภาพอากาศในจังหวัดเชียงใหม่ และในจังหวัดทางภาคเหนือที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และกำลังลุกลามไปถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงเปรียบเทียบจำนวนจุดความร้อนในประเทศไทย และประเทศในอาเซียน ที่มีจุดเริ่มต้นมาจากการเผาป่า และเผาพื้นที่ทางการเกษตร ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ยังมีเรื่องฝุ่นควันหรือฝุ่นพิษข้ามแดนที่ยังเป็นเรื่องใหญ่อยู่ หากยังไม่มีมาตรการ นโยบาย หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องมาจัดการ จะไม่สามารถแก้ได้

ด้านปัญหา และความท้าทาย ในการแก้ไขปัญหา PM 2.5 นายชัยธวัช มองว่า ระบบราชการรวมศูนย์มีปัญหาแน่ ๆ ไม่ว่ารัฐบาลใหม่หรือเก่า ก็ยังเป็นการจัดการที่ให้รัฐบาลกลางคุมงบ รัฐมนตรีคุมบอร์ด ผู้ว่าคุมท้องถิ่น ทำให้ผู้ปฏิบัติงานขาดแคลน ปัญหาของระบบนี้ ทำให้อำนาจและงบประมาณกระจุก ไม่กระจาย ท้องถิ่นขาดเงิน จัดสรรงบไม่มีประสิทธิภาพ ไม่ตรงเป้า ทั้งยังมีกฎระเบียบเป็นอุปสรรค การบริหารรวมศูนย์แต่แยกส่วนการบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการไม่เป็นจริง แต่ละกรม ต่างคน ต่างทำ ไม่มีแผนจากล่างขึ้นบน

นายชัยธวัช กล่าวทิ้งท้ายว่า การแก้ปัญหาเรื่องนี้ต้องอย่ามองประชาชนเป็นผู้ร้าย อย่ามองประชาชนเป็นปัญหา แล้วโยนภาระให้ชาวบ้าน แต่ต้องสร้างกระบวนการการมีส่วนร่วมของคนในพื้นที่อย่างแท้จริง สอดคล้องกับพฤติกรรมของประชาชน และต้องให้ความสำคัญกับการสร้างแรงจูงใจ และทางเลือกใหม่ทางเศรษฐกิจ

Related Posts

Send this to a friend