“สดุดีหัวใจคุณครู” เดินทางไกล เสี่ยงอันตรายเพื่อนำโอกาสไปมอบให้
เราคิดแต่ว่าจะไปต่อ … ไปให้ถึงที่สุด จะไม่มีทางพลาดเด็กคนไหนไปแม้สักคนเดียว
แวนูรินดา มะแซ
นอกจากการสอนหนังสือ และความรับผิดชอบต่อลูกศิษย์แล้ว แวนูรินดา มะแซ อาจารย์วิทยาลัยเทคโนโลยีการเกษตรและประมงปัตตานี ยังอุทิศตนเพื่อทำงานร่วมกับ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ในการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา และมอบโอกาสให้กับเด็กยากจนพิเศษที่ต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด ภายใต้โครงการ ทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง สำหรับนักเรียนที่อยู่ในระดับชั้น ม.3 และ ม.6 ที่เสี่ยงหลุดออกจากระบบการศึกษาหรือไม่ได้เรียนต่อ ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส พื้นที่ใครหลายๆ คนอยากจะหลีกเลี่ยง พื้นที่ที่เป็นสีแดงในใจของใครหลายๆ คน
“ถ้าถามถึงความเสี่ยงไม่ต้องพูดถึง เพราะเหตุการณ์ความไม่สงบมีอยู่ทุกวัน ระเบิดเป็นว่าเล่น ยิงกันไม่เลือกที่ แต่พวกเราก็ลุยกันไม่มีถอยหลังเพราะยิ่งออกเดินทางไกล ก็ยิ่งพบเจอความเป็นอยู่ของเด็กๆ ที่ทำให้เราสะเทือนใจเป็นอย่างมาก บ้านที่ทรุดโทรม บางคนไม่มีทั้งพ่อและแม่ เราเสียน้ำตากันเกือบทุกวัน” แวนูรินดา กล่าว
การเดินทางเต็มไปด้วยความยากลำบาก เส้นทางที่คดเคี้ยวและไม่คุ้นเคย เป็นอุปสรรคใหญ่ในการเดินทางของแวนูรินดา และคณะครูอีก 4 ท่านที่ร่วมเดินทางไปด้วยกัน บางครั้งเดินทางจนรถเสีย บางครั้งต้องเดินเท้าขึ้นไปบนเขาเพราะไม่มีทางรถจนรองเท้าขาดแต่ด้วยหัวใจของครู แวนูรินดาจึงตั้งปณิธานไว้กับตัวเองว่าจะไม่หยุด และไม่ยอมทิ้งใครไว้ข้างหลัง
“เราเดินทางไปค้นหาเด็กใน 12 อำเภอของนราธิวาส ต้องไปถึง 32 ที่ เดินทางกันแบบค่ำที่ไหนก็หยุดที่นั่น ถ้ารถยนต์ขึ้นไม่ได้ ก็จะเดินเท้าไปถึงบ้านเด็ก แต่ละจุดที่ไปหานักเรียนห่างกันมากกว่า 50-70 กิโลเมตร หลงบ้าง เจอกับถนนขาดเพราะน้ำจากภูเขาไหลลงมาปิดทางบ้าง แต่เราก็ยังไปต่อ เพราะเรารู้ดีว่าโอกาสจาก กสศ. สำคัญกับน้องๆ เหล่านี้มากขนาดไหน ถ้าเราหยุดเดินทาง ถ้าไม่มี กสศ. เด็กๆ เหล่านี้ไม่มีทางได้เรียนต่อแน่นอน” แวนูรินดา เล่า
งานที่แวนูรินดาทำร่วมกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ภายใต้โครงการ ทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูงที่ช่วยเยาวชนจากครัวเรือนที่ยากจนที่ศึกษาอยู่ในระดับชั้น ม.3 และ ม.6 ที่เสี่ยงจะหลุดจากระบบการศึกษา ให้ได้ศึกษาต่อใน 30 สาขาวิชาขาดแคลนและเป็นที่ต้องการของประเทศ โดยจะออกไปค้นหา คัดกรอง เพื่อช่วยเหลือเด็กยากจนพิเศษ และเด็กที่ต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด และทำการเก็บข้อมูลเพื่อทำฐานข้อมูล พิสูจน์ความมีตัวตน สภาพปัญหา สภาพความเป็นอยู่ และ สถานะครัวเรือน รวมไปจนถึงการส่งมอบเงินอุดหนุนให้กับนักเรียน และติดตามต่อเนื่องจนสำเร็จการศึกษา
นางสาวมากรือซง บือราเฮง นักเรียนที่ได้รับทุนจาก กสศ. และได้รับโอกาสในการศึกษาที่ วิทยาลัยเทคโนโลยีการเกษตรและประมงปัตตานี เล่าว่า ด้วยความที่ตัวเองเป็นเสาหลักของครอบครัว ต้องดูแลทุกคน ทั้งแม่ที่พิการทางสมองและเป็นโรคซึมเศร้า และพี่ชายพิการทางสมองตั้งแต่เด็ก ส่วนคุณพ่อนั้นเสียชีวิตไปตั้งแต่มากรือซงอยู่ชั้น ป3 ส่วนพี่สาวก็ไปทำงานต่างจังหวัดไม่สามารถติดต่อได้ จึงคิดจะไม่เรียนหนังสือต่อแล้ว แต่ก็ได้รับโอกาสจาก กสศ. ที่หยิบยื่นมาให้โดยครูแวนูรินดา ทำให้ได้มาเรียนที่วิทยาลัยเทคโนโลยีการเกษตรและประมงปัตตานี ซึ่งเป็นการเรียนที่เน้นภาคปฏิบัติควบคู่ไปกับภาคทฤษฎี และนอกจากเรียนแล้ว ยังได้ทำงานหารายได้เสริมในการเพาะเห็ดไปด้วย เพื่อนำรายได้ไปดูแลครอบครัวและเป็นทุนสำหรับการศึกษาต่อ
“เงินที่ได้มาส่วนหนึ่งก็เก็บเผื่อการเรียนต่อถึง ป.ตรี และจะแบ่งให้ครอบครัว อนาคตข้างหน้าอยากทำธุรกิจของตัวเอง เช่นเปิดร้านเล็กๆ ต่อยอดเป็นร้านใหญ่ หรือโรงงาน มีธุรกิจของตัวเองในอนาคต” มากรือซง กล่าวด้วยแววตาเป็นประกาย
แวนูรินดา กล่าวด้วยความภูมิใจว่า ทุนที่ได้ทำให้มากรือซงได้เรียนในสิ่งที่สนใจ และได้หารายได้ไปพร้อมๆ กัน เหมือนเป็นการพลิกชีวิตของเด็กให้กลับมาสดใส และมีอนาคตที่ดีได้ ซึ่งทางวิทยาลัยจะไม่ทอดทิ้งเด็กๆ ที่พยายามจะมีชีวิตที่ดีขึ้นเช่นเดียวกับมากรือซง โดยเราจะส่งเสริมไปเรื่อยๆ จนกว่าพวกเขาจะยืนได้ด้วยตัวเอง ได้ประกอบอาชีพที่มั่นคงและยั่งยืนต่อไป
“เราจะยังคงเดินไปต่อให้ถึงที่สุด จะต้องนำโอกาสไปให้เด็กๆ ของเราให้ได้ จะไม่มีทางพลาดเด็กคนไหนไปแม้สักคนเดียว” แวนูรินดา กล่าว
