PEOPLE

เปิดใจ “ชัย ชิดชอบ” จากคนเลี้ยงช้าง สู่ประธานรัฐสภา

จากผู้ริเริ่มจัดงานช้างจ.สุรินทร์ เมื่อ 64 ปีก่อน มาสู่จุดเปลี่ยนการเป็นนักการเมือง

“จะเอาอะไรยากเท่า เหมือนกับเลี้ยงปลาไหล มันชนกัน ตัวไหนดื้อมันก็ไปชน แต่ก่อนไม่เคยมีในประวัติศาสตร์จัดงานแบบนี้ เพิ่งมาจัด มีตั้งแต่สมัยกษัตริย์ครองราชย์ ตอนหลังไม่มี เลี้ยงช้างแต่ละเชือก มันยาก มันไม่เหมือนคนธรรมดา คนเลี้ยงต้องมีความชัดเจน ขี่ช้างเก่ง ขึ้นช้างได้ ฝึกช้างได้ ไม่กลัวช้าง”

ปู่ชัย เล่าให้ฟังถึงที่มาของภาพประวัติศาสตร์งานช้าง จ.สุรินทร์ ที่ นายชัย ชิดชอบ เป็นผู้ริเริ่มจัดงานครั้งแรกเป็นประวัติศาสตร์ เมื่อปี 2498 มีช้างกว่า 400 กว่าเชือก มาร่วมงาน ซึ่งปู่ชัย บอกว่า เอาช้างไปคล้องในป่า ใช้จำนวนมากๆ ใช้เชือกใหญ่ๆ ต้องหาระดม ช้างใหญ่ๆฝึก ไปชนกัน

การชุมนุมช้างครั้งแรกของจังหวัดสุรินทร์ พ.ศ. 2498

นั่นคือภาพประวัติศาสตร์ เมื่อปี 2498 หรือ เมื่อ 64 ปีก่อน ซึ่งสะท้อนถึงการเป็นคนมีความคิดริเริ่มสร่างสรรค์ หรือเป็น นัก Creative ที่นายเนวิน ชิดชอบ บุตรชาย เคยบอกว่า เขาน่าจะได้ความเป็นนักคิด สร้างสรรค์ มาจากพ่อตรงจุดนี้

นายชัย ชิดชอบ เติบโตจากครอบครัวคนเลี้ยงช้าง บ้านเพี้ยราม อ.เมือง จ.สุรินทร์ หากจะบอกว่าเกิดบนหลังช้างคงไม่ผิด
“จะว่าเกิดบนหลังช้างก็ไม่ใช่ จะว่าไม่ใช่ก็ไม่ใช่เพราะว่าเรามีช้าง เอาช้างเป็นหลัก เท่ากับเกิดบนหลังช้าง”

ภาพนายชัย ชิดชอบ บนหลังช้าง

นายชัย เล่าว่า การฝึกช้างยากกว่าฝึกวัวกว่าควาย เพราะมันต้องฝึกขึ้นขี่ บรรทุกของ หลายๆอย่าง มาเป็นยานพาหนะอย่างหนึ่ง เพราะว่าช้างน้ำหนักไม่ใช่เบาๆ ตัวหนึ่งน้ำหนักเป็นตัน

ตอนอายุ 6-7 ขวบ บังคับได้ ขี่แข็งแรงได้ ไปทั่วๆไป หลายอำเภอ หลายหมู่บ้าน เป็นอาชีพ แห่นาค มารับจ้างเขาก็จ้าง” นั่นคืออาชีพแรกของ ชัย ชิดชอบ

ความผูกพันกับช้าง ยังทำให้นายชัย เป็นคนแรกที่ขี่ช้างหาเสียง เมื่อครั้งสมัคร ส.ส.เมื่อปี 2512
ภาพโปสเตอร์หาเสียง ที่มีเลข 6 เป็นโปสเตอร์เก่า อายุถึง 60 ปีที่บ้านศิลาชัย เก็บรักษาไว้อย่างดี และกลายเป็นตำนานการหาเสียงของ ส.ส.สมัยนั้น

ขี่ช้าง 6 เชือก จับได้เบอร์ 6 ก็เลือกเบอร์ 6 ขี่ช้างเอง ไปหาชาวบ้าน ขี่เอง มีควานช้าง บางแห่งเราขี่เอง บางแห่งควานช้างขี่ ธรรมดา ไปกินกล้วย กินมะพร้าวไปเรื่อย

นายชัย เล่าถึงที่มาของไอเดียการขี่ช้างหาเสียง แบบค่ำไหนนอนนั่น และทำให้ นายชัย ชิดชอบ ได้เป็นประธานสภาผู้แทนราษฏร หรือ ส.ส.ครั้งแรก

ความอารมณ์ดี และมีมุกตลกคือเสน่ห์ของ ชัย ชิดชอบ

แต่จุดเริ่มต้นเส้นทางการเมืองของ นายชัย ชิดชอบ เริ่มลงสมัครเลือกตั้งครั้งแรก ที่จ.สุรินทร์ เมื่อปี 2509 ก่อนจะย้ายมาตั้งรกราก ที่ จ.บุรีรัมย์ และลงสมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ในปี 2512

“เราเป็นคนแรก คนอื่นเขาไม่มีช้างเหมือนเรา เรามีก็เอามาใช้ให้เกิดประโยชน์ ไปที่ไหนไม่ต้องหาเสียงมาก เห็นช้างชัดๆ ช้างเบอร์ 6 มาแล้ว ชาวบ้านพูดเลย เราไม่ต้องเดือดร้อน” ปู่ชัย เล่าถึงความทรงจำด้วยรอยยิ้ม


ก่อนจะมาถึงจุดเปลี่ยนในชีวิตที่ทำให้ตัดสินใจเป็น “นักการเมือง”

เขาเอาตำรวจมาจับเราเข้าคุก ต้องประกันตัว สู้ จึงเป็นจุดเล่นการเมือง ทำให้เข้มแข็ง ทำให้อยากฝึกตนเองให้เป็นนักการเมืองให้ได้ พยายามทำอย่างไร สู้ให้เป็นรัฐมนตรีให้ได้ แต่มันสู้ไม่ถึง สู้ได้แค่ลูก พ่อสู้ไม่ได้

นายชัย เล่าถึงจุดเปลี่ยนในชีวิตที่ตัดสินใจเล่นการเมือง เพราะตอนย้ายมาทำธุรกิจโรงโม่หิน ที่ จ.บุรีรัมย์ ถูกกลั่นแกล้งจนถูกตำรวจจับกุมอย่างไม่เป็นธรรม จึงทำให้นายชัย คิดว่า สิ่งที่จะชนะความไม่เป็นธรรมนั้นได้คือการเป็น นักการเมือง เป็นผู้แทนของประชาชน

เหตุการณ์วันนั้น มันทำให้เราอยากต่อสู้ สมัยนั้น การต่อสู้มันลำบาก สู้ด้วยอาวุธ สู้ด้วยปืน ลำบาก

ชัย ชิดชอบ ในวัยหนุ่ม กับการทำงานในระดับท้องถิ่น

จากนั้นนายชัย จึงเริ่มเล่นการเมือง ด้วยการเป็นทั้งผู้ใหญ่บ้านเป็นกำนัน เป็นสภาชิกสภาตำบล จังหวัด เป็นทุกอย่าง

ความตั้งใจคือ อยากชนะ ตอนนี้ก็ยอมแพ้เขาแล้วล่ะ ชีวิตการเมือง 14 สมัยเป็น ส.ส.ปี 2512 อยากเป็นผู้แทน อยากมีอำนาจ อยากแก้ปัญหาให้ชาวบ้าน เห็นชาวบ้านถูกรังแก ตนเองถูกรังแก มันทนไม่ได้ ต้องสู้ เป็น ส.ส.สมัยก่อนยาก เงินบาทหนึ่ง มีค่าแพงมาก เดี๋ยวนี้เงินบาทหนึ่ง มันราคาน้อย

นับจากเป็น ส.ส.สมัยแรก นายชัย ชิดชอบ มีความโดดเด่นอย่างมากในการอภิปรายงบประมาณ จนได้รับฉายาว่า “ปรมาจารย์งบประมาณ”

ปรมาจารย์ด้านงบประมาณ ในคณะกรรมาธิการงบประมาณปี 2531

เราเป็นคณะกรรมาธิการพิจารณารายจ่ายประจำปี 2518 คือรู้ ว่ากระทรวงนี้ได้งบประมาณเท่าไหร่ ถนนเส้นนี้สร้างเมื่อไหร่ มันจำได้ เขาเลยว่าเป็นปรมาจารย์ ตอนหลังเสื่อมหมดแล้ว หางบไปให้เขา เขาได้ถนนหนทาง จากเลนหนึ่งเป็นสอง สองเป็นสาม สามเป็นสี่แลน แหล่งน้ำจากขุดเป็นเกาะ เป็นแหล่งน้ำธรรมดา จนเป็นน้ำที่สามารถทำฝายได้ แล้วก็ทำโรงเรียน มหาวิทยาลัย งบประมาณสร้างกระทรวงสาธารณสุข น้อยเมื่อไหร่ หลายพันล้าน กว่าจะสร้างเสร็จ

นายชัย เล่าว่า สมัยผมทั้งนั้น ทำจนเขาเจริญ สนามบิน ศาลากลาง โรงพยาบาล ผลักดันจนสำเร็จ ยากเหมือนกันโดนขัดขวางเหมือนกัน ใครจะอยากให้เราได้ดี เขาสู้เรา ก็ทะเลาะแสดงเหตุผล สู้กัน ถ้าไม่เก่งพอก็ไปไม่รอด

ความตั้งใจในการทำหน้าที่ ส.ส.จ.บุรีรัมย์ ของนายชัย จึงอยากหางบประมาณมาพัฒนา จ.บุรีรัมย์ให้มากที่สุด หนึ่งในความภาคภูมิใจคือ การสร้างศูนย์ราชการแห่งใหม่ และสนามบินจ.บุรีรัมย์

ส.ส.ชัย ชิดชอบ อภิปรายในสภาฯ

นายชัย ย้ำว่า หน้าที่ ส.ส.มีความสำคัญและมีความหมายมาก “ต้องคิดขยาย ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ ว่าจะต้องแก้ไขปัญหาอย่างไร ให้ลุล่วง แล้วคนที่พยายามขัด สิ่งเหล่านี้ก็เยอะ กลัวเราได้ประโยชน์ สมัยก่อน ใครจะทำอะไรสักอย่างให้เป็นอนุสรณ์ก็ลำบาก เราประยุกต์หลายอย่าง อย่างสนามบิน เอาช้างมาประกอบสนามบิน เพื่อจะสร้างสนามบินให้คนมาดู ให้คนกรุงเทพไปดู ใช้วิธีการหลายอย่าง ไม่ใช่ง่ายๆ

นายชัย เล่าให้ฟังถึงความตั้งใจในการสร้างสนามบิน จ.บุรีรัมย์ ที่อ.สตึก ที่ขณะนั้นมีผู้คัดค้านจำนวนมาก แต่เหตุผลที่เลือกบริเวณนั้น เพราะจะได้ใช้ประโยชน์ทั้งชาวบุรีรัมย์ และสุรินทร์ จะได้ส่งเสริมการท่องเที่ยวงานช้าง จ.สุรินทร์ และแน่นอนที่สุดในปัจจุบัน สนามบินบุรีรัมย์ ได้ใช้ต้อนรับนักฟุตบอล นักแข่งรถ ระดับโลก มาที่สนามช้างสเตเดียม จ.บุรีรัมย์

ให้คนจากทั่วโลก ได้ใช้ เป็นอนุสรณ์เขา ทุกวันยิ่งสบายใหญ่ แข่งรถ สบาย มีสนามใหญ่ มีสนามแข่งระดับโลก

สนามบินไกล เดี๋ยวนี้ใกล้นิดเดียว ถ้าไม่เอาตรงนั้นไม่รู้จะไปตรงไหน ที่เกือบสองร้อยไร่ ไม่ใช่ง่าย หาที่ไหน เดี๋ยวนี้สบายแล้ว ก็ว่าน่าจะใหญ่กว่านี้ ว่าไปโน้นอีก ศาลากลาง 17 ปี จึงได้ศาลากลางบุรีรัมย์ สนามบิน 12 ปี จึงได้ กัดฟันทน จนเป็นประโยชน์ได้ใช้ประโยชน์ถึงทุกวัน ได้ใช้หมด 4 จังหวัด สุรินทร์ บุรีรัมย์ โคราช ศรีสะเกษ ร้อยเอ็ด สารคาม ห้า หจังหวัด คิดไว้ ถ้าไม่รวบรวมไว้ก็เสร็จ

สนามบินบุรีรัมย์ ทำให้พื้นที่ป่าบริเวณโดยรอบแถวนั้นยังถูกอนุรักษ์อยู่ ไม่ถูกแพ้วถางไป และเป็นประโยชน์กับคนหลายจังหวัดใกล้เคียง

นี่คือสิ่งที่ นายชัย ชิดชอบ จากคนเลี้ยงช้าง สู่ ประธานรัฐสภา ทำไว้ให้ลูกหลานชาวบุรีรัมย์ และหลายคนอาจจะไม่รู้

โปรดติดตามตอนที่ 2

The Reporters : สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2563
ฐปณีย์ เอียดศรีไชย

Related Posts

Send this to a friend