How To แนะนำเก็บแฟชั่นกันหนาวอย่างไรไม่พัง-ไม่ขึ้นรา?

หลังจากเข้าหน้าหนาว สัมผัสอากาศเย็นมาได้ไม่กี่วัน ก็มีข่าวว่าอุณหภูมิกำลังจะสูงขึ้นแล้ว!! สำหรับใครที่เอาเสื้อกันหนาวออกมา อาจจะต้องเก็บกลับเข้าไปอีกครั้ง หรือสำหรับท่านที่เดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศช่วงนี้ และได้นำเสื้อกันหนาวไปใส่ ทราบหรือไม่ว่าต้องเก็บอย่างไรจึงจะรักษาเสื้อกันหนาวตัวสวยที่ได้ใส่กันปีละไม่กี่ครั้งได้ ไม่ขึ้นรา ไม่แตก ไม่เสียหาย วันนี้ The Reporters มีทริคดีๆ มาฝาก…

เชอร์รี่-ทิพย์ระวี ภู่ไชย Professional Hairdresser and consultant ผู้ก่อตั้ง Libertish Salon cafe และที่ปรึกษาด้านภาพลักษณ์ ให้ข้อมูลกับเราเกี่ยวกับเทคนิคการเก็บ แฟชั่นเสื้อผ้ากันหนาวหลังใช้งานแล้ว ว่า “อันดับแรกนั้นก่อนทำความสะอาด ให้แยกจำพวกของแฟชั่นเสื้อกันหนาวของเรา ว่าจัดอยู่ในประเภทไหน เช่น เสื้อกันหนาวที่ใส่อยู่ทำจากหนังแท้,หรือเสื้อกันหนาวทำจากผ้าหนัง PU หรือหนังเทียม,เสื้อกันหนาวทำจากขนเฟอร์ (ทำจากขนแกะ ขนกระต่าย และขนมิงค์) ที่ช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกาย และเสื้อกันหนาวที่ทำจากผ้าวูล (Wool) ที่มีลักษณะหนาและสามารถทน กับความหนาวได้เป็นอย่างดี เนื่องจากทอมาจากขนสัตว์ หรือเป็นเสื้อกันหนาวที่ทำจากไหมพรม เพราะอย่าลืมว่าการดูแลเสื้อกันหนาวแต่ละชนิดต้องทำแตกต่างกัน”

“ทั้งนี้ประโยชน์ของการคัดแยกประเภทของเสื้อกันหนาว จะช่วยทำให้เราสามารถ ทำความสะอาดแฟชั่นกันหนาวแต่ละประเภทได้ดียิ่งขึ้น เพราะสิ่งที่สำคัญนั้นไม่ว่าจะเสื้อกันหนาว ที่ดีไซน์จากผ้าชนิดไหน หลังใช้งานทุกครั้ง ควรทำความสะอาดก่อนทุกครั้งก่อนเก็บ หรือส่งซักทำความสะอาด หากจัดอยู่ในประเภทที่เราไม่สามารถซักด้วยมือ หรือเครื่องซักผ้า เช่น เสื้อกันหนาวที่ทำจากหนังแท้ เป็นต้น หรืออาจได้รับข้อยกเว้นในการไม่ต้องทำความสะอาดบ่อยๆ เช่น เสื้อกันหนาวจากขนเฟอร์แท้ หรือหากทำความสะอาด ควรส่งร้านทำความสะอาดที่ทำโดยเชี่ยวชาญ”

การทำความสะอาดเสื้อกันหนาวแต่ละประเภท-การเก็บรักษาทำอย่างไร ?

เชอร์รี่ อธิบายว่า “เนื่องจากเสื้อกันหนาวแต่ละชนิด ทำจากเนื้อผ้าที่แตกต่างกัน ดังนั้นการทำความสะอาด จึงแตกต่างกัน เช่น เสื้อกันหนาวทำจากหนังแท้ ควรส่งร้านซักทำความสะอาดเสื้อหนังโดยเฉพาะ เนื่องจากการซักทั่วไปนั้น เวลาที่หนังแท้ถูกน้ำจะทำให้เสื้อกันหนาวเปลี่ยนสี ดังนั้นจึงต้องส่งร้านทำความสะอาดโดยตรง ซึ่งจะใช้เทคนิคของการทำความสะอาด ด้วยครีมเช็ดคาบสกปรก ซึ่งอุปกรณ์ทำความสะอาดหนังโดยเฉพาะ โดยใช้แปรงขนม้าเช็ดวนเป็นวงกลม ตามด้วยเจลที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับเสื้อหนัง รวมถึงการใช้ครีมสำหรับขัดให้สีของหนังให้ดูมันวาว และสเปรย์สำหรับเคลือบความเงางามอีกชั้น เป็นต้น”

“นอกจากนี้เสื้อกันหนาวบางชนิด เช่น เสื้อไหมพรม ที่ไม่จำเป็นต้องใส่เสื้อข้างในซ้อน ดังนั้นการที่ร่างกายสัมผัสกับเสื้อกันหนาวประเภทนี้โดยตรง จะทำให้ปนเปื้อนเหงื่อ ซึ่งก่อให้เกิดคาบสกปรกซึ่งอาจฝังลึกบนเสื้อกันหนาวได้ง่าย ดังนั้นหลังใช้งานจึงควรรีบซัก ทำความสะอาดโดยทันที ด้วยการซักด้วยมือเท่านั้น หลีกเลี่ยงการซักเครื่อง และไม่ควรอบร้อนเสื้อผ้า เพราะจะทำให้เสื้อกันหนาวไหมพรมหดตัว นอกจากนี้การทำความสะอาด เสื้อกันหนาวผ้าวูล ซึ่งทอจากขนสัตว์ก็ใช้วิธีเดียวกันนี้”

“ส่วน ถุงมือหนัง และ ถุงมือไหมพรม แนะนำให้ทำความสะอาดคล้ายกัน ด้วยการกลับด้านในของถุงมือ เช่น ถุงมือหนังแท้ด้านจะมีผ้าที่เย็บติดกันบริเวณขอบถุงมือ ซึ่งผ้าด้านในถุงมือ สามารถดึงแยกออกจากขอบที่เย็บติดด้านบนได้ ดังนั้นให้ขยี้ผ้าด้านในถุงมือด้วยน้ำสบู่ เพื่อชำละล้างคาบไขมัน และเหงื่อที่ติดอยู่ด้านในถุงมือออก และล้างด้วยน้ำเปล่าให้น้ำสะอาด จากนั้นให้ไดร์เป่าผมเป่าผ้าด้านในถุงมือให้แห้ง ทั้งนี้ถุงมือไหมพรมก็ทำเช่นเดียวกัน”

ที่ปรึกษาด้านภาพลักษณ์ บอกอีกว่า เสื้อกันหนาวที่ทำจากผ้ายืด ผ้าไหมพรม และผ้าวูลนั้น หลังซักทำความสะอาดด้วยมือแล้ว เวลาที่ตากผ้าไม่ควรแขวนบนไม้แขวนเสื้อ เพราะไม้แขวนเสื้อที่ไม่พอดีกับไหล่ของเสื้อกันหนาว จะทำให้เสื้อกันหนาวเสียรูปทรง หรือยืดย้วยเร็วกว่าปกติ โดยเฉพาะเสื้อกันหนาวไหมพรม ควรตากด้วยการวางพาดในแนวราบ (คล้ายกับการวางพึ่งผ้า บนตาแกรงของราวตากผ้า) เมื่อเสื้อกันหนาวแห้งให้พับใส่นำไปวางเรียงในกล่อง ก็จะทำให้เสื้อกันหนาวไหมพรมไปยืดย้วยเร็ว รวมถึงเสื้อกันหนาวจากผ้ายืด และผ้าวูล ก็ใช้หลักการทำความสะอาด และเก็บด้วยการพับใส่กล่องเช่นเดียวกัน ส่วน ผ้าพันคอ หลังใช้งานแนะนำให้พึ่งให้แห้ง จากนั้นทำความสะอาดด้วยมือตากให้แห้ง และพับให้เรียบร้อยด้วยการใส่ถุงผ้า ก็จะทำให้ผ้าพันคอเป็นระเรียบและไม่เสียทรง หรือใช้วิธีพาดไว้บนไม้แขวนเสื้อในตู้ ก็ทำให้หยิบใช้งานได้ง่ายเช่นกัน

ขณะที่เสื้อกันหนาวหนังแท้ และเสื้อกันหนาวจากขนเฟอร์ หลังจากส่งทำความสะอาดแล้ว ควรจะแขวนให้เป็นระเบียบ จากนั้นให้เก็บในถุงคลุมที่สามารถระบายอากาศ เช่น ถุงคลุมสูทที่ทำจากผ้ามัสลิน ไม่แนะนำให้ใช้ถุงคลุมพลาสติก ที่นอกจากไม่ระบายอากาศแล้ว ยังทำให้เสื้อกันหนาวอบร้อน และดูดพลาสติก กระทั่งสีของเสื้อกันหนาว ตกและติดอยู่กับถุงคลุมชนิดนี้ได้ โดยเฉพาะผู้ที่แขวนเสื้อกันหนาวไว้ในตู้ที่อบอ้าว

หลังซักทำความสะอาด และจัดเก็บเสื้อกันหนาวเข้าที่แล้ว ไม่ลืมนำออกมาระบายอากาศ ช่วยระบายความร้อนให้เสื้อผ้า ยืดอายุการใช้งาน

ทิพย์ระวี แนะนำว่า “เทคนิคส่วนตัวคือการนำเสื้อกันหนาวตัวโปรด มาไว้ในห้องนอนที่เปิดแอร์เป็นบางครั้งคราว เพื่อให้ความเย็นในห้อง ช่วยระบายความร้อนให้กับเสื้อกันหนาว พร้อมกันนี้ก็ได้แนะนำให้คนทั่วไป ที่มีเสื้อกันหนาวที่ทำจากหนังแท้ ,หนัง PU, ขนเฟอร์ ให้นำมาแขวนไว้ให้นอนห้องนั่งเล่น ที่เปิดแอร์บ้างเป็นบางวัน หรือแม้แต่เสื้อกันหนาว ที่ทอจากขนสัตว์อย่างผ้าวูล ให้นำมาวางพึ่ง ห้องที่มีความเย็นเช่นกัน ที่สำคัญควรหลีกเลี่ยง การแขวนเสื้อกันหนาวไว้ในตู้ ที่ตั้งอยู่บริเวณที่มีอากาศร้อนเป็นเวลานานๆ โดยที่ไม่ได้เปิดดูความเรียบร้อย เพื่อป้องกันเสื้อผ้าได้รับความเสียหาย จากอุณหภูมิที่สูงภายในบ้าน”

เชอร์รี่ บอกอีกว่า นอกจากนี้ให้ระวัง “ความชื้นในสวน” ซึ่งทำให้เสื้อผ้า “ขึ้นรา” โดยไม่ทราบสาเหตุ เนื่องจากประสบการณ์ส่วนตัว เคยทำแบรนด์แฟชั่นเสื้อผ้า และแขวนเสื้อผ้าไว้บริเวณชั้นล่างของบ้าน เพื่อระบายอากาศ ซึ่งใกล้กับจุดที่เป็นสวนภายในบ้าน ซึ่งทำให้เสื้อผ้า “ขึ้นรา” โดยไม่ทันระวัง เนื่องจากละอองน้ำที่รดต้นไม้ และละอองน้ำฝน ผ่านเข้ามาจากหน้าต่างที่เปิดทิ้งไว้ และกระเด็นมาสัมผัสเสื้อผ้าที่แขวนอยู่บนราว

เสื้อกันหนาวมือสอง ดูแลแตกต่างจากเสื้อผ้ากันหนาวมือหนึ่งอย่างไร?

ทิพย์ระวี ให้ข้อมูลว่า “การทำความสะอาดเสื้อผ้ากันหนาวมือสองนั้น ก็คล้ายคลึงกับเสื้อกันหนาวมือหนึ่ง โดยเริ่มจากการแยกประเภทก่อน เช่น หากเป็นเสื้อกันหนาวมือสอง ที่ทำจากขนเฟอร์ หรือเสื้อกันหนาวหนังแท้ ซึ่งปกติเราไม่สามารถความสะอาดได้เอง ก็จำเป็นต้องส่งร้านซักทำความสะอาดที่ มีความชำนาญ ซึ่งก็จะมีวิธีในการทำความสะอาดที่เฉพาะเจาะจง ซึ่งบางครั้งอาจจะไม่ได้ซักทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่า หรือบางจุดจำเป็นต้องใช้สเปรย์ หรืออุปกรณ์ทำความสะอาดเครื่องหนังช่วย เป็นต้น แต่สิ่งสำคัญอยากให้ระวังเกี่ยวกับด้านใน ของเสื้อกันหนาวมือสองประเภทดังกล่าว โดยการหมั่นนำมาพึ่งลมบ้าง เพื่อป้องกันความอับชื้นและก่อให้เกิดเชื้อราด้านในเสื้อ เพราะการตากที่มีแดดสัมผัสโดยตรง อาจทำให้เสื้อกันหนาวมือสอง ที่สภาพยังดีเปลี่ยนสีเร็วยิ่งขึ้นได้”

เลือกแฟชั่นรับลมหนาวอย่างไร เพื่อให้สวมใส่ได้นาน และอินเทรนด์อยู่ตลอด?

เชอร์รี่ กล่าวว่า “การเลือกแฟชั่นกันหนาวให้สวมใส่ได้นานนั้น อันดับแรกต้องเหมาะกับบุคลิกภาพของตัวเรา เช่น ต้องรู้ว่าเรามีรูปแบบไหน และใส่เสื้อผ้าแบบไหนแล้วสวย ที่สำคัญเสื้อผ้าที่เลือกจะต้องอยู่ภายใต้อันเดอร์โทนสีผิวของเรา โดยส่วนตัวของพี่เชอร์รี่นั้น เวลาที่ไปต่างประเทศ โทนเสื้อผ้ากันหนาวจะเลือกเป็นโทนสีเรียบๆ เนื่องจากเป็นโทนสีที่ชาวต่างชาติมักจะนิยมใส่ แต่จะเพิ่มความสนุกเข้าไป ให้กับแฟชั่นที่ใส่อยู่ด้านในแทน ซึ่งการแต่งตัวในลักษณะนี้ จะทำให้เราไม่ต้องนำเสื้อผ้ากันหนาวไปเยอะ หรือหากต้องการใส่รองเท้าบูท และถือกระเป๋าสีน้ำตาล ดังนั้นเสื้อกันหนาวก็ควรจะเป็นโทนสีเบส ขณะที่ชุดที่ใส่ด้านในควรเป็นสีนูด ก็จะทำให้การแต่งตัวของเราไล่โทนสีกัน อย่าง สีน้ำตาล สีเบส และสีนูด เป็นต้น”

ทิพย์ระวี แนะนำอีกว่า การเลือกแต่งตัวในสไตล์โมโนโทน เช่น สีขาว สีเทา และสีดำ ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ลุคดูดี และกลมกลืนกันอย่างลงตัว โดยเน้นเสื้อคุลมกันหนาวเป็นสีดำ ส่วนเสื้อข้างในสีขาว และใส่กางเกงหรือกระโปรงสีเทา เป็นต้น ทั้งนี้หากต้องการเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับลุคนี้ ก็สามารถผูกผ้าพันคอเข้าไป เป็นต้น หรือจะเพิ่มความสดใสให้กับตัวเอง ด้วยการสวมเสื้อกันหนาวสีดำ และใส่ชุดด้านในสีสันสดก็จะทำให้ลุค ที่ออกมาดูสนุกสนานมากยิ่งขึ้น

แฟชั่นกันหนาวนอกจาก การทำความสะอาด และจัดเก็บอย่างถูกวิธี ตามแต่ละประเภท เพื่อป้องกันปัญหายับยู่ยี่แล้ว การเลือกเสื้อผ้าด้วยโทนสีและสไตล์ที่เรียบหรู ก็ช่วยเพิ่มความคลาสสิค และสามารถใช้ได้นานขึ้น