CMO เปิดผลประกอบการครึ่งปีแรก กวาดรายได้ 612 ล้านบาท โต 44%
CMO เปิดผลประกอบการ 6 เดือนแรก กวาดรายได้ 612 ล้านบาท โตขึ้น 10% จากปีก่อน ขณะที่ผลงานไตรมาส 2/67 ทำรายได้ 349 ล้านบาท เผยครึ่งปีหลังทิศทางตลาดอีเวนต์โตต่อเนื่อง เดินหน้าขยายธุรกิจ เพิ่มศักยภาพทางการแข่งขัน ลุ้นประมูลงานใหม่ทั้งใน-ต่างประเทศ มั่นใจรายได้สิ้นปีเข้าเป้า 1.2–1.5 พันล้านบาท โชว์ Backlog ประมาณ 800 ล้านบาท รอรับรู้รายได้ภายในปีนี้
นายมงคล ศีลธรรมพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานพัฒนาธุรกิจ บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลประกอบการในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2567 ว่ากลุ่มบริษัทฯ มีรายได้รวม 612.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55.22 ล้านบาท คิดเป็น 10% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีรายได้ 557.33 ล้านบาท ขณะที่ขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 61.29 ล้านบาท ลดลง 81.78 ล้านบาท คิดเป็น 57% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งบริษัทฯ มีขาดทุนสุทธิ 143.07 ล้านบาท
ส่วนผลประกอบการไตรมาส 2 ของปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้ 349.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44% จากปีก่อน ซึ่งมีรายได้ 242.96 ล้านบาท ขณะที่ขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 12.06 ล้านบาท ลดลง 81% จากงวดเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งบริษัทฯ มีขาดทุนสุทธิ 62.56 ล้านบาท
นายมงคล กล่าวว่า ยอดขายในครึ่งปีแรก ถือว่าเป็นผลงานที่อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ โดยเฉพาะช่วงไตรมาส 2 มียอดขายสูงกว่างวดเดียวกันของปีก่อน 44% ซึ่งปกติไตรมาส 2 ของทุกปี จะเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของธุรกิจอีเวนต์ แต่ปีนี้ทำผลงานได้ดีจากการที่บริษัทฯ ปรับกลยุทธ์ในหลายด้าน เช่น เพิ่มทีมอีเวนต์ในการขยายงาน มีบริการให้เช่าพื้นที่สำนักงานในการถ่ายละคร ภาพยนตร์ ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
“ถึงแม้บริษัทฯ จะยังมีขาดทุนสะสม แต่ก็เป็นจำนวนที่ลดลงอย่างมาก ซึ่งด้วยการปรับกลยุทธ์บริหารงานในทุกส่วนนี้ จะส่งผลให้ปีนี้เป็นปีที่ CMO จะเริ่มฟื้นตัวและพลิกกลับมามีกำไร ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือที่รอรับรู้เป็นรายได้ (Backlog) ภายในสิ้นปีนี้ มูลค่าประมาณ 800 ล้านบาท ทำให้เชื่อว่าในปีนี้รายได้มีโอกาสจะเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ประมาณ 1,200-1,500 ล้านบาท” นายมงคล กล่าว
ช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯ มองว่าเป็นสัญญาณที่ดีของธุรกิจอีเวนต์ มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจอีเวนต์ในประเทศยังตื่นตัว จะเห็นว่ามีบริษัทเอกชนใช้งบการตลาดเพื่อทำแคมเปญหลากหลายรูปแบบ ในส่วนของบริษัทฯ ยังคงดำเนินธุรกิจตามที่ได้วางไว้ คือ การรักษาความเป็นผู้นำด้านธุรกิจอีเวนต์ รวมถึงพัฒนาธุรกิจใหม่ ๆ ที่เข้ากับเทรนด์และตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่มากขึ้น
สำหรับกรณีที่บริษัทฯ นำส่งงบการเงินระหว่างกาล สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2567 ของบริษัทฯ และบริษัทย่อย ซึ่งผู้สอบบัญชีสอบทาน โดยไม่ให้ข้อสรุป ด้วยเหตุที่ได้พิจารณาถึงสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อความไม่แน่นอนต่อความสามารถในการดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่องของกลุ่มบริษัทฯ ไม่ได้มีสาเหตุจากการถูกจำกัดขอบเขตโดยผู้บริหาร อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีมาตรการในการรักษาระดับของกระแสเงินสดสำหรับการจ่ายชำระหนี้สินและใช้ในการดำเนินงานไว้แล้ว
