คนไทยในมาเลเซีย ดีใจจะได้บัตรประชาชนใบแรก หลังสถานะตกหล่น กลายเป็นคนไร้สัญชาติ
คนไทยในมาเลเซีย ดีใจจะได้บัตรประชาชนใบแรก หลังมีสถานะตกหล่น กลายเป็นคนไร้สัญชาติ สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองโกตาบารู เปิดโครงการตรวจ DNA สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ตั้งเป้าให้แล้วเสร็จภายใน 5 ปี
วันนี้ (29 พ.ค. 67) ที่สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองโกตาบารู รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย นายณัฐพล ขันธหิรัญ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ร่วมเปิดโครงการตรวจสารพันธุกรรม (DNA) เพื่อช่วยเหลือคนไทยที่มีสถานะตกหล่นทางทะเบียนราษฎร โดยกระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับ กระทรวงยุติธรรม สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอบต. และสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ดำเนินโครงการนี้มาเป็นปีที่ 7 แล้ว
นายภาษิต จูฑะพุทธิ กงสุลใหญ่ ณ เมืองโกตาบารู เปิดเผยว่า โครงการนี้ เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2560 ต่อเนื่องมาจนปี 2563-2565 มีการยกเว้นไปเพราะสถานการณ์โควิด มาเปิดอีกครั้งในปี 2566 ซึ่งมีผู้มาเข้าร่วมโครงการเพิ่มมากขึ้น จากปี 2560 ที่มีผู้สมาลงทะเบียน 74 คน ปี 2561 จำนวน 90 คน ปี 2562 จำนวน 92 คน ปี 2566 จำนวน 97 คน และปี 2567 จำนวน 235 คน ซึ่งถือว่ามากกว่าทุกปี โดยในปี 2566 ทางสถานกงสุลใหญ่ สามารถออกใบสูติบัตร ให้ 89 คน และได้เปิดศูนย์ One Stop Service ที่อำเภอโกลก จ.นราธิวาส ออกบัตรประชาชนให้ 70 คน เป็นความสำเร็จที่สร้างความภาคภูมิใจ เพราะทำให้คนไทยในมาเลเซีย ได้รับสัญชาติไทย สามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง และมีโอกาสทางการศึกษา
“โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อจะช่วยเหลือประชาชนอย่างแท้จริง จึงไม่อยากให้มองปัจจัยด้านความมั่นคง เพราะกระทรวงการต่างประเทศ มุ่งให้ความช่วยเหลือคนไทย จึงไม่อยากให้ประเด็นความมั่นคงมาเป็นอุปสรรค เพราะเมื่อเข้าสู่ขั้นตอนการตรวจสถานะแล้ว ถ้าเป็นคนไทยก็ย่อมได้รับสิทธิที่ควรจะได้รับกลับคืนมา และช่วยลดช่องว่างความไม่เข้าใจระหว่างรัฐกับประชาชนได้อย่างมากด้วย และเชื่อว่าเราเดินมาถูกทางแล้วเพราะตัวเลขที่เพิ่มขึ้น เป็นสิ่งที่สะท้อนได้ดีว่าโครงการนี้มีผลสำเร็จ และมีผลตอบรับที่ดีจากคนไทยบางคนที่ได้รับบัตรประชาชน ก็มาขอบคุณน้ำตาไหล เพราะที่ผ่านมาไม่มีตัวตน เมื่อได้รับบัตรประชาชนเป็นคนไทย ทำให้เขาได้รับสิทธิต่างๆ กลายเป็นคนไทยที่แท้จริง”
นายกูเฮง ยาวอหะซัน เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า โครงการนี้มองข้ามมิติความมั่นคง มามุ่งเน้นมิติเศรษฐกิจและปากท้อง เพราะการได้สิทธินี้ ทำให้คนไทยในมาเลเซียที่ไม่มีสถานะบุคคล ได้รับสิทธิทางการศึกษา การทำมาหากิน การเข้าถึงสถานพยาบาล ที่มีทาง สปสช.มาร่วมด้วย และอยากเชิญทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์มาร่วมด้วย เพราะมีเด็ก และบางคนเป็นหญิงตั้งครรภ์ จะได้ทราบสิทธิที่ได้รับเมื่อมีบัตรประชาชนไทย
“สิ่งที่เกิดขึ้นในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้มีความซับซ้อน แต่โครงการนี้ถือว่าเดินมาถูกทางแล้ว ที่ให้สิทธิของคนไทยกลับคืนมา ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นไปสู่การแก้ไขปัญหาในมิติอื่นๆ เพราะประชาชนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้มีศักยภาพอย่างมาก”
นายวรวีร์ ไชยวุฒิ รองผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กล่าวว่า ในประเทศไทยมีบุคคลที่มีปัญหาทางทะเบียนราษฎร กว่า 990,000 คน ที่ทางสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ร่วมมือกับหลายหน่วยงาน ดำเนินการตรวจ DNA เพื่อให้สถานะสัญชาติไทยให้กับบุคคลเหล่านั้น เช่นเดียวกับคนไทยในมาเลเซียที่มีสถานะตกหล่นจำนวนมาก โดย 7 ปีที่ผ่านมา เป็นผลสำเร็จที่ได้ช่วยเหลือให้คนไทยในมาเลเซีย ได้สถานะความเป็นคนไทยกลับคืนมา ซึ่งกระทรวงยุติธรรม โดย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.กระทรวงยุติธรรม เห็นความสำคัญของโครงการนี้ ให้ดำเนินการจนกว่าจะแล้วเสร็จ เชื่อว่าปัญหาจะทุเลา ภายใน 3 ปี และจะแก้ปัญหาให้ได้ภายใน 5 ปี
นพ.สมหมาย บุญเกลี้ยง ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอบต. เปิดเผยว่า ติดตามโครงการนี้มาหลายปี เห็นถึงผลดีที่เกิดขึ้นกับคนไทย เพราะเมื่อได้บัตรประชาชนแล้ว จะได้รับสิทธิ โดยเฉพาะสิทธิพยาบาล ซึ่งคนที่ได้รับสิทธิไปแล้ว เมื่อไปติดตามผลก็จะพบว่าทุกคนเหมือนได้ชีวิตใหม่ จึงต้องขอบคุณรัฐบาลที่สนับสนุนโครงการนี้ และขยายผลให้เกิดผลสำเร็จมากขึ้น เช่นการเปิดศูนย์พยาบาล และปลดล็อกทำบัตรประชาชนใบแรกให้กับประชาชนได้ที่สถานกงสุลใหญ่ เพราะที่ผ่านมา หลังได้ใบสูติบัตรแล้ว ยังไม่สามารถข้ามแดนไปทำบัตรประชาชนได้ ต้องเข้าช่องทางธรรมชาติ ทำให้ยังเกิดความยุ่งยากในการเดินทางไปทำบัตรประชาชน หากเป็นไปได้ที่หน่วยงานราชการไทย ทั้งกรมการปกครอง และทางกระทรวงการต่างประเทศได้หารือร่วมกันเพื่อหาทางแก้ไขปัญหานี้ ก็จะทำให้โครงการนี้ได้ผลอย่างรอบด้านมากขึ้น
นายวรวุฒิ พงษ์ประภาพันธ์ อธิบดีกรมการกงสุล เปิดเผยว่า การช่วยเหลือคนไทยที่มีสถานะตกหล่น เป็นโครงการที่ดี ที่กรมการกงสุล พร้อมสนับสนุนให้เกิดขึ้น จึงต้องขอบคุณทุกหน่วยงานที่ได้ร่วมดำเนินการจนปีนี้มีผู้มาลงทะเบียนจำนวนมาก ส่วนปัญหาการออกบัตรประชาชนใบแรก จะทำที่สถานกงสุลใหญ่ได้หรือไม่ ยังเป็นเรื่องที่ต้องมีการแก้ไขระเบียบ เพราะการทำบัตรประชาชน ต้องมีชื่อในทะเบียนราษฎรเสียก่อน ในขั้นตอนนี้คงต้องเป็นเรื่องที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องหารือกัน เพราะระเบียบต่างๆมีขึ้นเพื่อป้องกันการซื้อขายสัญชาติที่เกิดขึ้นในอดีต แต่เมื่อมีเทคโนโลยีในการตรวจสอบสถานะได้มากขึ้น ก็อาจจะมีการแก้ไขระเบียบให้สามารถอำนวยความสะดวกให้คนไทยได้มากขึ้น เพราะยังมีคนไทยในหลายประเทศ ที่มีปัญหาสถานะตกหล่น จะได้ประโยชน์ด้วย