HUMANITY

“มึนอ”ภรรยาบิลลี่ หวังกระบวนการยุติธรรมนำคนผิดที่ “ฆ่า” บิลลี่มาลงโทษ ฝากถึงกลุ่มคนที่ทำแบบนี้ จิตใจเป็นมนุษย์หรือไม่ ขอให้รับโทษจากสิ่งที่ทำ

“มึนอ” หรือ พิณนภา พฤษาพรรณ ภรรยาของบิลลี่ นายพอละจี รักจงเจริญ นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนชาวกะเหรี่ยง เปิดใจครั้งแรกหลังรู้ว่า บิลลี่เสียชีวิตแล้ว

“ดีที่ได้รู้ว่าบิลลี่เสียชีวิตไปแล้ว ได้รู้ว่าอยู่ที่แก่งกระจาน และอยากถามไปถึงกระบวนการที่ทำบิลลี่ ว่าบิลลี่ไปทำอะไรผิด ทำไมถึงเอาชีวิตบิลลี่ไป อยากให้คนในกระบวนการเหล่านี้มาชี้แจง ออกมาบอกให้ญาติพี่น้องบิลลี่ได้รับรู้ว่า เพราะเหตุใด จึงเอาตัวบิลลี่ไป”

มึนอ ยอมรับว่า เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น รู้สึกว่าบนโลกนี้ทำไม คนดีไม่มีที่ให้ยืน ทำไมคนไม่ดีจึงอยู่ได้ เลย อยากฝากไปถึงกระบวนการที่ทำกับบิลลี่ ถ้าเป็นครอบครัวเขา ทำไมทำแบบนี้ จิตใจเป็นมนุษย์อยู่ไหม ถึงทำบิลลี่ได้ลงคอ
“ครอบครัวใครก็รัก เอาชีวิตไปไม่บอกเหตุผลเลยสักคำ ทำไมต้องทำแบบนี้”

ภรรยานายบิลลี่ ยังกล่าวว่า ตั้งแต่วันที่รู้ว่าบิลลี่หายไปคิดไว้เหมือนกันว่า จะถูกกระทำยังไง คือคิดอยู่แล้วว่าถ้าบิลลี่อยู่กับคนสุดท้าย คือ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน หน่วยงานภาครัฐ ก็คิดอยู่แล้ว บิลลี่ไม่มีชีวิตตั้งแต่วันแรกที่หายไปแล้ว ถ้าบิลลี่ไปทำงานอย่างอื่น ยังอาจมีชีวิตอยู่ได้

เมื่อสอบถามเกี่ยวกับลูกๆ มึนอเล่าว่า เด็กๆ ติดตามข่าวพ่อถูกควบคุมตัวไป ไม่ใช่ถูกสัตว์เอาตัวไป พ่อทั้งคนหายไป เขาก็รู้สึกไม่สบายใจ

นอกจากนี้ยังฝากบอกไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าอยากให้ทำความเข้าใจวิถีชีวิต ชาติพันธุ์กะหรี่ยง เข้าใจสิทธิมนุษยชน สิทธิที่ดิน ยอมรับให้เขาอยู่ในที่ที่เขาควรได้อยู่ สิทธิที่จะได้รับ เพราะเชื่อว่า สาเหตุที่ทำให้บิลลี่หายไปคือการออกมาต่อสู้เพื่อสิทธิที่อยู่อาศัยของชาวกะเหรี่ยงโป่งลึก บางกลอย และปู่คออี้

มึนอ ยอมรับว่า ที่ผ่านมา มีชาวบ้านจะบอกว่า คนๆ นั้นเขาเส้นใหญ่ เราไปเรียกร้องจะอันตราย เราก็ไม่ได้กลัว เราไปเรียกร้องสิทธิที่จะได้รับ มาถึงวันนี้ ความจริงปรากฏก็ยังสู้ต่อไปจนกว่าจะได้รับความเป็นธรรมนับจากนี้ มึนอ ในวัย 32 ปี ต้องเป็นหัวหน้าครอบครัว ดูแลแม่วัย 67 ปี และลูก 5 คนอย่างลำพัง แต่เธอบอกว่า “ก็ต้องสู้ต่อไป”

Related Posts

Send this to a friend