HUMANITY

รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ วอน รัฐบาล และสภาฯ ตรากฎหมายเพื่อผู้หญิง

วันนี้ (8 มี.ค. 64) เนื่องในโอกาสวันสตรีสากล นางสาวศิริภา อินทวิเชียร รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับการยกระดับ “สิทธิที่ผู้หญิงพึงจะได้” เพื่อเรียกร้องให้ “ฝ่ายนิติบัญญัติ” และ “รัฐบาล” ของประเทศไทย ให้ความสำคัญในการตราเป็นกฎหมายออกมาบังคับใช้ และจัดทำเป็นนโยบายอันเหมาะสมต่อการดำเนินชีวิตของผู้หญิงในสถานการณ์ปัจจุบัน อันเนื่องใน “วันสตรีสากล” นี้

“แม้ว่าในความเป็นปัจเจกชน (เจตจำนงส่วนบุคคล) นั้นจะรุดหน้าไปแล้ว สำหรับสิทธิที่ผู้หญิงพึงจะได้ แต่เรื่ององค์ประกอบอันจะเอื้ออำนวยสำหรับการดำเนินชีวิตอย่างปกติสุขของผู้หญิงในประเทศไทย โดยส่วนตัวคิดว่า ก็ยังมีความติดขัดอันน่าอึดอัดอยู่ในแง่ของทัศนคติ วัฒนธรรม และการยอมรับอย่างแท้จริง ที่แสดงตัวออกมาให้เห็นผ่านพฤติกรรม ความคิดเห็น และนโยบายสำหรับการอยู่ร่วมกันในสังคมของเรา ที่ทางรัฐบาล โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และสภาผู้แทนราษฎร ควรต้องให้ความใส่ใจเป็นอย่างยิ่ง และร่วมกันกำหนดท่าที นโยบาย และกรอบของกฎหมาย เพื่อขยายโอกาสของผู้หญิงในประเด็นต่างๆ ทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม รวมไปถึงเรื่องของการศึกษา และอื่นๆ ให้ปลอดพ้นจากความเหลื่อมล้ำ และการเลือกปฏิบัติให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น”

รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้หยิบยกตัวอย่างการจัดทำนโยบายของประเทศฟินแลนด์ ซึ่งรัฐบาลที่นั่นจัดการปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำระหว่างชายกับหญิง ที่ผูกโยงไปกับทัศนคติเกี่ยวกับความรับผิดชอบในฐานะแม่ และภรรยา ด้วยการที่รัฐเข้ามาแบ่งเบาภาระความรับผิดชอบตรงนั้นไป โดยที่ไม่สร้างความรู้สึกพึ่งพาให้เกิดขึ้น

“นอกเหนือไปจากเรื่องการศึกษาฟรีสำหรับเด็ก การดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายในการคลอดสำหรับคุณแม่ รวมไปถึงการลาคลอด และค่าชดเชยที่ได้รับในการดำเนินชีวิตแล้ว รัฐบาลฟินแลนด์ยังกำหนดให้ผู้ชายในฐานะสามี และพ่อ สามารถทำหน้าที่ในสองสถานะนี้ได้อย่างเต็มที่ โดยได้รับค่าชดเชยจากบริษัทตามอัตราเบี้ยงเลี้ยงปกตินานถึง 7 เดือน ในกรณีที่ขอลาพักงานเพื่อไปเลี้ยงลูก และดูแลภรรยาหลังคลอด ซึ่งสิทธิดังกล่าวนี้จะมีการตราลงในกฎหมายภายในปีนี้ (2021) และหลายประเทศในยุโรปก็เริ่มมีความสนใจต่อนโยบายดังกล่าว จนเริ่มมีการเปิดโอกาสให้สามีได้ลาไปเลี้ยงลูกได้อย่างเต็มที่ หลังจากสถิติการเพิ่มจำนวนของประชากรในกลุ่มประเทศที่ดำเนินนโยบายเช่นนี้ดำเนินไปในทิศทางที่มีประสิทธิภาพ”

อีกประเด็นที่ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ได้กล่าวถึงก็คือเรื่อง “สวัสดิการผ้าอนามัย” ของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ที่นายกรัฐมนตรี “จาซินดา อาร์เดิร์น” ได้ตัดสินใจจัดสรรงบประมาณกว่า 2.6 ล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์ ให้แก่กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อช่วยดูแลจัดเตรียมผ้าอนามัยฟรีให้โรงเรียนทั่วประเทศ

“นี่เป็นตัวอย่างเพียงส่วนน้อยเกี่ยวกับนโยบาย หรือกฎหมาย ที่มีการเปิดโอกาสให้ผู้หญิงสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างปราศจากความกังวลในสถานะอื่นๆ ที่อาจสร้างความแตกต่าง และความเหลื่อมล้ำให้เกิดขึ้น ซึ่งเชื่อว่าทางรัฐบาล และรัฐสภาไทย ก็ได้ตระหนักและมองเห็นโอกาสที่จะเกิดขึ้นสำหรับนโยบาย และกรอบกฎหมายเหล่านี้ จึงขอเป็นอีกเสียงในนามพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีนโยบายสำหรับผู้หญิง เพื่อสิทธิที่ผู้หญิงพึงจะได้ ออกมานำเสนออย่างต่อเนื่อง ในการกระตุ้นเตือนภาคส่วนที่เกี่ยวข้องสำหรับการให้ความสำคัญต่อประเด็นตรงนี้อย่างหนักแน่น และด้วยความเข้าใจโดยแท้จริง” นางสาวศิริภา กล่าวทิ้งท้าย

Related Posts

Send this to a friend