HUMANITY

เปิดเส้นทาง ‘โรฮิงญา’ ถูกทิ้งเกาะกลางทะเลสตูล การกลับมาของขบวนการนำพาและค้ามนุษย์

เปิดเส้นทาง “โรฮิงญา” ถูกทิ้งเกาะกลางทะเลสตูล การกลับมาของขบวนการนำพาและค้ามนุษย์ จ่ายค่านายหน้าหัวละ กว่า 6 หมื่นบาท พบกลุ่มนายหน้าในไทยมีเอี่ยว ขณะที่ “บิ๊กโจ๊ก” ไม่เชื่อลอยลำอยู่กลางทะเล 2 เดือนจะไม่มีคนสนับสนุน เตรียมสาวถึงทั้งขบวนการ

“ผมมาจากค่ายผู้ลี้ภัยที่เมืองค็อกซ์บาซา บังคลาเทศ เรามากันประมาณ 180 คน ลงเรือกันมา ของผมจะไปทำงานกับที่ชายที่มาเลเซีย พี่ชายทำงานที่นั่นมากว่า 10 ปีแล้ว ส่วนตัวผมก็อยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยมากว่า 10 ปีแล้วตั้งแต่ยังเด็ก จึงอยากไปทำงานอยากมีชีวิตที่ดีกว่าการเป็นผู้ลี้ภัย ที่อาจต้องเป็นตลอดชีวิต เพราะมองไม่เห็นหนทางว่าจะได้รับสิทธิความเป็นพลเมืองของประเทศต้นกำเนิดของผมได้เมื่อไหร่”

นาบิ ฮัสซัน ในวัย 26 ปี พูดภาษอังกฤษได้ดีพอสมควร เขาได้เรียนในค่ายผู้ลี้ภัย และยังเป็นครูอาสาสมัครไปด้วย เขามีบัตรผู้ลี้ภัยตั้งแต่ปี 2008 เป็นชาวโรฮิงญารุ่นแรกๆที่ต้องกลายเป็นผู้ลี้ภัย ก่อนที่เกือบล้านคน ต้องอพยพจากรัฐยะไข่ ไปยังเมืองค็อกซ์บาซา ประเทศบังคลาเทศ และอีกหลายประเทศทั่วโลก จากการประหัตประหาร ถูกไล่เผาบ้าน และหนีความตาย จากแผ่นดินกำเนิดที่ไม่เคยได้รับสิทธิ ที่จะมีแม้แต่สัญชาติ และความเป็นมนุษย์

นาบิ บอกว่าเขาจ่ายเงินให้นายหน้า 1 แสนธากา (เงินสกุลบังคลาเทศ) โดยจ่ายก่อนเดินทาง 4 หมื่นธากา และจ่ายที่เหลือเมื่อถึงเป้าหมายที่มาเลเซีย พวกเขาล่องเรือมาจากชายฝั่งบังคลาเทศ โดยเรือลำใหญ่ ก่อนจะมาแยกเป็น 3 ลำ ซึ่งเวลานั้นเขาไม่รู้ว่าอยู่ชายฝั่งประเทศอะไร จนกระทั่ง เรือลำสุดท้ายของพวกเขา พามาทั้งไว้ที่เกาะกลางทะเลที่มารู้ว่าคือประเทศไทยเมื่อถูกนำตัวมาขึ้นฝั่งนี่เอง

นาบิ เป็นชาวโรฮิงญา ในจำนวน 59 คน ที่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติตะรุเตา พบว่าถูกทิ้งไว้บริเวณเกาะบูตัง หรือเกาะตง บ้านเกาะหลีเป๊ะ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมืองสตูล จ.สตูล(ห่างจากเกาะหลีเป๊ะประมาณ 20 กม.) เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.65 เป็นชาย 31 คน หญิง 23 คน และเด็ก 5 คน ทุกคนอยู่ในสภาพอิดโรย หิวโซ เพราะถูกทิ้งมาไม่ต่ำกว่า 5 วัน ก่อนจะถูกนำตัวมาที่ กองร้อย ตชด.436 เพื่อให้การช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม และทำการคัดแยกว่าเป็นเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์หรือไม่

จากรายงานของชุดสืบสวนภูธรจ.สตูล ที่รายงาน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร.ระบุว่า ชาวโรฉิงญากลุ่มนี้มาจากประเทศบังคลาเทศและประเทศเมียนมา รวม 178คน เสียค่าใช้จ่ายหัวละ 5,000 ริงกิต หรือประมาณ 40,000 บาท โดยจ่ายให้กับขบวนการลักลอบนำพาไปส่งที่ประเทศมาเลเซียผ่านทางประเทศไทย มีชาวมาเลเซียเป็นหัวหน้า ซึ่งถูกแบ่งเป็น 2 ชุด ชุดแรกถูกนำส่งที่มาเลเซียแล้ว จำนวน 119คน แต่ทราบ ภายหลังว่ากลุ่มแรกถูกเจ้าหน้าที่ทางการมาเลเซียจับกุมแล้ว ส่วนชุดที่สอง ซึ่งเป็นกลุ่มที่พบบนเกาะดง จำนวน 59 คน ถูกนำมาปล่อยให้อยู่บนเกาะตง โดยคนขับเรือที่มาส่ง ได้แจ้งกับทุกคนว่ามาถึงประเทศมาเลเซียแล้ว ก่อนเจ้าหน้าที่จะมาพบ คาดว่าขบวนการลักลอบนำพาพยายามหลบเลี่ยงที่จะไม่เข้ามาในพื้นที่ประเทศไทยเพราะกลัวถูกจับกุม โดยเชื่อว่าอาจเกิดปัญหากับทางนายจ้างชาวมาเลเซียผู้นำพา จึงได้ตัดสินใจปล่อยคนกลุ่มนี้ และหลบหนีไป

จากรายงานพบว่าก่อนหน้านี้วันที่ 30 เม.ย.65 เจ้าหน้าที่มาเลเซีย ได้เข้าควบคุมเรือที่บรรทุกผู้อพยผิดกฏหมายชาวโรฮิงญา ที่รัฐเปรัค สามารถควบคุมตัวได้ 144 คน

1 พ.ค.65 ตรวจพบเรือโรฮิงญา 1 ลำบริเวณด้านทิศตะวันตกของเกาะลังกาวี รัฐเคดาห์ มาเลเซีย ควบคุมชาวโรฮิงญาได้ 31 คน

24 พ.ค.65 เจ้าหน้าที่มาเลเซียได้เข้าตรวจค้นเรือประมงท้องถิ่น 1 ลำบริเวณใกล้ร่องน้ำสุไหง รัฐเคดาห์ พบคนมาเลเซีย 4 คน พร้อมชาวโรฮิงญา 119 คนที่ซ่อนในช่องเก็บปลาใต้พื้นเรือ

และ 4 มิ.ย.65 อุทยานแห่งชาติตะรุเตา พบกลุ่มชาวโรฮิงญา ถูกทิ้งไว้ที่เกาะบูตัง กลางเทะเลสตูล

จากเส้นทางอพยพชาวโรฮิงญาจากชายฝั่งบังคลาเทศ ไปถูกจับกุมที่น่านน้ำมาเลเซีย และถูกทิ้งกลางเกาะสตูล เป็นเส้นทางอพยพของชาวโรฮิงญา เป็นเส้นทางการค้ามนุษย์ ที่เคยพบเรือมนุษย์โรฮิงญาเมื่อ 8 ปีก่อน และถูกใช้มาอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่ไม่มีใครจับได้ หรือถูกทิ้งไว้เป็นพยานหลักฐานแบบนี้

The Reporters ตรวจสอบพบว่า มีการจ่ายเงินให้นายหน้าที่อยู่ในประเทศไทย และมีสลิปการจ่ายเงินเป็นบัญชีธนาคารในประเทศไทย ที่เชื่อได้ว่า ขบวนการลักลอบนำพาชาวโรฮิงญา ที่อาจเป็นการค้ามนุษย์ด้วยนั้น มีขบวนการในประเทศไทยเกี่ยวข้องด้วยอย่างแน่นอน

ผ่านมา 8 ปีที่มีการจับกุมขบวนการค้ามนุษย์โรฮิงญา กว่า 100 คน ทั้งนักการเมืองท้องถิ่น ทหารตำรวจ และพลเรือน ฐานเป็นอาชญากรข้ามชาติ และค้ามนุษย์ ศาลอุทธรณ์ พิพากษาจำคุกสูงสุด 96 ปี และ พล.ท.มนัส คงแป้น อดีตนายทหารระดับสูงในกอรมน.ภาค 4 ได้เสียชีวิตในเรือนจำ ระหว่างถูกคุมขัง และ พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ อดีตหัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวนคดีนี้ยังลี้ภัยอยู่ในประเทศออสเตรเลีย

แต่ ขบวนการค้ามนุษย์ ยังคงดำเนินอยู่ อย่างไม่เคยหยุด !!!!!

Related Posts

Send this to a friend