พี่สาววันเฉลิม ยื่นหนังสือถึงสถานทูตกัมพูชาทวงถามความคืบหน้าคดี ‘วันเฉลิม’
พี่สาววันเฉลิม ยื่นหนังสือถึงสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชา เพื่อขอเข้าพบตัวแทนทูต ทวงถามถึงความคืบหน้าคดีการสูญหายของวันเฉลิม
วันนี้ (2 มิ.ย. 65) นางสาวสิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาวของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พร้อมด้วยนายสมยศ พฤษาเกษมสุข และตัวแทนมูลนิธิผสานวัฒนธรรมเข้ายื่นหนังสือต่อสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย เพื่อพูดคุยสอบถามความคืบหน้าเกี่ยวกับการสืบสวนสอบสวนกรณีการสูญหายนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ นักกิจกรรมชาวไทย หลังถูกอุ้มหายหน้าที่พัก ใจกลางกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา
นางสาวสิตานัน ระบุว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากทั้งกระบวนการยุติธรรมทั้งไทย และกัมพูชา จากหลักฐานที่ส่งให้ทางฝ่ายสืบสวนสอบสวนของกัมพูชา เราเชื่อว่าเป็นประโยชน์มาก และวันเฉลิมหายตัวไปที่กัมพูชาจริง ๆ เหมือนทั้งสองรัฐในตอนนี้กำลังผลักความรับผิดชอบตลอดสองปีที่ผ่านมา
อีกทั้งเราได้เดินทางไปยื่นหนังสือทุกที่เพื่อขอให้กดดันทางการกัมพูชา ให้เปิดเผยผลการสืบสวนคดีเท่าที่จะทำได้ และเราจะเดินทางมาติดตามความคืบหน้าของคดีที่สถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาทุกปี แม้ว่าเราจะรู้ว่าเข้าไปข้างในไม่ได้ พร้อมฝากถึงทุกคนให้ช่วยติดตามคดีนี้กันต่อ เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับนักเคลื่อนไหวทางการเมืองคนอื่นอีก
ด้านนางสาวมนทนา ดวงประภา ตัวแทนจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ระบุว่า การสืบสวนสอบสวนที่กัมพูชายังไม่สิ้นสุด สิ่งที่เราตั้งคำถามในตอนนี้คือ การทำงานของหน่วยงานกระบวนการยุติธรรมของกัมพูชาว่าสอบสวนถึงไหนแล้ว ได้แจ้งครอบครัวไหมว่าผลเป็นอย่างไร ในทางฝั่งไทยเองยื่นเอกสารที่ส่งไปดีเอสไอเพื่อให้ดำเนินการคดีนี้เป็นคดีพิเศษหลังจากรับเรื่องแล้ว ได้ทำอะไรมากกว่านั้นหรือไม่
นายสมยศ ระบุว่า การแก้ปัญหาการอุ้มหายต้องเริ่มจากการมีประชาธิปไตยที่แท้จริง จะต้องมีกฎหมายเพื่อตรวจสอบหารอุ้มหาย มีความร่วมมือระหว่างประเทศ ให้สิทธิผู้ลี้ภัย ทำให้เป็นประเทศเป็นประชาธิปไตยมีเสรีภาพมากขึ้นและลดทอนงบประมาณทางการทหารที่ใช้ในภารกิจลับ นอกจากนี้ผู้ลี้ภัยหรือผู้มีความเห็นต่างควรได้รับการนิรโทษกรรม ให้กลับมาเป็นพลเมืองได้ตามปกติ และการลี้ภัยมักเกิดจากการยึดอำนาจ ถ้าการเมืองปกติก็ไม่ต้องลี้ภัย
ในเวลาต่อมามีการแถลงการณ์จากตัวแทนมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ถึงข้อเรียกร้องต่อทางการกัมพูชาเพื่อให้เปิดเผยรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีการสูญหายของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ โดยมีข้อเรียกร้องดังนี้
1.รัฐบาลกัมพูซาจะต้องทำการสืบสวนสอบสวนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ซักช้า ดำเนินมาตรการที่จำเป็นในการทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องรับผิดในทางอาญา
2.ศาลชั้นต้นกรุงพนมเปญจะต้องประกันสิทธิของผู้ที่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้องโดยชอบธรรมในการเข้าถึงข้อมูล และความคืบหน้าของการสืบสวนสอบสวนกรณีนายวันเฉลิม ป้องกันไม่ให้เกิดความล่าช้าโดยปราศจากเหตุผลอันสมควรในการค้นหาผู้สูญหาย เคารพหลักการค้นหา (Guiding Principles) ผู้สูญหาย รวมทั้งหลักที่ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้สูญหายยังมีชีวิตอยู่ การเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ การต้องเริ่มต้นอย่างเร่งด่วนในการสืบสวนสอบสวน การใช้ข้อมูลอย่างเหมาะสม
3.หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเคารพพันธกรณีที่จะต้องค้นหาผู้สูญหายต่อไปอย่างต่อเนื่องจนกว่าชะตากรรมของผู้สูญหายจะเป็นที่ปรากฎ โดยปราศจากข้อแม้ประการใด
