เครือข่ายกะเหรี่ยงและชาวเล ออกแถลงการณ์ กรณีการเสียชีวิตของบิลลี่ นายพอละจี รักจงเจริญ ระบุรัฐต้องเร่งหาฆาตกร และผู้อยู่เบื้องหลังมาลงโทษ
หลังจากที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้แถลงข่าววานนี้ (3 กันยายน 2562) ยืนยันว่าได้พบชิ้นส่วนกระดูกชั้นในชิ้นสำคัญที่ตรวจพิสูจน์แล้วว่าเป็นของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ นักปกป้องสิทธิมนุษยชนชาวกะเหรี่ยงที่ถูกบังคับสาบสูญไปตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน 2557 ซึ่งเป็นเวลากว่า 5 ปี 5 เดือน โดยพิจารณาจากหลักฐานพบว่าถูกทำให้เสียชีวิตโดยไม่ทราบวิธีการ และถูกนำมาเผาทำลายอำพรางคดี เครือข่ายกะเหรี่ยง และชาวเลในประเทศไทย ได้ร่วมกันแถลงท่าที ดังต่อไปนี้
1. ขอขอบคุณ และเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องที่ทุ่มเททำงาน จนสามารถพิสูจน์วัตถุพยานได้ อันจะนำไปสู่การดำเนินคดีเพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับครอบครัว ชุมชน รวมถึงเครือข่ายฯ ที่ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนในครั้งนี้
2. ขอเรียกร้องให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โปรดเร่งดำเนินการสอบสวน จับกุมผู้กระทำผิดรวมถึงผู้มีส่วนร่วมมาดำเนินคดีโดยเร่งด่วน รวมถึงให้มีการดำเนินคดีผู้กระทำผิดในกรณีวางเพลิงเผาทรัพย์ชุมชนบ้านใจแผ่นดิน-บางกลอยบน กว่า 100 หลังคาเรือน และบ้านปู่คออี้ ที่ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ
3. ขอเรียกร้องให้รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามมติ ครม.วันที่ 2 มิถุนายน 2553 และ 3 สิงหาคม 2553 ในการคุ้มครองวิถีชีวิตชาวเล และกะเหรี่ยงอย่างเป็นรูปธรรม ตามคำวินิจฉันของศาลปกครองสูงสุดกรณีสิทธิชุมชนท้องถิ่นดั้งเดิมบ้านใจแผ่นดิน-บางกลอยบน ที่นายบิลลี่เป็นผู้สานงานฟ้องร้องจนได้รับชัยชนะ
4. ขอเรียกร้องให้ประเทศไทยบัญญัติกฏหมายคุ้มครองนักปกป้องสิทธิมนุษยชน และกฏหมายว่าด้วยการกระทำทรมาน และการบังคับให้หายสาบสูญตามหลักสาก
