โฆษก กต. ย้ำรัฐบาลเร่งช่วยคนไทยให้ปลอดภัยก่อน ไม่ว่าเป็นเหยื่อหรือทำผิดกฎหมาย
โฆษก กต. เผยภารกิจเล้าก์ก่ายไม่ง่าย อาศัยความร่วมมือหลายฝ่าย คาดรอช่วยเหลือจากพื้นที่อีกไม่เกินร้อยคน ย้ำรัฐบาลเร่งช่วยคนไทยให้ปลอดภัยก่อน ไม่ว่าเป็นเหยื่อหรือทำผิดกฎหมาย
วันนี้ (20 พ.ย. 66) นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศ ในฐานะโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน เกี่ยวกับการช่วยเหลือคนไทย 266 คน จากเมืองเล่าก์ก่าย รัฐฉาน สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า เนื่องจากเป็นเรื่องที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน ที่ผ่านมากระทรวงการต่างประเทศจึงไม่ได้ให้ข้อมูลมากนัก แต่สิ่งสำคัญสำหรับรัฐบาลคือ ไม่ว่าคนไทยที่ไปจะเป็นเหยื่อ หรือไปทำงานอย่างถูกกฎหมายหรือไม่ แต่เมื่ออยู่ในภาวะเหตุการณ์ที่ไม่ปลอดภัยต่อชีวิต รัฐบาลก็ต้องช่วยไว้ก่อน จึงมีคนไทยกลับมาแล้วเมื่อคืนนี้ (19 พ.ย. 66) เป็นจำนวน 266 คน
“เป็นปฏิบัติการที่ไม่ง่ายเลย ไม่ง่ายเลย จริง ๆ ตั้งแต่ทำภารกิจอพยพคนไทยในอิสราเอล ก็มีภารกิจเล้าก์ก่ายขึ้นมาด้วย เป็นความละเอียดอ่อนในการประสานกับฝ่ายต่างๆ เจ้าหน้าที่สถานทูตไม่สามารถแม้แต่จะลงพื้นที่ได้ เพราะมีการสู้รบกันอยู่ ก็ดีใจที่ได้กลับมาแล้ว” นางกาญจนา กล่าว
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันว่า ประเด็นเล้าก์ก่ายมีการทำงานกันมายาวนาน ด้วยความร่วมมือของหลายฝ่าย แต่ไม่อาจบอกตัวแปรสำคัญที่ทำให้ได้ส่งคนไทยกลับเมื่อวานนี้ได้ เนื่องจากมีความละเอียดอ่อนของข้อมูล แต่ต้องขอบคุณความร่วมมือของหลายฝ่ายในครั้งนี้ และสาเหตุที่ไม่ให้สื่อมวลชนเข้าทำข่าวเมื่อวานนี้ เนื่องจากมีทั้งส่วนที่เป็นเหยื่อ และส่วนที่เป็นกรณีอาชญากรรม
นางกาญจนา ยังชี้แจงขั้นตอนดำเนินการกรณีคนไทย 266 คนว่า อยู่ในกระบวนการคัดกรองว่า เป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์ หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมหรือไม่ ซึ่งใช้ระยะเวลาพอสมควร
ทั้งนี้ นางกาญจนา คาดว่า ยังคงมีคนไทยหลงเหลือและยังรอการช่วยเหลืออยู่ในเมียนมา เนื่องจากเมื่อวานนี้ก็มีคนไทยกลับมาโดยไม่ปรากฏในรายชื่อมาก่อน แต่คาดว่าคนไทยที่ยังรอการช่วยเหลือคงไม่ถึง 100 คน จึงคาดว่าจะใช้กระบวนการที่ใกล้เคียงกับกระบวนการที่พาคนไทยกลับมานี้
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง ได้ประสานงานและสนับสนุนงบประมาณให้กับมูลนิธิอิมมานูเอล เพื่อจัดส่งเสบียงและอาหารช่วยเหลือให้กับคนไทยที่ได้รับผลกระทบด้วย แม้ความเป็นอยู่จะไม่สุขสบายนัก เนื่องด้วยสถานการณ์สู้รบ
นางกาญจนา ยังเปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตลอดจนนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ต่างให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ จึงได้กำชับให้สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการทำงานตลอดเวลา เนื่องจากอยู่ในสถานการณ์สู้รบกันระหว่างชนกลุ่มน้อยกับทางการ
“เราอยากให้ทุกคนได้ออกมาสู่สถานการณ์ที่ปลอดภัยก่อน อันนี้ทุกฝ่ายให้ความสำคัญ” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าว