สัตวแพทย์ เผย เนื้อไก่ไม่ใช่ต้นเหตุของโรคเกาต์ แนะบริโภคแต่พอดี

ผศ.สพ.ญ.ดร.นวลอนงค์ สินวัต อาจารย์ประจำภาควิชาเวชศาสตร์และทรัพยากรการผลิตสัตว์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า เนื้อไก่เป็นแหล่งโปรตีนชั้นดี ไขมันน้อย แคลอรี่ต่ำ เป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพเมื่อรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม สามารถรับประทานได้ทุกคน อีกทั้งราคาเข้าถึงง่าย ส่วนความเชื่อว่าการรับประทานเนื้อไก่หรือสัตว์ปีก เป็นสาเหตุของการเกิดโรคเกาต์ ยืนยันว่า ‘การกินไก่ไม่ใช่สาเหตุของการเกิดโรคเกาต์’

โรคเกาต์ เกิดจากการที่ร่างกายไม่สามารถควบคุมกรดยูริก (Uric Acid) ให้อยู่ในระดับสมดุลได้ ไม่สามารถขับกรดยูริกออกไปได้เป็นปกติ จึงเกิดการสะสมของกรดยูริกในกระแสเลือดและตามข้อปริมาณมากจนเกิดการอักเสบ ทั้งนี้ กรดยูริกเป็นสารที่ร่างกายผลิตขึ้นได้เองและอาหารที่รับประทานเป็นอีกส่วนหนึ่ง โดยผู้ที่มีสุขภาพดี ไม่มีโรคประจำตัว ระบบการทำงานของร่างกายจะขับกรดยูริกออกมาทางปัสสาวะตามปกติ ไม่เกิดการสะสมในร่างกายมากเกินไป ร่างกายจึงอยู่ในภาวะปกติ

เนื้อไก่ มีสารทางชีวโมเลกุลที่เรียกว่า ‘พิวรีน’ ช่วยให้การทำงานของร่างกาย ระบบเซลล์ ทำงานได้ตามปกติ เมื่อพิวรีนเข้าสู่ร่างกาย จะผ่านกระบวนการเมตาบอลิซึม ถูกเปลี่ยนแปลงและย่อยไปอยู่ในรูปกรดยูริก ทั้งนี้ พิวรีนไม่ได้มีอยู่ในเฉพาะเนื้อไก่ แต่มีอยู่ในอาหารหลาย ๆ ประเภท เช่น เนื้อสัตว์ชนิดอื่น หอย เครื่องในสัตว์ ผักบางชนิด รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในอาหารแต่ละชนิดจะมีปริมาณพิวรีนแตกต่างกัน ดังนั้น ไม่ใช่เพียงเนื้อไก่ที่มีพิวรีน อาหารชนิดอื่นก็มีเช่นกัน

สำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคเกาต์ควรสังเกตอาการตนเองว่าเมื่อรับประทานเนื้อไก่แล้วมีอาการหรือไม่ หากไม่เกิดอาการก็สามารถรับประทานไก่ได้ แต่ควรรับประทานในปริมาณที่พอดี รวมถึงอาหารชนิดอื่น ๆ ด้วย หากรับประทานอาหารใดแล้วทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการปวดข้อกำเริบ ต้องหลีกเลี่ยง ควบคู่กับการดูแลสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำจากแพทย์