HEALTH

ศัลยแพทย์ รพ.บางมด แนะวิธีตรวจสอบซิลิโคนเสริมจมูกและคาง ก่อนตัดสินใจทำสวย

นายแพทย์ ธนัญชัย อัศดามงคล แพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง และผู้อำนวยการศูนย์ศัลยกรรมความงาม รพ.บางมด ล่าสุดได้แนะวิธีตรวจสอบซิลิโคนเสริมจมูกและคาง หลังมีข่าวพบซิลิโคนเถื่อนไม่ได้มาตรฐาน พร้อมกันนี้ได้เตือนประชาชน เลือกสถานบริการที่น่าเชื่อถือ และตรวจสอบได้ เนื่องจากการบุกทลายโรงสีร้างใน อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ลักลอบผลิตซิลิโคนเถื่อน ส่งคลินิกเสริมความงามทั่วประเทศ ล่าสุดตำรวจ ปคบ.ยังพบรายชื่อลูกค้าซิลิโคนโรงสีข้าว กระจายอยู่ในคลินิกอื่นๆอีกมากกว่า 30 แห่ง ทั้งในกรุงเทพฯ ปทุมธานี นนทบุรี และสมุทรปราการ

นายแพทย์ ธนัญชัย กล่าวว่า “ สำหรับซิลิโคนแท่งที่ใช้ในการเสริมจมูก/คาง จะมี 2 รูปแบบ คือ
1.มาเป็นแผ่นใหญ่ แล้วให้ศัลยแพทย์นำไปตัดแบ่ง/เหลาเองในแต่ละเคส หากซิลิโคนมาแบบเป็นแผ่นใหญ่ ควรจะมีชื่อบริษัท และเลข LOT/serial number อยู่ที่ package ของแผ่นใหญ่ ที่มาจากโรงงาน ซึ่งหากศัลยแพทย์ตัดแบ่งเป็นชิ้นย่อยๆ แล้วจะต้องนำซิลิโคนไป sterile ก่อนใช้ในการผ่าตัดแต่ละเคสแล้ว โดยใน pack sterile ย่อยๆเหล่านั้น ควรจะต้องมีเลข LOT แยกออกมาในแต่ละชิ้นแบบชัดเจนด้วย

โดยสรุปสิ่งที่สามารถตรวจสอบ หรือสอบถามจากทางคลินิก หรือโรงพยาบาลได้ในกรณีนี้ คือ
1.ชื่อยี่ห้อของซิลิโคนที่ใช้ (เป็นสิ่งสำคัญที่สุด) 2.เลข LOT/serial number ที่มาใน package ใหญ่ ซึ่งในอดีตโรงพยาบาล หรือ คลินิก อาจจะไม่ได้เก็บข้อมูลส่วนนี้ไว้ ดังนั้นหากขอตรวจสอบย้อนหลังจะทำได้ลำบาก แต่หากคนที่ต้องการเสริมใหม่ ควรจะสามารถขอดูและตรวจสอบได้

2 แบบสำเร็จรูป ทำเป็นรูปทรงมาเรียบร้อยแล้ว หากซิลิโคนนั้นทำมาเป็นแบบสำเร็จรูป หมายถึงขึ้นรูปมาจากโรงงานแล้ว ส่วนมากจะแยกเป็น package ย่อยๆ และ sterile ไว้แล้ว ในกรณีเช่นนี้ จะมีเลข LOT หรือ serial number แยกมาในแต่ละชิ้น ซึ่งสิ่งที่สามารถตรวจสอบได้คือ ชื่อยี่ห้อซิลิโคน และเลข LOT/serial number ที่แยกมาเช่นเดียวกัน

“ในกรณีถุงซิลิโคนสำหรับเสริมหน้าอก หรือ เสริมก้น/สะโพก การตรวจสอบจะทำได้ง่ายกว่าซิลิโคนเสริมจมูกและคาง เพราะทางบริษัทจะมีกล่องแยกมาอย่างชัดเจน มีชื่อผลิตภัณฑ์ ขนาด เลข LOT/serial number ที่ชัดเจน และยังมี card หรือใบรับประกัน ทั้ง paper หรือ online ให้คนไข้เก็บไว้อีกด้วย อย่างไรก็ตามขอฝากย้ำเตือน เพื่อความปลอดภัยในการทำศัลยกรรมความงาม ทุกท่านควรตรวจสอบ และเลือกวัสดุที่ปลอดภัย มีมาตรฐานทางการแพทย์ และผ่าน อย. เท่านั้น นอกจากนี้ควรหาข้อมูลให้รอบด้าน เลือกศัลยแพทย์ที่เชี่ยวชาญ และโรงพยาบาลหรือคลินิกที่ได้มาตรฐาน”

Related Posts

Send this to a friend